5 ก.ค. 2022 เวลา 13:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ส่อง 3 กลุ่มธุรกิจ โตรับการกลับมาของกลุ่มผู้บริโภคจีน
โดย คุณนาวิน อินทรสมบัติ
Chief Investment Officer, KAsset
ส่อง 3 กลุ่มธุรกิจ โตรับการกลับมาของกลุ่มผู้บริโภคจีน
Highlight :
  • การบริโภคของจีนมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด
  • หุ้น 3 กลุ่มหลักจะได้ประโยชน์ที่ชัดเจนจากการกลับมาของจีน
  • เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของจีนที่ดี รัฐพร้อมออกมาตรการทั้งการเงินและการคลังสนับสนุนการเติบโต
✅ พลังกำลังซื้อมหาศาลจากชนชั้นกลางของจีน
ปัจจุบันผู้บริโภคจากประเทศจีน ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ผู้ประกอบการแทบทุกแห่งต่างจับตามอง เห็นได้จากสถิติข้อมูลปี 2019 ที่พบว่ากว่า 1 ใน 4 หรือประมาณ 22% ของการบริโภคทั่วโลกมาจากประเทศจีน ซึ่งสูงเกือบเท่าสหรัฐฯ ที่มีสัดส่วนอยู่ 25% และใหญ่กว่าของยุโรปกว่าเท่าตัว
โดยการเติบโตของกำลังซื้อที่มหาศาลของชนชั้นกลางในจีนนี้ มาจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของชนชั้นกลางในประเทศจีน ที่มีการเพิ่มขึ้นจาก 0% ในปี 1995 ไปเป็น 41% ในปี 2020 และคาดว่าจะโตไปถึง 72% ในปี 2030 ทำให้การบริโภคในประเทศจากคนกลุ่มนี้จะเติบโตได้อย่างโดดเด่น
✅ หุ้นกลุ่มไหนจะได้ประโยชน์จากการกลับมาของกำลังการบริโภคในจีน
- กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย
กระแสการชอบใช้ของแบรนด์เนมที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กำไรของบริษัทกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เทรนด์การชอบใช้ของพรีเมียมมีให้เห็นในหลายกลุ่มสินค้า
ไม่เพียงแต่กระเป๋าแบรนด์เนมแต่รวมถึงเหล้าแบรนด์สุดหรู Moutai (เหมาไถ) ที่แม้กระทั่งในช่วงระบาด ก็ยังทำยอดขายดีต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว iMoutai App เพื่อเพิ่มธุรกิจ Direct Sales เอาใจสายติดหรูกันเลยทีเดียว
1
- กลุ่มธุรกิจ E-commerce
เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 วิถีชีวิตที่ผู้คนเน้นความสะดวกสบายมากขึ้น และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทำให้ความนิยมของธุรกิจ E-commerce ทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศจีนที่มีลูกค้าจำนวนมาก จนรั้งตำแหน่งตลาดค้าปลีกสินค้าออนไลน์ใหญ่ที่สุดของโลกต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 8
และพฤติกรรมการช้อปออนไลน์จะยังคงอยู่แม้การระบาดจะหมดไป โดย GlobalData คาดว่า ในช่วงปี 2021 - 2025 มูลค่าตลาด E-commerce จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่สูงถึง 11.6% เลยทีเดียว สะท้อนว่าหุ้นกลุ่มนี้มีโอกาสการเติบโตในอนาคตที่ชัดเจน
- รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ EV
เนื่องจากความนิยมใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และการสนับสนุนจากภาครัฐที่มีเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2060 ทำให้จีนมีแบรนด์รถยนต์ EV ของตัวเองออกมามากมาย
เช่น XPENG และ NIO โดยในปีที่ผ่านมายอดขายรถ EV ในจีนสูงถึง 3.2 ล้านคัน แซงหน้ายุโรปที่ 2.4 ล้านคัน ขณะที่สหรัฐฯอยู่ที่เพียง 7 แสนคัน และเมื่อบวกกับการที่จีนตั้งเป้าจะเพิ่มยอดขายรถ EV จาก 5% ของยอดขายรถทั้งหมด ไปเป็น 20% ในปี 2025 แสดงถึงโอกาสการเติบโตของหุ้นที่เกี่ยวข้องอีกมาก
✅ มุมมองต่อโอกาสในการเติบโตและการลงทุนในตลาดหุ้นจีน
แม้ว่าการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในจีนจะส่งผลกระทบต่อการบริโภค แต่มีแนวโน้มที่รัฐบาลจีนจะมีมาตรการกระตุ้น ออกมาเรื่อยๆ เพื่อผลักดันให้ GDP สามารถขยายตัวได้ 5.5% ตามเป้าหมาย ประกอบกับหุ้นจีนจำนวนมากที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีความเป็นผู้นำตลาด สามารถผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังลูกค้าได้
โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีและการบริโภค ที่มีแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวที่โดดเด่น ด้วยอานิสงส์จากการอัพเกรดคุณภาพชีวิตของคนจีนและการสนันสนุนจากภาครัฐที่ชัดเจน
ที่สำคัญ Valuation ของหุ้นจีนยังอยู่ในระดับต่ำมาก เปิดโอกาสให้เห็นการฟื้นตัวที่ดีได้เมื่อนักลงทุนกลับมาให้น้ำหนักที่ปัจจัยพื้นฐาน และบริษัทมากมายกำลังให้ความสนใจที่จะลงทุนกับประเทศจีนเป็นอย่างมาก ทั้งหมดนี้จึงเป็นสัญญาณที่ดีของการเริ่มลงทุนในประเทศจีนในอนาคต
และใครที่กำลังมองหาตัวช่วยเรื่องการลงทุนดี ๆ ที่ช่วยให้เราเข้าถึงการลงทุนในประเทศจีนได้ง่ายขึ้น ก็อย่าลืมดาวน์โหลดแอป K-My Funds ติดเครื่องไว้ เพราะสามารถเปิดบัญชีกองทุนออนไลน์ได้ทุกที่ ตลอด 24 ชม.
ที่สำคัญยังมีการอัปเดตข่าวสารแวดวงการลงทุนทั่วโลก แนะนำกองทุนน่าสนใจ และฟีเจอร์ช่วยจัดพอร์ตกองทุนให้ตรงสไตล์ของเรา ช่วยให้เราตามทันทุกการลงทุนทั่วโลกได้ในแอปเดียว
📌 ดูรายละเอียดเกี่ยวกับแอป K-My Funds เพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3HfUPoi
📲 สนใจลงทุน เริ่มต้นเพียง 500 บาท ผ่านแอป K-My Funds ตลอด 24 ชม.
#KAsset #KBankLive
โฆษณา