Bring Me The Horizon นี่คือชื่อวงร็อกแห่งยุคปัจจุบันที่จะให้บอกว่าพวกเขาคือวงระดับโลกก็กล้าเรียกได้เต็มปากอย่างแน่นอน พวกเขาก้าวขึ้นมาเป็นฮีโร่และขวัญใจของผู้นิยมชมชอบดนตรีอันหนักหน่วงได้ทั่วโลก ทุกเพลง ทุกอัลบั้มต่างได้รับการตอบรับที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ
แต่สำหรับ Bring Me The Horizon ก้าวข้ามเรื่องดังกล่าวมาได้อย่างสุดคูล แถมยังเพิ่มแฟนเพลงมาได้ตลอดจากทุก ๆ อัลบั้ม ไล่ตั้งแต่ "EP.This Is What the Edge of Your Seat Was Made For" ที่เล่นในสไตล์แมตส์คอร์/เมทัลคอร์ กับซาวด์ที่ดิบเกินบรรยาย, ตามมาด้วยอัลบั้ม "Count Your Blessing" ที่มาในสไตล์เดธคอร์แบบดุดัน จนมาถึง "Amo" ในสไตล์อิเลกทรอนิกส์ป๊อป/ร็อก จนล่าสุด "Post Human : Survivor Horror" ที่มาในรูปแบบโมเดิร์น เมทัลคอร์
นับว่าเป็นจุดที่น่าชื่นชมของวง Bring Me The Horizon ที่กล้าจะลองทำอะไรใหม่ ๆ โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบความสำเร็จเดิม ๆ
3.ใช้ LINKIN PARK เป็นแรงบันดาลใจ
.
วงดนตรีทุกวงล้วนมีอิทธิพลและแรงบันดาลใจเป็นของตัวเอง ซึ่ง Bring Me The Horizon ก็ถูกจัดรวมอยู่ในหมวดหมู่นั้นเช่นกัน และวงดนตรีที่สร้างพลังให้กับวงพวกเขาโดยตรงนั่นคือ Linkin Park
จุดสังเกตแรกคือการเปลี่ยนแปลงซาวด์ของวงที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดไม่ต่างจากวง Linkin Park ที่มักจะมีการทดลองซาวด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอในทุก ๆ อัลบั้ม โดยเฉพาะอัลบั้มสุดท้ายก่อน Chester Bennington จะเสียชีวิตนั่นคือ "One More Light" ที่มีการเปลี่ยวแนวทางมาเป็นอิเลกทรอนิกส์ป๊อป/ร็อก แบบเดียวกับอัลบั้ม "Amo" ของ Bring Me The Horizon เป๊ะ ๆ
เท่านั้นยังไม่พอพวกเขายังหยิบเอาวิธีการเรียบเรียงดนตรีและเมโลดี้การร้องมาจากวง Linkin Park ซึ่งมันคือข้อดีตรงที่ว่าทุกเพลงมันจะเต็มไปด้วยท่วงทำนองที่ติดหูทำให้ฟังง่ายและเข้าถึงง่ายขึ้นแม้ตัวเพลงจะหนักก็ตาม ซึ่งตัว Oliver Sykes เองก็ยอมรับว่ามีวง Linkin Park เป็นแรงบันดาลใจโดยตรง
ทั้งหมดนี้คือภาพที่เราเห็นได้ชัดมากตลอดระยะเวลากว่า 18 ปีที่ Bring Me The Horizon โลดแล่นอยู่ในวงการ และด้วยการที่เราเดาใจไม่ได้เลยว่าอัลบั้มต่อไปพวกเขาไปในทิศทางไหน มันก็ทำเรายิ่งรู้สึกสนุกที่จะติดตามผลงานของพวกเขาอยู่เสมอครับ