30 มิ.ย. 2022 เวลา 14:02 • การ์ตูน
EP : 1,089
WIND BREAKER
นี่เป็นเรื่องมังงะอีกเรื่องที่ผมจัดเอาไว้ในกลุ่ม “ไม่ได้อยากอ่าน” ตั้งแต่แรกเห็นว่าเรื่องนี้ได้ LC ในไทย อันนี้ผมพูดตรงๆนะ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนมีงบจำกัดอย่างผม ที่จะต้องสแกนว่าตัวเองจะซื้อหรือไม่ซื้อเรื่องไหนมาอ่าน จะให้จ่ายทุกเรื่องที่เห็นก็คงไม่ใช่ เงินมันไม่ถึง และเรื่องนี้ก็ถูกจัดเอาไว้อย่างที่บอกครับ
แต่... มันมีอยู่วันหนึ่งที่ผมไปเช็คข้อมูลจากทางฝั่งญี่ปุ่นแล้วพบว่าเรื่องนี้ได้รับความนิยมติดอันดับยอดจำหน่ายอะไรซักอย่าง คราวนี้ก็เลยเริ่มรู้สึกอยากอ่านขึ้นมาแล้วว่ามันสนุกขนาดไหนถึงติดอันดับยอดจำหน่ายได้ เพราะแม้แต่เรื่องที่ผมชอบหรืออ่านแล้วสนุกก็ใช่ว่าจะขายได้ดีซะเมื่อไหร่ ในเมื่อเรื่องนี้ขายดีในญี่ปุ่น มันก็มีความน่าลองที่จะย้ายเรื่องนี้จากกลุ่ม “ไม่ได้อยากอ่าน” มาเป็นขอลองอ่านหน่อยนะจ๊ะ เลยเป็นที่มาของเรื่องนี้ครับ “WIND BREAKER”
...คุณรู้จัก “โรงเรียนมัธยมปลายฟูริน” ไหม? โรงเรียนนี้ตั้งอยู่ในเมืองมาโคจินะ ..เปล่าโรงเรียนนี้ไม่ใช่โรงเรียนที่เด่นดังด้านการศึกษา หรือกีฬาอะไร หรือเป็นโรงเรียนคุณหนูหรอกนะ แต่ฟูริน คือโรงเรียนของนักเลง!! ใช่แล้วแหละ หากพูดถึงโรงเรียนมัธยมปลายฟูรินนี้ ทุกคนจะรู้ว่านี่คือโรงเรียนของเหล่านักเรียนนักเลง เพราะแบบนั้นจึงมีเด็กผู้ชายจำนวนมากที่ชื่นชอบเรื่องพวกนี้พยายามเข้ามาเป็นนักเรียนในโรงเรียนนี้
ไม่ใช่เพราะอยากจะทำให้โรงเรียนนี้ดีขึ้น แต่เพราะอยากพิสูจน์ความเก่ง ความแข็งแรงของตัวเองว่าไม่แพ้ใครหน้าไหน ทำให้ฟูรินก็ยังคงเป็นโรงเรียนของเหล่านักเรียนนักเลงที่มีชื่อเสีย อยู่เสมอ
…และ “ซากุระ ฮารุกะ” ก็คืออีกเด็กหนุ่ม ม.ปลายที่ต้องการพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของตัวเอง ทำให้เขาเดินทางมายังเมืองมาโคจิ เพื่อมาเป็นสมาชิกใหม่ในโรงเรียนมัธยมปลายฟูรินแห่งนี้ เพียงแต่ว่า เขาไม่คิดว่า ชื่อเสียอันเลื่องลือของฟูรินในฐานะโรงเรียนนักเลง กลับกลายเป็นเหล่าผู้พิทักษ์เมืองแห่งนี้จากเหล่าอันตพาลที่เข้ามาก่อกวนเมืองนี้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของเขาในฐานะสมาชิกใหม่ที่ต้องการบอกให้ทุกคนรู้ว่าข้าแกร่ง ในเมืองที่ฟูรินหมายถึงผู้ดูแลความสงบแห่งมาโคจิ...
นี่เป็นอีกเรื่องที่จะพูดไปภาพรวมมันคือมังงะแนวนักเรียนนักเลงเป็นสำคัญครับ เพียงแต่เรื่องขยายขอบเขตในการดูแล จากเดิมๆสมัยก่อนนอกจากจะชิงชัยการเป็นที่ 1 ของชั้นปีหรือโรงเรียน หรือระหว่างโรงเรียนด้วยกันแล้ว เรื่องนี้ยังสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้พวกเขาเป็นผู้พิทักษ์เมืองอีกด้วย เพราะฉะนั้นขอบเขตการต่อสู้จึงขยายมากขึ้นทั้งในแง่คุณภาพและปริมาณอย่างชัดเจนครับ
ด้วยการวางคอนเซปแบบนี้ ตัวผมไม่ได้มองว่ามันแปลกใหม่อะไรนะ ผมถือว่าเป็นการขยายเนื้อหาในการเล่าเรื่องเพิ่มเท่านั้นเอง และตัวเรื่องก็เกริ่นเรื่องราวออกมาแนวนี้เพื่อให้เห็นว่ามันจะต้องไปแตะขอบการปกป้องเมืองตามจังหวะและผมเชื่อว่าอนาคตจะต้องมีการพูดถึงการต่อสู้ที่มีเมืองเป็นเดิมพันบ่อยขึ้นครับ
เพราะแบบนั้นแม้เราจะเห็นว่า “เมือง” เป็นปัจจัยหลักของเหล่า “ฟูริน” ที่ต้องปกป้อง แต่เรื่องราวในช่วงต้นๆ หลังจากเปิดมาให้เราได้เห็นกันแล้วว่ามีขอบเขตมากแค่ไหน เขาก็ย้อนกลับไปเล่าถึงจุดเบสิคของเรื่องราวแนวนี้ นั่นก็คือการต่อสู้เพื่อชิงความเป็น 1 ของโรงเรียน ตามลักษณะของมังงะแนว “โชเน็น” และแนวนักเรียนนักเลงแบบที่เราคุ้นเคยกันครับ
ซึ่งถ้ามองจากในแง่นี้ ผมว่าเรื่องทำได้สนุกดีนะครับ แม้จะเต็มไปด้วยสิ่งที่คุ้นเคยอยู่ตลอดก็ตาม ก็แน่ละ ผมอ่านงานมังงะแบบนี้มากี่สิบเรื่องก็ตาม มันจะต้องมีแบบอย่างในการเล่าที่ไม่หนีกันอยู่เสมอ แต่ก็ใช่ว่ามันจะน่าเบื่อนะ เพราะทำออกมาได้สนุกในแบบที่เราคุ้นเคยนี่แหละ โดยเฉพาะคาเรทเตอร์ของตัวละคร และบรรยากาศรอบด้านในเรื่องนี้ครับ
ต้องยอมรับว่าคาเรทเตอร์ในมังงะแนวนี้ มักจะออกแบบให้ดิบหรือดูกบฐทางสังคมแบบเห็นได้ชัด เพราะตัวเอกต้องใช้กำลังในการต่อสู้เป็นหลักครับ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีตัวละครที่ออกแบบเอาไว้แนวนี้เช่นกัน แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากยุค 90 คือตัวเอกมีความเป็นไอดอล หรือเป็นตัวละครแนวหล่อมากขึ้นอย่างชัดเจน หรือจะบอกว่ามีความโดดเด่นด้านทางด้านหน้าตา
โดยไม่เน้นไปที่สรีระแม้จะเป็นเรื่องชกต่อยกันก็ตาม เรื่องนี้ชัดเจนมาก ด้วยการดึงสายตาคนอ่านจากการออกแบบที่เน้นสะดุดตา ไม่ว่าจะเป็นสีผม หรือความน่ารักชวนตกนักอ่าน ยังไม่รวมถึงตัวละครตัวอื่นๆที่จะออกแนวแฟนตาซีเล็กๆ ในเรื่องราวสายบู๊นี้ ถือเป็นจุดที่ตัวผมเอง มองว่าเขาตั้งใจที่จะเรียกนักอ่านให้มาสนใจจากการนำเสนอคาเรทเตอร์ตัวละครเป็นสำคัญครับ
ซึ่งผมถือว่าได้ผลนะ เพราะถือว่าออกแบบมาได้ตรงความชอบคนในยุคนี้อยู่ และด้วยลายเส้นที่วาดออกมาได้ดี เรื่องนี้จึงเข้ากับสิ่งที่พยายามนำเสนอนั่นก็คือ ตัวละครเท่ๆ ฉากต่อสู้ที่ชวนให้รู้สึกว่ามันเท่บาดใจจังเลย ซึ่งแม้จะขาดความเถื่อนดิบของงานแนวนี้ไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเขาขายความเท่ เพราะเรื่องราวเดือดๆในแนวนักเรียนนักเลง มันขาดความเท่ที่ชวนหลงใหลไม่ได้ ซึ่งลายเส้นเรื่องนี้ทำตรงจุดนี้ออกมาได้ดีครับ
ด้วยเรื่องราวที่เพิ่งอ่านไปได้แค่ 2 เล่ม ผมว่าเรื่องเขาเล่นในสิ่งที่ตัวเองเปิดเรื่องเอาไว้ได้ดีนะครับ ทั้งในแง่ตัวเมือง ที่เริ่มมีให้เห็นแล้วว่าจะไปทางไหน หรือในแง่การแข่งขันในโรงเรียน ซึ่งก็ใส่เข้ามาให้เห็นได้สนุกในแบบนึง เพราะแบบนั้นผมจึงมองว่าเรื่องนี้มีเส้นทางการนำเสนอที่น่าสนใจและหยิบเรื่องราวของลูกผู้ชายมานำเสนอในภาพลักษณ์ที่เท่ ในแบบฉบับของเขาได้ดีเลยครับ
“WIND BREAKER” เป็นผลงานของ อ. Nii Satoru ในบ้านเราออกมาถึงเล่ม 3 แล้ว แต่ผมเพิ่งสั่งมาอ่านถึงเล่ม 2 เองครับ กับทางค่าย PHOENIX ใครชอบแนวนักเรียนนักเลงลองไปหาอ่านได้นะครับ ยังหาอ่านได้อยู่ในตอนนี้ครับ
ส่วนตัวมองว่านี่เป็นงานแนวนักเรียนนักเลงอีกเรื่องที่มีการนำเสนอในแง่ “ความเท่” ในแบบฉบับของการต่อสู้ได้น่าสนใจเรื่องนึงในยุคนี้นะ แม้ในแง่นึงมันจะเต็มไปด้วยสิ่งที่คุ้นเคยสำหรับนักอ่านที่อ่านมังงะมาเยอะอย่างผมก็ตาม แต่มันก็สนุกแหละครับ และด้วยตัวเรื่องขยายขอบเขตมาสู่การเป็นผู้พิทักษ์
เรื่องนี้ก็กลายเป็นส่วนผสมของความต้องการของเหล่านักเลงที่มักจะคิดอยู่ว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นเพื่อปกป้องบางอย่าง แน่นอนอดีตเขามองว่ากำลังปกป้องชื่อเสียงของสถาบันบ้างของเพื่อนพ้องบ้าง แต่ครั้งนี้มันขยายมาเพื่อปกป้องเมืองที่ตัวเองอาศัยอยู่ ดูๆก็น่าจะเป็นอะไรที่คอแนวนี้ชอบอย่างไม่ยากเย็นนะครับ เอาเป็นว่าลองหามาอ่านกันดูครับ ผมว่าอ่านได้เพลินๆนะ ภาพสวย เนื้อเรื่องกลมกล่อม แม้จะขาดความดุเดือดและดิบไปบ้างก็ตาม สนใจลองหาอ่านกันนะครับ
*** คะแนนที่ให้ไว้นี้สำหรับอ่านเล่ม 2 จบเท่านั้นหากอนาคตได้มีโอกาสอ่านเรื่องนี้จนจบ จะกลับมารีวิวและให้คะแนนใหม่อีกครั้งนะครับ ***
ภาพ 8.1/10
เรื่อง 7.7/10
ความประทับใจ 7.8/10
.
อ่านรีวิวเรื่องอื่นๆที่ทางเพจเคยรีวิวไว้มีกว่า 1,000 กว่าเรื่องตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ.
#Manga #รีวิวการ์ตูน #ยังไม่จบ # PHOENIX #การ์ตูนแนวโชเน็น #การ์ตูนแนวนักเรียนนักเลง #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวต่อสู้ #8คะแนน #WindBreaker #หนังสือการ์ตูน #Rate15
โฆษณา