4 ก.ค. 2022 เวลา 07:09 • ปรัชญา
ศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิ
‘อาเบล มูไต’ นักวิ่งมาราธอนชาวเคนยา กำลังจะวิ่งถึงเส้นชัย อีกเพียงสองสามก้าวเท่านั้น แต่เขาเกิดสับสนกับการให้สัญญาณของกรรมการ จึงหยุดอยู่ตรงนั้นด้วยความเข้าใจว่าตนถึงเส้นชัยแล้ว.
‘อีวาน เฟอร์นานเดซ’ นักวิ่งจากสเปนซึ่งวิ่งตามมาติดๆ รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เขาร้องตะโกนดังๆบอกให้มูไตวิ่งให้ถึงเส้นชัย แต่มูไตฟังไม่รู้เรื่อง เฟอร์นานเดซจึงผลักมูไตเซหลุนๆ เข้าไปถึงเส้นชัย.
หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน นักข่าวหลายคนเข้าไปถามเฟอร์นานเดซว่า
"ทำไมทำแบบนั้น?"
เฟอร์นานเดซตอบว่า
"ผมใฝ่ฝันมาตลอดว่า สักวันหนึ่งผมจะมีชื่อโด่งดังเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วไป."
"แล้วทำไมไปผลักให้นักวิ่งเคนยาเข้าเส้นชัยล่ะ?" นักข่าวถามต่อ.
"ก็เขากำลังจะเข้าเส้นชัยอยู่แล้วนี่." เฟอร์นานเดซตอบ.
"คุณมีโอกาสแซงเข้าเส้นชัยแล้ว ทำไมไม่ทำ?” นักข่าวซักต่อ.
เฟอร์นานเดซมองหน้ากลุ่มนักข่าวแล้วตอบว่า
"ถ้าทำแบบนั้นผมจะกล้าแบกหน้าไปขึ้นแท่นรับเหรียญรางวัลเหรอ ผมจะกลายเป็นคนไร้ซึ่งศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิไปตลอดชีวิต แล้วมันน่าภูมิใจนักหรือ?"
 
‘ศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิ’ เป็นค่านิยมที่อารยชนสั่งสอนสืบต่อกันมาช้านาน.
จงอย่าสอนให้อนุชนรุ่นหลังมุ่งแต่แสวงชัยชนะ โดยปราศจากศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิ.
โฆษณา