3 ก.ค. 2022 เวลา 01:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เครื่องมือสำหรับตรวจสุขภาพจากที่บ้าน
เครื่องมือสำหรับตรวจสุขภาพจากที่บ้าน ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมทางการแพทย์ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่าย และช่วยเหลือผู้ป่วยได้เป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ป่วยสามารถตรวจสุขภาพได้ด้วยตนเองจากที่บ้าน โดยไม่ต้องไปรอคิวเพื่อตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลหรือคลินิก
ในปัจจุบันก็มีเครื่องมือเหล่านี้บางชนิด ได้ถูกนำมาใช้งานแล้ว เช่น ชุดตรวจการตั้งครรภ์, ชุดตรวจโรคเบาหวาน เป็นต้น ซึ่งมีความง่ายในการใช้งาน และให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำเกือบ 100% แต่ว่าสำหรับการตรวจสุขภาพในด้านอื่นๆที่มีความยาก เช่น การวิเคราะห์รหัสทางพันธุกรรมของเราเอง ก็ยังต้องใช้เครื่องมือในห้องทดลองที่มีขนาดใหญ่และมีความแม่นยำสูง โดยเราจะมาศึกษารายละเอียดกันในบทความนี้
เครื่องมือตรวจสุขภาพส่วนมาก ยังคงมีขนาดใหญ่และใช้งานในห้องทดลอง เช่น เครื่องตรวจจุลินทรีย์ ซึ่งช่วยในการปรับปรุงมื้ออาหารให้บำรุงสุขภาพของเราโดยเฉพาะ, เครื่องตรวจรหัสทางพันธุกรรม ซึ่งช่วยออกแบบแผนการป้องกันการเกิดโรค รวมถึงการแพ้อาหารหรือแพ้ยาของเรากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น
นอกจากนี้ก็ได้เริ่มมีอุปกรณ์สำหรับตรวจสารเคมีที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น Nima sensor สำหรับตรวจวัดปริมาณของกลูเตนและถั่วในอาหาร, เครื่องมือตรวจช่องท้อง ซึ่งช่วยตรวจสอบว่า เราแพ้อาหารชนิดใดบ้าง, เครื่องมือตรวจการแพ้น้ำตาลฟรุคโตสหรือแลกโตส, รวมถึงการตรวจสอบรหัสพันธุกรรมเพื่อค้นหาว่า บรรพบุรุษของเรามาจากที่ใด เป็นต้น
จะเห็นได้ว่า บริษัทที่ผลิตอุปกรณ์เหล่านี้ ไม่ได้มีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆเลย เพียงแค่ปรับเปลี่ยนรูปแบบของเครื่องมือเพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้คนทั่วไปได้มากขึ้น และใช้งานง่ายขึ้น
ในเดือนมิถุนายน ปี 2015 คุณ Julia Cheek ผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพด้านสุขภาพ EverlyWell โดยเน้นพัฒนาเครื่องมือตรวจสุขภาพจากที่บ้าน
หากยังจำกันได้ ในปีเดียวกัน ก็มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ซึ่งก็คือการได้รับรางวัลบริษัทแห่งปีทางด้านชีววิทยา จากสมาคม Arizona Bioindustry ประจำปี 2015 ของบริษัท Theranos (เป็นช่วงที่ผู้คนยังไม่ทราบเรื่องการหลอหลวงของบริษัท Theranos)
ทั้ง 2 บริษัทข้างต้น มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน แต่กลับเดินคนละเส้นทาง โดยจุดจบของบริษัท Theranos ก็ไม่ค่อยสวยเท่าไรนัก ส่วนบริษัท EverlyWell ได้สร้างชุดตรวจ COVID-19 ขึ้นมา และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา(FDA) อีกด้วย
ปัจจุบันได้มีหลายบริษัทที่พัฒนาเครื่องมือตรวจวัดสุขภาพจากที่บ้าน ให้มีความรวดเร็วและราคาถูกกว่าการตรวจสุขภาพในห้องทดลอง บริษัท EverlyWell และบริษัทอื่นๆ เช่น บริษัท LetsGetChecked, MyLabBox, รวมถึง 23andme โดยบริษัทเหล่านี้มีประโยชน์อย่างมากในการสนับสนุนการรักษาทางไกล ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลังจากการล้มละลายของบริษัท Theranos ได้ส่งผลให้บริษัทอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือตรวจสุขภาพจากที่บ้าน ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาในเรื่องของความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์
การตรวจสุขภาพจากที่บ้าน มีข้อดีคือ
- ความสะดวกและความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย
- ลดภาระให้กับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์
- อาจเป็นก้าวแรกของการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ไม่ได้ทำประกันสุขภาพหรือไม่มีสวัสดิการ
นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพจากที่บ้านก็ยังมีข้อเสีย คือ
- ความน่าเชื่อถือของผลตรวจ ที่อาจเกิดจากการที่ผู้ป่วยใช้เครื่องมือผิดวิธี
- การตรวจสุขภาพจากที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องได้รับการรับรองจาก FDA
- ในบางกรณี ปัจจัยอื่นๆของผู้ป่วย เช่น อายุ, ประวัติครอบครัว, และปัญหาทางด้านสุขภาพของผู้ป่วย อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ได้จากเครื่องมือดังกล่าว จึงจำเป็นต้องนำผลตรวจมาปรึกษาแพทย์ในภายหลัง
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ผ่านมา ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า เครื่องมือตรวจสุขภาพจากที่บ้าน มีประโยชน์มากมายต่อผู้ป่วย และลดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้ดี จึงอาจเป็นการปฏิวัติวงการแพทย์ในอนาคตอันใกล้ เช่น
วิศวกรได้ออกแบบ หุ่นยนต์สำหรับเจาะเลือดผู้ป่วยแทนการให้พยาบาลเป็นผู้เจาะเลือด ซึ่งหุ่นยนต์ดังกล่าวสามารถใช้กล้องสแกนหาเส้นเลือดผ่านผิวหนังของผู้ป่วยได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้เทคโนโลยีไร้สัมผัสจะเป็นตัวช่วยให้ผู้คนในสังคม สามารถเข้าถึงการวินิจฉัยโรคและการรักษาที่มีคุณภาพได้มากขึ้น การช่วยให้ผู้คนมีเครื่องมือตรวจสุขภาพที่ดีจะทำให้พวกเขาสามารถตรวจสอบข้อมูลทางสุขภาพของตัวได้ง่ายขึ้น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการักษาในอนาคตต่อไป
ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ได้มีการคาดการณ์ว่า เครื่องมือตรวจสุขภาพจากที่บ้าน จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสามารถตรวจสุขภาพได้ในหลากหลายรูปแบบ เช่น รหัสทางพันธุกรรม, ปริมาณของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย, การแพ้อาหาร, ปริมาณที่เกี่ยวข้องกับเลือด เช่น ระดับน้ำตาลในเลือด, ระดับออกซิเจนในเลือด, ระดับเม็ดเลือดขาว เป็นต้น และต้องมีการควบคุมคุณภาพของเครื่องมือให้สามารถตรวจวัดได้อย่างแม่นยำเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูล ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
นอกจากนี้หุ่นยนต์จะมาทำหน้าที่ตรวจสุขภาพมนุษย์แทนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ เช่น การเจาะเลือด เป็นต้น ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่า การรักษาผ่านทางไกลได้เกิดขึ้นแล้ว
References:
โฆษณา