29 มิ.ย. 2022 เวลา 16:59 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ผมมองจากหลายๆมุมดังนี้ครับ
“กฎหมาย”
1) มาตรฐานมลพิษที่ถูกบังคับใช้ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศจะมีแนวโน้มเข้มงวดขึ้น
พูดแบบชาวบ้านๆง่ายๆคือ เมื่อรัฐต้องการลดการปล่อยมลพิษลงจากการใช้รถที่ใช้เชื้อเพลิงที่เป็นน้ำมัน ทางรัฐจะออกกฎหมายที่จำกัดการใช้รถยนต์สันดาปภายในลงด้วยวิธีการเช่น กำหนดเพดานภาษีที่ผู้ใช้รถนำ้มันต้องจ่ายให้สูงขึ้น ตั้งแต่การต่อทะเบียน, การใช้รถนำ้มันบนทางหลวงอาจต้องจ่ายค่าผ่านทางเพิ่มเติมโดยที่รถยนต์มลพิษต่ำหรือไร้มลพิษไม่ต้องจ่ายค่าบริการใดๆเพิ่มเติมเมื่อใช้ทางหลวงที่กำหนด
(zoning)
หรือแม้กระทั่งการออกกฎหมายการจัดเก็บภาษีนำ้มันในอัตราก้าวหน้าเพื่อลดปริมาณรถนำ้มันบนท้องถนน
2) นโยบายเกี่ยวกับการลดมลพิษที่ผมเคยได้ยินมาในระดับสากล
ก็เห็นจะมี
“Carbon Neutrality” และ “Net Zero Emissions” ซึ่งได้ข่าวว่าในบ้านเราจะเป็น CN ภายในปี 2050 และจะเป็น NZE ภายในปี 2065 ซึ่งแน่นอนว่ากว่าจะถึงเวลานั้น รัฐคงทยอยออกมาตรการมาบังคับใช้เพื่อลดปริมาณการใช้รถน้ำมันบนท้องถนนอย่างเป็นจริงเป็นจังโดยไม่ต้องสงสัย
3) European Emission Standards
คุณเคยเห็นรถเมล์สีส้มๆที่ถูกเรียกว่า “รถยูโร 2 (two)” มั้ยครับ?
ผมเข้าใจว่าในกลุ่ม “สหภาพยุโรป” (EU) เขามีมาตรฐานสำหรับรถที่ถูกผลิตและจำหน่ายในกลุ่มประเทศสมาชิกของเขาซึ่งมุ่งเน้นไปในเรื่องการควบคุมดูแลมลพิษที่ถูกปล่อยออกมาจากการใช้รถยนต์
เอาพอสังเขป เช่น รถยนต์ดีเซลที่ได้มาตรฐาน EURO 6 (เข้มงวดกว่า EURO 5 นั่นคือ เลขยิ่งสูงก็จะยิ่งปล่อยมลพิษน้อยลง) จะไม่สามารถปล่อย Nitrogen Oxides (NOx) ออกมาได้ 80mg ในระยะทางการขับ 1 กิโลเมตร
“ระบบการซ่อมบำรุง”
4) ตามความเข้าใจส่วนตัวของผม บริษัทผลิตรถนำ้มันใหญ่ๆ มักจะ “สำรองอะไหล่รถในคลัง” อยู่ราวๆ
15-20 ปี
1
นั่นคือ หลังจากที่คุณถอยรถคันใหม่ออกจากศูนย์ บริษัทจะในอะไหล่ไว้บริการคุณไปราว 15-20 ปี และหลังจากนั้นอาจไม่มีการผลิตอะไหล่ออกมาสู่ท้องตลาดอีกเลย
1
ดังนั้นหากรถ EV ได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังในการผลิตและจำหน่ายทั้งภายในประเทศและการส่งออก ระบบ “supply chains” ของการผลิตอะไหล่ของรถนำ้มันอาจได้รับผลกระทบ เพราะ suppliers ที่เคยผลิตอะไหล่รถนำ้มันอาจหันไปผลิตอะไหล่รถไฟฟ้าแทบทั้งหมด และทำให้ผู้ผลิตอะไหล่รถนำ้มันหายไปจากตลาด จึงไปทำให้กฎแห่งอุปสงค์-อุปทานทำงาน นั่นก็คือ “ความต้องการ (demands) มีมากกว่า ตัวสินค้า (supplies)” จึงนำมาซึ่งราคาอะไหล่ของรถน้ำมันที่อาจพุ่งสูงขึ้นมาก และใช่ว่าคนที่ใช้รถนำ้มันทุกคนจะมีกำลังซื้อเมื่อถึงวันนั้น
“รถยนต์พลังงาน Hydrogens”
ก็จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งนอกเหนือจากรถพลังงานไฟฟ้า และเมื่อราคาของมันถูกลงโดยที่ประสิทธิภาพของมัน
เพิ่มขึ้นจนถึงจุดคุ้มทุน ตลาดรถน้ำมันก็จะมีพื้นที่ให้ยืนน้อยลงเช่นเดียวกับธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานของรถน้ำมัน
เช่นกัน
5) ผมได้รวบรวมข้อมูลพื้นฐานของรถ EV ในแง่มุมที่น่าสนใจอยู่ในข้อเขียนของผมดังนี้ครับ
โฆษณา