Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ขณะที่เติบโต
•
ติดตาม
2 ก.ค. 2022 เวลา 04:06 • การศึกษา
หลายๆครั้ง ที่เรามักจะแพ้พ่ายให้กับคำว่า รอก่อน เดี๋ยวก่อน พรุ่งนี้ค่อยทำ หรือรอให้อะไรมันพร้อมมากกว่านี้ก่อน บรา บรา~~
วันนี้จะมาแบ่งปัน
วิธีการบริหารตัวเองให้เป็นแนวทาง
หวังว่าเพื่อนๆน่าจะชอบ และนำมาปรับใช้ได้
จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ดังนี้
--- ส่วนที่ 1 กำหนดเป้าหมาย
1.ค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ และต้องการจริงๆ
ตอบตัวเองให้ได้ว่า เราต้องการสิ่งใหนกันแน่
อะไรคือสิ่งที่ต้องการจริงๆ ไม่ใช่จากที่คนอื่นคาดหวังในตัวเรา แต่ต้องเป็นสิ่งที่เราต้องการมันจริงๆ
2.เรียงลำดับความสำคัญ
หลังจากที่พอจะรู้แล้ว ว่าเราต้องการอะไรบ้าง
ให้นำทุกอย่างมาเรียงความสำคัญ เพราะ ถ้าเราไม่เรียงความสำคัญ จะทำให้ทุกอย่างดูหนัก และลงมือทำตามได้ยาก และอาจส่งผลให้เราไม่สามารถไปถึงเป้าหมายได้
- แยกเป้าหมายออกเป็น 2-3 ระดับ
เป้าหมายระดับที่ 1
จะเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุด เด่นชัดที่สุด
ส่วนเป้าหมายที่ 2-3
ก็รองลงมา และมีความเจาะจงที่มากกว่า
ตัวอย่างเช่น
- เป้าหมายระดับ 1 อาจเป็น การออกกำลังกาย เสริมสุขภาพให้แข็งแรง หรือ การใช้เวลาอยู่กับคนรักคนในครอบครัวอย่างมีความสุข
- เป้าหมายระดับ 2 ก็อาจเป็น การเล่นกีฬา การรักษาความสะอาด
- เป้าหมายที่ 3 ก็อาจเป็น การหมั่นทำงานบ้าน การฝึกทำอาหาร
3.คำนึงถึงความเป็นไปได้
ถ้าสมมุติว่า คุณจะซื้อคอนโดฯ ย่านใจกลางเมือง
แต่ตอนนี้ขอบคุณมีงบเพียงแค่สามารถ
ซื้อห้องสตูดิโอ ย่านชานเมือง หรือนอกเมือง เท่านั้น
ก็ให้คุณปรับเปลี่ยนเป้าหมายหน่อย เอาแบบที่พอเป็นไปได้สักนิด
เช่น ถ้าคุณต้องการซื้อบ้านหรือคอนโดที่มีราคาสูงหน่อย ก็ลองแตกย่อยเป้าหมายออกมาเป็นทีละ
สเต็ปเล็กๆ เช่น การเริ่มเก็บเงิน ทำสเตทเม้นในบัญชีให้ดูมีเครดิต มองหารายได้เสริม ศึกษาหาข้อมูลดอกเบี้ยของธนาคารต่างๆ เป็นต้น
โดยเป้าหมายย่อยเหล่านั้น ความจะมีกรอบของเวลาที่เหมาะสมและเป็นไปได้ด้วย
4.บันทึกเป้าหมาย
พยายามเจาะจงให้ชัดเจน ทั้งในแง่ของรายละเอียด แบบแผนวิธีการ และช่วงเวลา ซึ่งจะช่วยให้ดูมีโอกาสเป็นจริงมากขึ้น
5.ตั่งเป้าหมายแบบวัดผลได้
กำหนดมาตรการการวัดผลในแต่ละสเต็ปของเป้าหมาย เช่น ถ้าคุณวางแผนจะซื้อบ้านหรือคอนโดฯ คุณก็จะรู้ได้ว่า เริ่มเห็นผลแล้ว ในวันที่คุณไปเซ็นเอกสารสัญญากับผู้ขาย
แต่ถ้าคุณเพียงแค่ตั่งเป้าหมายว่าจะเป็นคนที่เก่งกว่าเดิม หรือดีกว่าเดิม โดยไม่มีแบบแผนย่อยๆรองรับ หรือวัดผลได้ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้
ฉันดีขึ้นแค่ไหนแล้ว
6.ปรับแผนงานให้เหมาะสม
คุณไม่จำเป็นจะต้องกำหนดกรอบเวลาให้ได้อย่างลงตัว แต่ขอแค่ให้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด
เช่น ถ้าคุณเป็นลูกจ้างค่าแรงขั้นต่ำ และตั้งเป้าว่า จะเก็บเงินให้ได้ 1 ล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้ มันก็อาจดูทะแม่งๆยังไงอยู่ ทั้งนี้ การมีเป้าหมายที่ใหญ่ไม่ใช่เรื่องตลกอะไร แต่มันต้องใช้ระยะเวลาที่เหมาะสมด้วย
7.ระบุอุปสรรค์ที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ในระหว่างทาง
คุณจะเรียกมันว่าปัญหาก็ได้ แน่นอนไม่มีใครอยากจะเจอปัญหาหรอก แต่การที่เราระบุได้ว่า เราต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง และเราจะผ่านพ้นปัญหาเหล่านี้ไปได้อย่างไร
จะช่วยคุณได้มากเลย ในเวลาที่คุณเจอกับปัญหาเหล่านั้น คุณจะรู้ขั้นตอนวิธีการข้ามผ่านอุปสรรคเหล่านั้น โดยที่คุณจะไม่เสียพลังงานไปมาก
--- ส่วนที่ 2 การลงมือทำ
1.เริ่มตั่งแต่วันนี้
ก้าวแรกยากเสมอ การลงมือทำอะไรสักอย่าง ขั้นตอนแรกจะดูยุ่งยากไปหมดเสมอ
แต่ถ้าคุณลองทำอะไรสักอย่าง ที่เป็นสเต็ปเล็กๆ ที่คุณพอจะสามารถทำได้ในตอนนี้
คุณจะมีแนวโน้มในการประสบความสำเร็จมากกว่า หากรู้สึกถึงความคืบหน้าตั่งแต่เริ่มต้น
2.รักษาระเบียบวินัย
คุณต้องรักษาระเบียบวินัยและความรับผิดชอบ ในการลงมือปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด
3.ใช้จินตนาการช่วยให้บรรลุเป้าหมาย
ผลการวิจัยพบว่า การฝึกจินตภาพจะช่วยให้คุณลงมือทำภารกิจ โดยได้ผลดีขึ้น
การใช้จินตภาพในหัว มีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ ใช้ภาพความสำเร็จ และ ใช้ภาพกระบวนการ ซึ่งถ้าจะให้ดีล่ะก็ คุณควรใช้ทั้งสองแบบผสมผสานกัน
4.มองหาที่ปรึกษาที่จะนำพาคุณสู่ความสำเร็จ
มองหาผู้ชี้แนะแต่ไม่ใช้ผู้ชี้นำ เลือกเอาผู้ที่มีวุฒิภาวะมีประสบการณ์ ซึ่งจะช่วยให้ปัญญาและคำปรึกษาแก่คุณ เกี่ยวกับโอกาสและอุปสรรคต่างๆที่สามารถเกิดขึ้นระหว่างทางเดินแห่งความสำเร็จ คอยปรึกษาคนเหล่านั้นบ่อยๆ
--- ส่วนที่ 3 ประคองตัวเองเอาไว้
1. ระวังจะเจอภาวะ "ฝันลมๆ แล้งๆ"
คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับภาวะดังกล่าวมาบ้างแล้ว ซึ่งอาจเกิดกับคนที่ชอบตั้งปณิธาน หรือเป้าหมายแบบลมๆ แล้งๆ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นปีใหม่
โดยหลักๆ ประกอบด้วย 3 ลำดับการณ์
1.ตั้งเป้า
2.รู้สึกว่ามันทำยากกว่าที่คิด
3.ล้มเลิก
ภาวะดังกล่าว มักเกิดขึ้นกับคนที่คาดหวังผลสำเร็จอย่างใจเร็วด่วนได้
ดังนั้น วิธีการวางแผนงานและกำหนดกรอบเวลาที่เราแนะนำไป จะช่วยป้องกันไม่ให้คุณตกอยู่ในวงจรดังกล่าว
วงจรแห่งการล้มเลิกกลางคัน มักเกิดขึ้นเมื่อความรู้สึก "ตื่นเต้น" จางหาย และคนที่ตั้งเป้าไว้ ก็จะเริ่มรู้สึกได้ถึงภาระและความรับผิดชอบอันหนักอึ้ง
ดังนั้น เราจึงแนะนำให้แตกย่อยแผนงานออกเป็นชิ้นงาน เพื่อที่คุณจะได้ลงมือทำและเห็นความสำเร็จ รวมถึงให้รางวัลแก่ตนเองได้เป็นระยะๆ อีกด้วย
2.มองความล้มเหลวเป็นเพียงบทเรียน
การศึกษาพบว่า ผู้ที่สามารถเรียนรู้จากความล้มเหลว มีแนวโน้มที่ดี รวมถึงการมีความหวัง ความหวังจะนำพาคุณไปข้างหน้าอยู่เสมอ
หากคุณเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจกับความล้มเหลว และได้อะไรจากการผิดพลาดครั้งนี้
แทนที่คุณจะเอาแต่ตำหนิตัวเอง จะเป็นการช่วยให้คุณไม่เอาตัวเองไปผูกติดไว้กับอดีต
3.จดจำทุกความสำเร็จ
บ่อยครั้งที่การพยายามเพื่อบรรลุเป้าหมาย นับได้ว่าเป็นรางวัลในตัวมันเองอยู่แล้ว
และการทำมันสำเร็จ ก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ดังนั้น อย่าลืมฉลองให้แก่ตัวเองตามเหมาะสม เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำขั้นตอนต่อๆ ไปด้วย
4.รักษาไฟให้ลุกโชนเสมอ
เป้าหมายของคุณถือเป็นเรื่องที่มีความหมายต่อชีวิต และอนาคตของคุณ
ดังนั้น พยายามรักษาความปรารถนาอันแรงกล้า ในการที่จะบรรลุผลสำเร็จไว้ ให้คงที่ตลอดระยะทาง โดยไม่คำนึงถึงอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในบางเวลา
บางครั้ง ยิ่งเป้าหมายใหญ่ หัวใจต้องยิ่งแกร่ง
5.ปรับแผนการได้ตามเหมาะสม
หากบางครั้งเจอโจทย์ประเภทที่ว่า หนึ่งบวกหนึ่งทำไมไม่เท่ากับสอง ก็ขอให้ลองพิจารณาด้วยเลขฐานอื่นดู ในการเดินทางสู่เป้าหมาย อย่ากลัวที่จะลองผิดลองถูก หรือออกนอกกรอบบ้าง
6.อดทนไว้
จดจำความสำเร็จในแต่ละขั้นตอน เพื่อใช้สร้างความเชื่อมั่นให้กับตนเอง ในทุกครั้งที่ประสบปัญหา การทำสำเร็จในก้าวเล็กๆ แต่ละก้าว จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้น
เพราะคุณจะตระหนักได้ว่า คุณสามารถทำสิ่งที่คุณวางแผนเอาไว้ จดจำความสำเร็จในวันวานเอาไว้เมื่อพบอุปสรรค
ความผิดพลาดกับความล้มเหลว เป็นคนละเรื่องกัน ตัวอย่างเช่น เจ. เค. โรวลิ่ง ผู้แต่งนิยายเด็กเรื่อง แฮรี่ พอตเตอร์ ก็เคยพลาดโอกาสในการตีพิมพ์หนังสือเรื่องดังกล่าว มากถึง 12 ครั้ง ก่อนที่จะโด่งดังไปทั่วโลก
นักประดิษฐ์อย่าง โธมัส เอดิสัน ก็เคยถูกครูตราหน้าว่า "โง่เกินเรียน"
ขนมขบเคี้ยวอย่างเถ้าแก่น้อย ก็เคยถูกปฏิเสธจากทางเซเว่น อีเลฟเว่น แต่ทุกวันนี้ มันได้เข้าไปอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว
บางครั้ง คำสบประมาท กลับมีค่าและมีแรงผลักดันเรา ให้ประสบความสำเร็จมากกว่าคำชม
นั้นก็คือ วิธีการและขั้นตอนส่วนหนึ่ง ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้จริงตามความเหมาะสม
แต่ก็จำไว้ว่าสูตรของความสำเร็จไม่มีสูตรตายตัว
การรับฟังเรียนรู้ข้อมูลและการลงมือทำจึงสำคัญ
- ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ
ตามอ่านอย่างละเอียดได้ที่ :
https://bit.ly/3OYcvch
เรียบเรียงและสรุปโดย : ขณะที่เติบโต
ติดตามและเติบโตไปด้วยกันได้ที่
Facebook : ขณะที่เติบโต
Blockdit : ขณะที่เติบโต
https://www.blockdit.com/go2goalwithme
#เติบโตไปด้วยกัน #ขณะที่เติบโต
ธุรกิจ
พัฒนาตัวเอง
การเงิน
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย