1 ก.ค. 2022 เวลา 10:45 • สิ่งแวดล้อม
ไทยร่วมประชุม UN Ocean Conference 2022การแก้ไขปัญหาทะเลอย่างยั่งยืนระดับโลก
สำหรับทางด้านการประชุม UN Ocean Conference 2022 ปีนี้ จัดขึ้นที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส โดยมีประเทศเคนยาและโปรตุเกสเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 65 ประกอบด้วยประเทศสมาชิกสหประชาชาติจากทั่วโลกกว่า 193 ประเทศ และองค์กรภาคเอกชน อีกกว่า 600 องค์กรจากทั่วโลก เข้าร่วมเพื่อแบ่งปันองค์ความรู้ และความร่วมมือในการร่วมกันฟื้นฟูอนุรักษ์มหาสมุทร ซึ่งถือเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญต่อการดำรงอยู่ของมวลมนุษยชาติ
โดยมีนายวราวุธ  ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยทีมงาน เป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุมฯ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ต่อเนื่องจากการประชุมครั้งแรก ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 2017 เพื่อกระตุ้นและยกระดับการทำงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของโลกให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ซึ่งสำหรับ นายวราวุธฯ ในฐานะตัวแทนรัฐบาลไทย ได้ขึ้นกล่าวถ้อยคำแถลงพร้อมตอกย้ำความก้าวหน้าในการอนุรักษ์และบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของไทย รวมถึงแสดงจุดยืนของประเทศไทยในการยกระดับการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในทุกมิติ เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 14 ( SDG14 ) อย่างเป็นรูปธรรม
ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากหลายประเทศถึงการดำเนินงานของประเทศไทย พร้อมทั้งกล่าวภายหลังการขึ้นบนเวทีว่า “ตนในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศไทยได้มีโอกาสขึ้นกล่าวแสดงท่าทีไทยในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทะเล
ซึ่งได้ย้ำกับทุกประเทศภาคีสมาชิกสหประชาชาติถึงผลการดำเนินงานที่ก้าวกระโดดของประเทศไทย แม้ว่าทั่วโลกยังคงตระหนักถึงประเด็นที่ยังไม่บรรลุเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งต้องเร่งดำเนินการโดยเรียกร้องให้สนับสนุนและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและการให้ความสำคัญกับนโยบายทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้ง การสนับสนุนทางการเงิน
การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยี สำหรับประเทศไทยได้ให้คำมั่นในการดำเนินการจัดการทะเลและมหาสมุทรบนฐานของความเป็นธรรมชาติ (Nature-based) และศักยภาพของระบบนิเวศเพื่อการจัดการอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการจัดการขยะทะเล การแก้ไขปัญหามลพิษทางทะเล การจัดการความเป็นกรดในมหาสมุทร และการจัดการประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ซึ่งผลการ
ดำเนินงานของประเทศไทยค่อนข้างโดดเด่นอย่างมาก และที่สำคัญประเทศไทยเพิ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นที่ตั้งสำนักงานประสานทศวรรษแห่งมหาสมุทร (Decade Coordination Office) จาก UNESCO ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนานาประเทศที่เล็งเห็นถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นหน่วยประสานและขับเคลื่อนการดำเนินงานในช่วงทศวรรษแห่งมหาสมุทรช่วงปี 2021 – 2030 พร้อมได้เน้นย้ำต่อที่ประชุมว่า “ความจริงที่ว่ามหาสมุทรที่ขาดมนุษย์ ก็ยังคงเป็นมหาสมุทร แต่ถ้ามนุษย์ที่ปราศจากมหาสมุทร ย่อมอยู่ไม่ได้อย่างแน่นอน”
อย่างไรก็ตามการดำเนินการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 14 จะต้องเชื่อมโยงและสนับสนุนการดำเนินงานเป้าหมายอื่น ๆ และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เราต้องเดินไปด้วยกัน เพื่อการอนุรักษ์และป้องกันมหาสมุทรอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ผลลัพธ์จากการประชุมครั้งนี้ ทุกประเทศภาคี
สมาชิกจะได้ร่วมรับรองปฏิญญาทางการเมืองเพื่อการเร่งรัดขับเคลื่อนการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และร่วมมือกันปกป้องผืนทะเลให้คงอยู่อย่างสมดุลตลอดไป
ภายหลังจากการประกาศบทบาทและท่าทีของไทย กระทรวงฯ จะได้ยกระดับการดำเนินงานให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ซึ่งตนได้หารือกับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ เพื่อกำหนดกลไกการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ รวมทั้ง ขยายการทำงานร่วมกับองค์กรภาคเอกชน และองค์กรต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อให้การบริหารจัดการครบทุกมิติของการพัฒนาอย่างยั่งยืน”นายวราวุธฯ กล่าว
ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า “การประสานและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 14 ประเทศไทยได้เร่งรัดการดำเนินงานเพื่อการบรรลุเป้าหมายมาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง สำหรับการประชุม UN
Ocean Conference ครั้งนี้ ประเทศไทยได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการดำเนินงาน และได้รับคำชื่นชมจากหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้วางแผน
การขับเคลื่อนการดำเนินงานระยะต่อไปร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะได้นำเสนอต่อผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเตรียมพร้อมเพื่อรายงานผลการดำเนินงานระดับชาติด้วยความสมัครใจที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ณ สำนักงานสหประชาชาติสำนักงานใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ต่อไป” นายโสภณฯ กล่าว
โฆษณา