29 มิ.ย. 2022 เวลา 08:17 • ครอบครัว & เด็ก
ขอยกเลิกการเขียนเรื่อง "แม่ยายอลวลลูกเขยอลเวง"
ที่ผมตั้งใจ post เรื่องแม่ยายที่มีนิสัยแปลกๆ เพราะผมอึดอั้นตันใจมาหลายปี ตั้งแต่เริ่มคบกับแฟนสมัยเรียนปริญญาโท จนได้แต่งงานมีลูกที่น่ารัก 2 คนเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ ยอมรับว่าแม่ยายมีอิทธิพลต่อครอบครัวผมมาก ท่านติดแฟนผมซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กจากลูกๆทั้งหมด 5 คน และแฟนผมรับหน้าที่หลักในการดูแลแม่อีกด้วย
ทุกครั้งที่ไปเที่ยวด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่ ครอบครัวผมต้องให้แม่ยายมานอนด้วย หากไปโรงแรมครอบครัวผมต้องพัก Family room หรือหากไม่มีผมก็ต้องแยกมานอนต่างหาก ซึ่งจริงๆแล้วหากไม่มีปัญหาอะไรก็เป็นเรื่องที่รับได้ แต่ด้วยนิสัยที่แปลกๆของแม่ยายทำให้การใช้ชีวิตที่ปกติของผมออกจะดูขัดหูขัดตาแกทำให้มีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ช่วงแรกแรก ผมก็ยอมๆแก แต่นานไปมันชักมากขึ้น และบางเรื่องมันไม่สมเหตุสมผล
ผมก็จะตีมึนและกวนบาทาแกบ้างบางครั้ง พอกวนแกก็จะอารมณ์ขึ้นและจะหาเรื่องทะเลาะกับผม แฟนผมที่เป็นคนกลางก็จะมาห้าม และทุกครั้งก็จะลงเอยด้วยการที่ผมต้องขอโทษ แต่พี่ๆไม่มีใครขอให้แม่ปรับปรุงตัวเองเลย หรือไม่มีใครกล้าชี้เลยว่ากรณีแม่ก็ทำไม่ถูก ผมระบายความอึดอัดที่โดนมาตลอดหลายปีกับผู้ใหญ่ที่ผมเคารพนับถือ ท่านก็สอนว่า "จะเอาชนะแกไปเพื่ออะไร ไม้อ่อนดัดง่ายไม้แก่ดัดยาก แกอยู่กับเราอีกได้อีกนานสักเท่าไหร่"
ผมก็ได้แนวคิดนี้ยึดเหนี่ยวจิตใจและอดทนมาตลอด ส่วนแฟนผมนั้นนานวันเข้าก็เกิดอาการหลอน วิตกจริตทุกครั้งที่ผมกับแม่ยายต้องมาเจอกัน แฟนผมจะเกร็งและเครียดโดยไม่รู้ตัว เธอบอกผมว่า เธอมีความรู้สึกเหมือนกับว่า "เดี๋ยวสามีกับแม่จะทะเลาะกันอีก เดี๋ยวสามีกับแม่จะทะเลาะกันอีก" เป็นคำพูดหลอนมาในจิตใต้สำนึกของเธอ และเมื่อมันถึงขีดสุดคือเวลาผมกับแม่ยายทะเลาะกันจริงๆ แฟนผมจะชักและโวยวายขึ้นทันที
ตีอกชกหัวตัวเองหาว่าตัวเองไม่ดีพอที่ทำให้สามีกับแม่ต้องทะเลาะกัน ผมเห็นอาการแฟนผมแล้ว เห็นสายตาลูกๆ ที่มองแม่ตัวเอง ก็ต้องยอมอีกครั้ง ผมสงสารแฟนผม แต่แม่ยายผมจะโยนความผิดที่ลูกสาวเค้าต้องเป็นอย่างนี้มาที่ผมฝ่ายเดียวเลย จากนั้นมาผมก็ปรับปรุงตัวอีกครั้ง และครั้งนี้ผมบอกเลยว่าทำได้ดีเกินที่แฟนผมคาดไว้
ไม่กวนตรีนแม่ยายต่อให้แกทำอะไรไม่สมเหตุสมผล แกจะให้ลูกคนเล็กผม(อายุ 2 ขวบกว่า) นั่งเล่นมือถือ นั่งเล่นไอแพดระหว่างนั่งรถผมก็อดทน (ปกติผมจะไม่ให้เล่นบนรถ ผมอยากลูกได้มองโลกกว้าง) จนล่าสุดช่วงหยุดยาวต้นเดือน มิ.ย. ครอบครัวแฟนผมไปเที่ยวเป็นครอบครัวใหญ่ที่หัวหิน แม่ยายก็นั่งรถมากับครอบครัวผม ชีวิตปกติของแม่ยายท่านจะนอนกลางวันพอนั่งรถท่านก็อยากงีบอยากพักผ่อน แต่ด้วยครอบครัวผมมีเด็กเล็ก
ท่านเลยต้องช่วยจับ เพราะ ลูกคนเล็กผมนั่งในคาร์ชีทข้างๆแก ลูกสาวคนโตผมนั่งแถวหลังสุด บางทีก็ยกขาพาดเบาะพาดกระจกบ้าง แม่ยายผมก็จะบ่นตลอดเพราะแกค่อนข้างหวงรถ ผมกับแฟนนั่งหน้ารถคู่กัน แฟนผมเป็นคนขับ (รถแม่ยาย ท่านหวงมากไม่ให้ผมขับ) ทำให้แกเหมือนจะหลับไม่เพียงพอ พอถึงที่พักก็หงุดหงิดเหวี่ยงใส่ลูกผมกับผมแล้วก็แฟนผม พอผมจะไปช่วยยกกระเป๋าแกก็ปัดมือผมออก แฟนผมเห็นเลยอารมณ์ขึ้น แม่ยายผมก็ไม่ยอมลง
จนพี่ๆต้องเข้ามาแยก และทริปนั้นก็ผ่านไปโดยพี่ๆแฟน มาช่วยดูแลลูกๆผม ส่วนผมต้องคอยดูแลจิตใจแฟน จากตอนแรกที่จัดห้องให้ครอบครัวผมนอนกับแม่ยาย สุดท้ายก็ไปนอนกับครอบครัวพี่สาวคนที่สองแทน ตอนเที่ยวพี่ๆก็จะพาแม่ไป แล้วผมก็จะแฟนผมไปทานโน้นกินนี่โดยแยกกับแม่
เรื่องลงเอยตรงที่แม่เค้ายอมรับผิดมาง้อแฟนผม แฟนผมก็ยอมเพราะยังไงก็แม่ลูกกันตัดกันไม่ขาด และรอบนี้แม่ยายไม่สามารถโยนความผิดใดๆ มาที่ผมได้เลย เพราะ ผมปฏิบัติตัวดี ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับแก หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้แฟนผมสร้างแรงใจขึ้นใหม่ อะไรที่ไม่สมเหตุสมผลแฟนผมจะเตือนแม่เลย ไม่ยอมให้แม่ทำตามใจตัวเองอีกแล้ว เรียกได้ว่า แกร่งขึ้นมาก
เรื่องราวของแม่ยายผมนั้น พอผม post ไป 3 ตอน ชีวิตผมก็เปลี่ยนไป ชีวิตการงานเกิดสะดุด งานที่เคยทำได้ดีก็ติดขัดปัญหา เพื่อนร่วมงานก็เริ่มตีตัวออกห่างจากที่เคยกินเที่ยวด้วยกัน ก็เริ่มห่างเหิน เรื่องมันมาจากการ post status บางอย่างที่ผมอ่านแล้วชอบ มันกระตุ้นอารมณ์สมัยผมเป็นวัยรุ่น วัยแอบรักเพื่อนขึ้นมา ซึ่งผมจะเอามาเขียนเรื่องราวใน Blockdit เป็นหัวข้อต่อไปจาก Serie แม่ยาย
พอมันเกิดความเข้าใจผิด ก็ต้องเคลียร์ พอเคลียร์ใจกันผ่านน้องคนหนึ่งในทีม ความรู้สึกที่มันแตกแยกไปแล้วก็ยากที่จะกลับคืนมา ข้อผิดพลาดนี้ผมขอรับผิดเพียงคนเดียว ที่ไม่คิดว่าการโพสของผมทำให้วุ่นวายกันไปหมด
ทั้งหมดนี้มาจากที่ผมก้าวล่วงแม่ยายผม ผมอาจจะโพสด้านร้าย แต่ด้านดีท่านมีอยู่ ท่านเป็นคนใจบุญสุนทาน มีบุญที่ไหนเพียงมาขอมาบอกแกร่วมด้วยหมด ช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากให้คนงานที่บ้านยืมเงินจนแกโดนลูกๆว่า เพราะคนงานบางคนยืมแล้วหนีไปเลย
ตอนสมัยผมยังเรียนอยู่ จะกลับบ้านต่างจังหวัดท่านก็ให้เงินติดกระเป๋ากลับ บ้าน ท่านบอกว่ากลับบ้านทั้งทีต้องมีเงินกลับไปด้วย
ท่านเคยบอกแม่ผมว่า ไม่ต้องห่วงนะเลี้ยงดูเหมือนลูกเหมือนหลาน
จริงๆแล้วตั้งใจจะเขียนแบบขำๆ ฮาๆ แต่ด้วยทักษะการเขียนการเล่นคำยังน้อยเลย ออกเป็นด้านที่กล่าวหาแม่ยายด้านเดียวโดยที่ท่านไม่มีโอกาสแก้ต่าง ในอนาคตหากผมอ่านมากขึ้นและเขียนมากขึ้น
สามารถเขียนเรื่องราวที่สลับซับซ้อนและเล่นมุกตลกได้ ผมจะกลับมาเขียน เรื่อง "แม่ยายอลวลลูกเขยอลเวง" อีกครั้ง
ด้วยความเคารพคุณแม่ยายขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงๆ อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรลูกๆหลานๆไปนานๆนะครับ
โฆษณา