ฝรั่งเศสต้องออกมาขอร้องประชาชนทุกคน ให้กลับมาสวมหน้ากากกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อรับมือกับโควิดที่ระบาดระลอกใหม่ ติดเชื้อวันเดียว 1.2 แสนราย
ในขณะที่ประเทศไทย โควิดอยู่ในช่วงขาลงของการระบาดระลอกที่สี่ของไวรัสโอมิครอน โดยมีสายพันธุ์ย่อยที่สอง (BA.2) เป็นหลัก
นำไปสู่การผ่อนคลายหลากหลายมาตรการ เพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้
โดยมาตรการที่สำคัญอันหนึ่ง คือการไม่บังคับให้ใส่หน้ากาก ให้การใส่หน้ากากเป็นไปโดยสมัครใจ พร้อมกับเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศ โดยที่ไม่ต้องตรวจ PCR หรือ ATK ถ้าฉีดวัคซีนครบ
เหตุการณ์ทำนองนี้ได้เกิดขึ้นกับประเทศในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกามาก่อนแล้ว
เราลองมาศึกษาสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศดังกล่าวดูว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง
หลังจากที่ทางการฝรั่งเศส ได้ผ่อนคลายมาตรการสาธารณสุข และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
1) ไม่บังคับให้ใส่หน้ากากอนามัย
2) เปิดธุรกิจเต็มที่ กระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการท่องเที่ยว
3)มีอัตราการฉีดวัคซีนของประชาชนค่อนข้างสูง
4) ไวรัสโอมิครอนติดง่าย แต่ไม่ค่อยรุนแรงมากนัก
ผลปรากฏว่า หลังจากผ่านมาเพียงไม่กี่เดือน สถานการณ์โควิดในฝรั่งเศสกลับมารุนแรงอีกครั้งหนึ่ง จนอาจจะเรียกว่าเป็นการระบาดอีกระลอกหนึ่งก็ได้
โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อวันเดียวสูงถึง 124,724 ราย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขต้องออกมาแถลงกับสื่อมวลชนว่า ครั้งนี้ไม่ใช่คำแนะนำ (Advising) แต่เป็นการขอร้อง (Asking) ให้ชาวฝรั่งเศสทุกคนร่วมกันปฏิบัติตัวแบบหน้าที่พลเมือง (Civic Duty)
ช่วยกันใส่หน้ากากอนามัยกันอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะ ร้านค้า และในที่ทำงานต่างๆ
ทั้งนี้เพื่อให้ฝรั่งเศสสามารถรับมือกับสถานการณ์การระบาดครั้งใหม่ได้
โดยที่สถานการณ์ของประเทศไทยเรา ตามหลังฝรั่งเศสอยู่หลายเดือน และเรากำลังใช้มาตรการทำนองเดียวกัน ได้แก่
1) ไม่บังคับให้ใส่หน้ากาก ตั้งแต่ 23 มิถุนายน 2565
2) เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยได้ โดยที่ไม่ต้องตรวจ PCR หรือ ATK
3) เริ่มมีไวรัสกลายพันธุ์ BA.5 ที่แพร่ระบาดได้รวดเร็วขึ้นเช่นเดียวกัน
4) แต่เราฉีดวัคซีนน้อยกว่าฝรั่งเศส
จึงมีความเสี่ยงพอสมควร ที่เราจะเจอสถานการณ์เดียวกับฝรั่งเศสคือ พบผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น
ประกอบกับองค์การอนามัยโลกได้ออกแถลงการณ์ว่าโควิดของโลกเรายังไม่ถือว่าไว้วางใจได้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่ต้องเฝ้าจับตามองว่า มีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดเพิ่มขึ้นอีก
ประเทศไทยจึงควรระมัดระวัง ไม่ชะล่าใจ และไม่ผ่อนคลายมาตรการต่างๆมากเกินไป
โดยน่าจะยึดหลัก ผ่อนคลายเรื่องทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว แต่ไม่ผ่อนคลายมาตรการสาธารณสุข
การสวมหน้ากากอนามัย การกระตุ้นให้มีการฉีดวัคซีน ยังมีความจำเป็น เพื่อที่เราจะได้ไม่ประสบชะตากรรมแบบเดียวกับประเทศในยุโรปดังกล่าวข้างต้น
Reference
- 95
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
