“ผมตั้งเป้าว่าวิ่งเดลิเวอรี่ได้วันละ 900 พี่”
900x25 = 22,500 บาท คือรายได้ที่น้องที่รู้จักตั้งเป้าหมายไว้
“แต่เมื่อวานผมดันได้ 1200 หนะ”
น้องชายคนนี้เพิ่งจบใหม่ค่ะ เพิ่งจบปริญญาตรี (ยังไม่รับปริญญาเลย) เป็น First Jobber เรารู้จักน้องมานาน 2 ปีแล้วค่ะ เป็นคนขยัน แถมไม่หยุดเรียนรู้ค่ะ ตอนทำงานด้วยกัน เค้าตั้งใจทำงาน มี 100 ใส่ 120 ทำเกินเงินเดือนตลอด ตำแหน่งตัวเองคือ ดูแลเอกสาร แต่เค้าบอกให้ไปดูแลส่วนอื่นก็เต็มใจ ทั้งที่ๆ ไม่ต้องไปทำก็ได้
บอสบอกว่า “เดี๋ยวจะมีช่างเข้ามาวันอาทิตย์นะ”
“โอเค ได้ครับ”
ไม่มีเบะปาก มองบน แล้วบ่นว่า “ให้กุมาทำไมวะ”
Source - Pixabay
แน่หละว่าทุกที่ทำงานไม่ได้เป็นแบบนี้ บางบริษัทบอสไม่พอใจก็ไล่ออกง่ายๆ แต่ที่นี่ไม่ใช่แบบนั้น งานประจำที่น้องเคยอยู่ มั่นคงสบาย ออกรถ ออกบ้านได้ สบายจนเกิด Comfort Zone
แต่ มันไม่มีเวลาหนะสิ เมื่อเร็วๆ นี้ได้ข่าวว่าน้องลาออกจากงานประจำ(ที่มั่นคงในระดับหนึ่ง) คือเค้าไม่มีวันไล่ออก ตราบใดที่ยังเป็นบอสคนเดิม
ที่ทำงานแถวต่างจังหวัด ทำงาน 6 วัน มีวันหยุดแค่ 1 วัน หายใจ ซักผ้า ทำงานบ้าน พักผ่อน วันอาทิตย์ก็ผ่านไปโดยที่คุณแทบยังไม่รู้ตัว
ทำไมถึงไม่ไปสมัครงานต่อหละ
“ตอนนี้ผมยังสนุกกับการหาเงินแบบนี้ครับ ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย”
เราพยักหน้างึกงัก
แถมเป้าหมายของน้องคือ สอบราชการ แน่หละว่า ขับเดลิเวอรี่แบบนี้ กลับมาพักผ่อน ตื่นมาอ่านหนังสือเพื่อสอบราชการ แบบนี้ดีกว่างานประจำแน่ๆ
Source - Pixabay
ถ้าจะมาเถียงกันว่า งานประจำมั่นคงกว่างานอิสระนะ คงเถียงกันยาก ต่างความคิด ความเห็น
สุดท้ายแล้วเรามองว่า บางทีชีวิต ณ ตอนนี้คือ คุณหาเงิน หาประสบการณ์ ทำเต็มที่ทุกงาน คุณไม่อดตายแน่นอน ที่เหลือมันอยู่ที่คุณหาโอกาส คุณอยากไปได้ไกลแค่ไหนหละ
ส่วนคำคน คำครรหา ก็เลือกอย่าไปใส่ใจ เราทำเต็มที่ ณ วินาทีนี้ ณ ที่ที่เราอยู่ตรงนี้ดีกว่ามาก
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้มนุษย์ฟรีแลนซ์ และ มนุษย์เงินเดือนทุกคนนะคะ
เพื่อนๆ หละคะคิดว่ายังไงคะ งานประจำหรืองานฟรีแลนซ์ที่ตอบโจทย์คุณได้มากที่สุด แวะมาแสดงความคิดเห็นกันได้ค่ะ
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
