3 ก.ค. 2022 เวลา 00:07 • การตลาด
ย้อนอดีตเมื่อ 25 ปีที่ผ่านมากับเหตุการณ์ต้มยำกุ้งอันเจ็บปวด ในมุมของผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
เชื่อว่าคนไทยรุ่นใหม่ที่อายุ 40 ปีลงมาคงยากที่จะเข้าใจถึงความรู้สึก ของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์วิกฤติต้มยำกุ้ง ที่เกิดขึ้นในพ.ศ. 2540
เป็นเหตุการณ์ที่เป็นแผลเป็นในใจคนไทยหลายคน หนึ่งในนั้นก็มี “ยุคใหม่ฯ” อยู่ด้วย ยิ่งเมื่อไหร่ที่ได้ยินบางคนเข้าข้างเอาอกเอาใจอเมริกาและยุโรปตะวันตก ที่ต่างยอมรับมาตรฐานความเป็นประเทศผู้มีความชอบธรรม มีระบบที่โปร่งใสตรวจสอบได้ มีวิวัฒนาการที่เหนือกว่าประเทศอื่นๆ และเป็นกลุ่มที่คอยช่วยเหลือประเทศผู้ประสบปัญหา ความรู้ก็จะเกิดอาการเจ็บแป๊ปขึ้นมาทันที
ความรู้ก็จะเกิดอาการเจ็บแป๊ปขึ้นมาทันที
นั่นก็เพราะว่าคนไทยกลุ่มนี้ไม่เคยเรียนรู้บทเรียนจากอดีต ที่บรรดาประเทศเหล่านี้เอาเปรียบเรา หลายต่อหลายครั้งยกเอางานวิจัยบางส่วนมากหลอกชาวโลก ทั้งที่มีงานวิจัยอื่นที่ชัดเจนกว่า เพื่อจะสร้างให้เกิดการบริโภคที่มากขึ้น สร้างเงินเข้ากระเป๋าเขาได้มหาศาล ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วในปัจจุบัน
ยิ่งเป็นวัคซีนที่ผลิตออกจากประเทศกลุ่มนี้ กระโดดเข้าขวางหากใครแตะต้อง ซื้ออาวุธประเทศอื่นแสดงความเห็นเชิงลบมากมาย แต่พอซื้อจากประเทศนี้เงียบเฉยเลยทั้งที่เป็นเงินเท่าๆกันหรือมากกว่าด้วย ประท้วงก็ต้องทำให้เท่าเทียมกันไม่ใช่เหรอ แต่ก็เลือกปฏิบัติเฉยเลย
ประท้วงก็ต้องทำให้เท่าเทียมกันไม่ใช่เหรอ แต่ก็เลือกปฏิบัติเฉยเลย
วิกฤติต้มยำกุ้ง สาเหตุที่แท้จริงมาจากการกู้เงินในสกุลดอลล่าร์ของภาคเอกชน ซึ่งมีสัญญาการกู้ยืมระยะสั้นที่เจ้าหนี้จะเรียกคืนหนี้เมื่อไหร่ก็ได้ จากแหล่งเงินทุนที่อเมริกาและยุโรปตะวันตกสนับสนุน โดยมีดอกเบี้ยที่ต่ำมากๆ ประมาณ 2-3%/ปี ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในประเทศสูงกว่า 8% ต่างคนต่างเห็นส่วนต่างที่ฝรั่งเอามาล่อ แค่กู้มาปล่อยดอกเบี้ยก็ทำกำไรมากกว่า 5% ทันทีโดยไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่ม
1
ที่มา Thaiger
เมื่อกู้มาในจำนวนที่สมควรแก่การเรียกคืนแล้ว ฝรั่งกลุ่มนี้ก็ดำเนินการกับกลุ่มแมลงเม่าที่หลงกลเขา เรียกคืนเงินกู้กลับในสกุลเงินดอลลาร์ เมื่อไม่มีให้ก็ต้องยึดทรัพย์ที่นำมาประกันไว้ แต่ในราคาที่ราคาถูกกว่ามูลค่าจริงมาก
หลังจากนั้นก็นำมาจัดการขายคืนให้คนไทยในราคาที่สูง โดยห้ามไม่ให้คนไทยประมูลซื้อหนี้กลับต้องซื้อต่อจากฝรั่งเท่านั้น แถมรัฐบาลก็ทำตัวเป็นเด็กดีเชื่อฟังพ่ออเมริกัน เหมือนลูกๆของท่านพ่ออเมริกันหลายคนในปัจจุบันที่พร้อมปกป้องพ่อ จะเพราะเหคุผลอะไรก็ตาม แต่ท่านพ่อคนนี้ของบางคนรอข่มขืนลูกอยู่ตลอดเวลา ลูกๆบางคนก็ก้มหน้าก้มตาป้องป้องท่านพ่อต่อไป (ก็เสพสื่อเขาไปมากทำไงได้)
แต่ท่านพ่อคนนี้ของบางคนรอข่มขืนลูกอยู่ตลอดเวลา ลูกๆบางคนก็ก้มหน้าก้มตาป้องป้องท่านพ่อต่อไป
ในช่วงที่ประเทศไทยขอกู้เงินตราต่างประเทศเพื่อนำมาชำระคืนหนี้ที่เกิดขึ้น มีหลายประเทศช่วยเรามา ทั้งจีน ญี่ปุ่น มาเลย์เซียและอีกหลายประเทศ แต่ทว่าประเทศกลุ่มพ่อๆของใครหลายคนไม่ช่วยแม้แต่เหรียญเดียว แล้วยังบังคับให้ไปกู้เงินจากกองทุนเงินระหว่างประเทศหรือ IMF แทน พร้อมกฎเกณฑ์ที่ทำให้คนไทยต้องกระอักเลือดกันถ้วนหน้า
ที่มา The Jakarta Post
ส่งผลทำให้ค่าเงินจาก 25 บาท/ดอลล่าร์ พุ่งไปถึง 53 บาทในระยะเวลาอันสั้น คนที่ทำการค้ากับต่างประเทศที่เอาเฉพาะคนที่ไม่ได้กู้เงินกับเขา ต้องล้มละลายไปเพียงข้ามคืน เพราะสินค้าที่สั่งเข้ามาต้นทุนเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว ส่วนคนที่กู้เงินต่างประเทศเข้ามาก็ต้องรับผลกระทบแบบเต็มๆ ไม่ใช่แค่เพียงล้มลายทางการเงินเท่านั้น หลายคนหลายครอบครัวต้องจบชีวิตลงด้วยการปลิดชีพตัวเอง เพราะหาทางออกไม่เจอ
“ยุคใหม่ฯ” ไม่ได้กู้เงินต่างประเทศแต่เป็นหนี้กู้มาซื้อบ้านและกู้เงินมาลงทุนจากสถาบันการเงินที่ถูกปิด ที่ดำเนินชีวิตทำงานแบบปกติ จู่ๆก็เจอฟ้าผ่าที่ไม่สามารถนำวงเงินกู้มาชำระค่าสินค้าได้ ซึ่งได้รับคำสั่งซื้อมาแล้วตกลงขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องไปหาเงินจากแหล่งอื่นมาจ่ายค่าสินค้าที่สั่งซื้อมาจากต่างประเทศ เพื่อจะได้นำมาส่งมอบให้ลูกค้า ซึ่งเป็นต้นทุนที่แพงขึ้นเพราะเป็นดอกเบี้ยของเงินนอกระบบ
จู่ๆก็เจอฟ้าผ่าที่ไม่สามารถนำวงเงินกู้มาชำระค่าสินค้าได้
แต่อนิจจาราคาที่ได้กลับเป็นราคาใหม่ที่ต้องไปขายต่อในราคาเดิม คงเดาไม่ยากว่าเกิดอะไรขึ้นกับ “ยุคใหม่ฯ” ที่ต้องขายของเอากำไรรอบต่อรอบ เพราะไม่ได้มีเงินทุนมากมาย แล้วก็เพิ่งเป็นช่วงที่เริ่มก่อร่างสร้างตัว
เงินที่มีอย่างน้อยนิดในการดำรงชีวิตในขณะนั้น ก็ต้องมาจ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยน พร้อมทั้งต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 10%
ที่มา Kapook Money
เป็นสถานการณ์ที่อยากจะร้องออกมาดังๆ เป็นความรู้สึกร้องให้แบบไม่มีน้ำตาจะไหลจุกอยู่ในอก หันไปทางไหนก็เจอเหตุการณ์ไม่แตกต่างกัน รอวันเจ้าหนี้มายึดทรัพย์และยื่นฟ้อง ซึ่งก็ต้องยอมแล้วค่อยหาทางออกต่อไป อยู่ด้วยความเชื่ออย่างเดียวที่ยังมีอยู่ โดยไม่มีเหตุผลอะไรมารองรับว่าจะทำได้หรือไม่ นั่นก็คือความเชื่อที่ว่าปัญหาทุกอย่างมันต้องมีทางออก แม้วันนั้นมองเห็นแต่ทางตันก็ตามที
อยู่ด้วยความเชื่ออย่างเดียวที่ยังมีอยู่ โดยไม่มีเหตุผลอะไรมารองรับว่าจะทำได้หรือไม่
คนที่ออกมาปกป้องบรรดาประเทศพ่อๆทั้งหลาย ก็อย่ามัวแต่ฟังแต่ดูข้อมูลด้านเดียว ลองฟังลองอ่านข้อมูลด้านอื่นให้มากขึ้น เราจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อเขาอีก
ประวัติศาสตร์ไม่ใช่แค่เรื่องที่ผ่านไปเท่านั้น แต่ประวัติศาสตร์จะทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นได้เมื่อเราเรียนรู้จากเรื่องที่เกิดขึ้น
ที่มา NHA virtual museum
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Modernization Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
โฆษณา