ฮ่องกงไม่ควรเป็นเช่นนี้ ...25 ปีหลังอังกฤษส่งมอบฮ่องกงให้จีน....
สถานภาพที่เป็นอยู่ในฮ่องกงได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญของสถาบันต่างๆ อีกครั้ง!!!
25 ปีหลังจากสิ้นสุดการปกครองอาณานิคมของอังกฤษ และมันถูกวางอยู่ตรงกลาง
ผ่านไป 50 ปี ที่จีนสัญญาว่าจะให้เอกราชและเสรีภาพส่วนบุคคล
วันที่ 1 ก.ค. เป็นวันครบรอบ 25 ปี ตั้งแต่สหราชอาณาจักรส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนให้กับจีน
จีนเคยสัญญาว่าจะรักษาเสรีภาพทางประชาธิปไตยของชาวฮ่องกงเป็นเวลา 50 ปี
แต่กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติซึ่งประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2563 กำลังเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง....
ยี่สิบห้าปีผ่านไปนับตั้งแต่การสิ้นสุดของการปกครองอาณานิคมของอังกฤษ
และครึ่งหนึ่งของการปกครองตนเอง 50 ปี
และเสรีภาพส่วนบุคคลที่สัญญาไว้ของจีนอีก 50 ปี
ฮ่องกงไม่ควรเป็นเช่นนี้
ขณะนี้มีนักโทษการเมืองกว่า 1,000 คนถูกคุมขังในเรือนจำของฮ่องกง
รวมถึงนักเคลื่อนไหว นักศึกษา นักข่าว และนักกฎหมาย มีผู้ต้องขังหลายสิบคนถูกจำคุกเป็นเวลาหนึ่งปีหรือนานกว่านั้น
โดยไม่มีการประกันตัวในส่วนที่ผิดกฎหมาย
ชีวิตที่อยู่ในคุกเพราะพวกเขาเข้าร่วมในการเลือกตั้งขั้นต้น ซึ่งนั่นถือว่าเป็นการล้มล้างในฮ่องกงใหม่
หลายสิบคนถูกจำคุกเป็นเวลาหนึ่งปีหรือมากกว่าโดยไม่มีการประกันตัวตามกฎหมายใน...
"การคุมขังก่อนการพิจารณาคดี"
นักการเมืองฝ่ายค้านประมาณ 47 คนอาจถูกจำคุกตลอดชีวิตเนื่องจากการเข้าร่วมการเลือกตั้งขั้นต้นที่ถือว่าล้มล้างในฮ่องกง(ใหม่)
ภาคประชาสังคมถูกทำลายล้าง โดยมีกลุ่มนักเคลื่อนไหวกว่า 50 กลุ่มถูกรัฐบาลสั่งปิดหรือถูกกดดันให้ปิด
สมาพันธ์นักศึกษาในวิทยาเขตถูกยุบ
สมาพันธ์สหภาพแรงงานยักษ์ใหญ่ที่มีสหภาพแรงงานในเครืออย่างน้อย 70 แห่ง ถูกยุบในเดือนตุลาคม
ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งคือ สหพันธ์ครูอาชีพที่มีสมาชิก 100,000 คน ปิดตัวลงหลังจากถูกตราหน้าว่าเป็น “เนื้องอกร้าย”
ในสื่อของรัฐ สื่อยอดนิยมต่างๆ ถูกปิดหรือปิดโดยสมัครใจ คลังข้อมูลออนไลน์ของพวกเขาถูกลบล้าง
กลุ่มระหว่างประเทศก็ไม่ได้รับการยกเว้น
องค์กรที่สนับสนุนประชาธิปไตย เช่น National Endowment for Democracy ถูกกล่าวหาว่าปลุกระดมให้เกิดความไม่สงบ
กลุ่มสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลและฮิวแมนไรท์วอทช์ได้ปิดสำนักงานในท้องที่
รูปปั้นที่ระลึกถึงการสังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 2532 ก็ถูกนำออก
หนังสือที่ถือว่าอ่อนไหวทางการเมืองเกินไปถูกดึงออก(ทำลาย)จากชั้นวางในห้องสมุดสาธารณะและร้านหนังสือ
หนังสือเรียนระดับมัธยมศึกษากำลังถูกเขียนใหม่เพื่อเน้นการปกป้องความมั่นคงของชาติจีน
และเพื่อยืนยันว่าฮ่องกงไม่ใช่อาณานิคมของอังกฤษจริงๆ
ตำรวจฮ่องกงได้รับการสอนให้ฝึกเดินแบบแผ่นดินใหญ่ในระหว่างการฝึกซ้อมและขบวนพาเหรด และเด็กๆ จะต้องเข้าร่วมในการเชิญธงชาติ(จีน)ขึ้นเสาภาคบังคับในช่วงเช้า
ตอนนั้น จอห์น ลี กาชิว เจ้าหน้าที่ตำรวจอาชีพ ซึ่งถูกขนานนามว่า ไอรอน แมน ในสื่อท้องถิ่นว่ามีความทรหด ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารระดับสูงคนต่อไปของฮ่องกง
สหรัฐฯ ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรลี สำหรับ "การบีบบังคับ จับกุม กักขัง หรือจำคุกบุคคลภายใต้กฏหมายความมั่นคงแห่งชาติ"
จนในปี 2540 หลายคนที่นี่สันนิษฐานว่าหลังจาก 25 ปี จีนแผ่นดินใหญ่จะดูเหมือนฮ่องกงมากขึ้น เสรีนิยมมากขึ้น และยึดถืออุดมการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ที่น้อยกว่า
เมื่อจีนร่ำรวยขึ้นและเชื่อมต่อกับโลกมากขึ้น แนวคิดก็คือประเทศนี้จะกลายเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นและเปิดกว้างสู่โลก
แต่...สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม
ในปีนี้ (2565) ผมดูว่าฮ่องกงกลับดูเหมือนจีนมากขึ้น การปราบปราม, ไม่อดทนต่อความขัดแย้ง, น่าสงสัย(ต่อชาวต่างชาติ) และมุ่งปลูกฝังความจงรักภักดีแบบบังคับต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนและมุมมองที่ขาว(สะอาด)โพลนของประวัติศาสตร์ในประชากรทั้งหมด
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอ้างว่าเห็น "อำนาจต่างประเทศ" ที่แพร่หลายซ่อนอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ และนั่นพยายามโค่นล้มรัฐบาล
ตามมุมมองโลกทัศน์ที่หวาดระแวงนี้ การประท้วงบนท้องถนนครั้งใหญ่ในปี 2562
เกี่ยวกับร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนในปี 2562 ล้วนจัดทำขึ้นโดยชาวต่างชาติที่จัดการหรือจ่ายเงินให้ชาวบ้านที่ไร้เดียงสาให้เดินขบวนต่อต้านรัฐบาล
แสดงให้เห็นว่าสหราชอาณาจักรไม่เคยนำประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มาให้
แต่เมื่อได้รับโอกาสและทางเลือก ชาวฮ่องกงได้ลงคะแนนเสียงให้สภานิติบัญญัติในท้องถิ่นและสภาท้องถิ่นที่มีขนาดเล็กกว่าตามชุมชน
เกือบ 60% ลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติที่มีการแข่งขันสูงในปี 2559 ในขณะที่ในเดือนพฤศจิกายน 2562 มีผู้ลงคะแนนมากกว่า 73%
ปรากฎว่าในเดือนพฤศจิกายน 2562 จากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่เพื่อให้เสียงถล่มสภาเขตให้แก่พรรคเพื่อประชาธิปไตย
จากนั้น 47 นักการเมืองและนักเคลื่อนไหวก็ถูกควบคุมตัว
ในปี 2559 เกือบร้อยละ 60 กลายเป็นการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติที่มีการแข่งขันสูง และมากกว่าร้อยละ 73
และ ปักกิ่งได้ปรับปรุงระบบการเลือกตั้งใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าสภานิติบัญญัติที่ "มีใจรัก" จะปฏิบัติตามโดยไม่มีฝ่ายค้าน
จนผลิตภัณฑ์มวลรวมลดลงเหลือประมาณ ร้อยละ 30
โดยหลายคนที่ดูถูกเหยียดหยาม..จะพยายามแสดงบัตรเสียหรือบัตรเปล่า
ตอนนั้นดูเหมือนชาวฮ่องกงกำลังลงคะแนนด้วยเท้าของพวกเขา จริงๆ..
มีคนฮ่องกงไหลออกประมาณ 157,000 คนในไตรมาสแรกของปี
ซึ่งนำไปสู่ความกังวลเกี่ยวกับ “สมองไหล” ของนักบัญชี วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญด้านไอที
ครอบครัวหนุ่มสาวจำนวนมากจากไป
โรงเรียนประถมและมัธยมชั้นนำที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเรื่องยากที่จะหาที่เรียน ตอนนี้กำลังดิ้นรนเพื่อเติมเต็มตำแหน่งงานว่างนับพัน
ฮ่องกงจะอยู่รอดในฐานะอดีตเผด็จการที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดมากขึ้นได้หรือไม่?
แต่..ก็มีหลักฐานว่าสามารถทำได้อยู่นะครับ...
ฮ่องกง....
ที่ตั้งของเมืองนี้ยังคงทำให้เป็นศูนย์กลางของใครก็ตามที่ทำธุรกิจกับจีนและเป็นจุดเชื่อมต่อที่สะดวกระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บทบาทดังกล่าวได้รับผลกระทบในช่วงที่มีการระบาดใหญ่เนื่องจากเมืองได้จัดตั้งมาตรการต่อต้านที่เข้มงวดที่สุดในโลก
นั่นคือ มาตรการด้านไวรัส
แม้ผ่อนคลายลง แต่ส่วนใหญ่คาดว่าจะกลับมาใช้ได้อีกครั้งเมื่อข้อจำกัดของโควิด-19
และ(ตอนนี้)มันก็กลับมา
ฮ่องกงมีสกุลเงินที่แลกเปลี่ยนได้ระหว่างประเทศโดยตรึงกับดอลลาร์สหรัฐฯ
ต่างจากแผ่นดินใหญ่ และในขณะที่กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติได้ใช้ระบบกฎหมายในการต่อต้านผู้เห็นต่าง
แต่ระบบศาลคู่ขนานที่ดูแลคดีกฎหมายการค้าและสัญญาจ้างตามปกติและข้อพิพาททางธุรกิจยังคงมีอำนาจอยู่อย่างสูง และเป็นที่เคารพนับถือ
จีนสามารถทดแทนคนที่ออกจากกลุ่มได้เสมอ
และจีนก็สามารถหาทางเลือกอื่น ๆ ได้เสมอๆ
ซึ่งเป็นวาล์วกดดันสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบนแผ่นดินใหญ่ที่กำลังเติบโตขึ้นซึ่งต้องเผชิญกับตลาดงานที่ตกต่ำ
อาจไม่มีใครรู้จักและรักฮ่องกงมาก่อน
ฮ่องกงอาจจะอยู่รอดได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวตามปกติ มันอาจจะเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาก็ได้
จากหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ แห่งหนึ่งต้องใช้เวลา 99 ปี จึงจะกลายเป็นมหานครระดับนานาชาติ
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
