6 ก.ค. 2022 เวลา 03:41 • ปรัชญา
ชีวิตนั้น กายนี้ก็เหมือนเรื่อลำหนึ่ง มีวิญญาณทั้งหก ไปสัมผัสสิ่งนั้นสิ่งนี้ เดี๋ยวมืด เดี๋ยวสว่าง ตามตะวันที่ขึ้นมา ตกลงไป ชีวิตที่เหมือนแล่นเรือกลางมหาสมุทร มีทั้งกระแสคลื่น คลื่นลม ฝนฟ้า พายุ บางวันเมฆก็ปกปิดไม่ให้เห็นดวงอาทิตย์ บางวันก็ปลอดโปร่ง ไม่รู้ว่าจะพากายพาเรือลำนี้ไป เจอะเจออะไรบ้าง
นักเดินเรือสมัย เค้ามีแต่เข็มทิศแม่เหล็ก มีแผ่นที่หยาบๆ เวลาอยู่ในท้องมหาสมุทรมันเห็นน้ำกับฟ้า ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ต้องอาศัยปฏิทินดาราศาสตร์ มีนาฬิกา หาตำแหน่งเรือว่าอยู่ตรงไหนในแผนที่ ชีวิตของคนเราก็เหมือนกัน บางครั้งก็สับสนหลงทิศทาง ไม่รู้ว่าชีวิตของตนนั้นมันอยู่ตรงไหน จะทำอะไร จะไปทางไหน มันหลงสับสัน เหนื่อยล้า วนเวียนไร้ทิศทาง ต้องหาสิ่งต่างๆ มายึดมาเกี่ยวนำทางให้ หวังไปสู่สิ่งที่ดีเป็นสุข แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นสุขที่แท้จริงหรือไม่
เมื่อ เวลาพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ก็อาศัยพระอาทิตย์ ส่องหาความคลาดเคลื่อนของเข็มทิศ ว่ามันมีความผิดปกติ เข็มทิศมันมีความผิดพลาดอย่างไร จะได้นำเรือไปให้ถูกทิศทาง หรือ หลบหลีก อุปสรรค ด้วยสติสัมปชัญญะของตัวเอง
ชีวิตของคนเรา เราก็ต้องแบ่งปันเวลาให้แก่ตัวเอง คือ หยุดกิจกรรมทั้งหมดที่เนื่องด้วยอารมณ์ ที่เหมือนสภาพท้องน้ำ คลื่นลม พายุ เราหยุดให้กายนิ่งเสียบ้าง เพื่อให้จิตได้พัก ได้สำรวจตรวจสอบเรื่องราวภายในของตัวเราเอง
การที่เราพักกาย หยุดเพื่อสำรวจตรวจสอบ เรือนกายของตัวเองที่เหมือนเรือต้องผจญภัยในท้องมหาสมุทร สำรวจเรือนกาย มีอะไรบกพร่อง มีอะไรที่เอามาบรรจุมาใส่ให้เรือมันหนัก หนักไปทั้งกายใจมันก็หนักไปด้วย นั้นเป็นสิ่งที่ต้องสำรวจตัวเราเอง เรื่องทิฐิความคิดเห็นความยึดถือที่เราไปหยิบไปจับ นำเข้ามาเอง โดยอารมณ์ของเรานั้นแหละที่นำมาให้ ทำให้เรือมันหนัก
เมื่อลำเรือ มันไม่แข็งแรง จิตใจไม่แข็งแรง โดนคลื่นลมเล็กน้อย หัวเรือก็คือ วิญญาณทั้งหก หัวเรือนั้น ก็ถูกคลื่นลมที่ปะทะหัวเรือ กดหัวเรือให้จมลง นั้นก็คือ อารมณ์โลภโกรธหลง เกลียดชัง อิจฉา เห็นตัวเองดีแล้ว มันกดหัวเรือให้จมสู่ท้องน้ำ จะมีสติปัญญา โต้คลื่นลม คัดหัวเรือให้รอดพ้นบ่วงเวรบ่วงกรรมไม่ได้เลย มันเลยเลยพึ่งตัวเองไม่ได้ เพราะมีแต่กรรมที่กดทับจิต เรือก็มีแต่จะล่มจมท้องทะเลท่าเดียว
เมื่อกายได้พัก จิตได้พัก พักตรงที่ไม่มีจิตไม่มีอารมณ์ชั่วขณะหนึ่ง จิตก็สว่างไสว มีสติสัมปชัญญะ ที่จะควบคุมกายวิญญาณของเรา พาเรือลำน้อย เดินทางฝ่าคลื่นอุปสรรคต่างๆไปได้ เพราะจิตจะเข้าใจด้วยตัวเอง กำหนดทิศทางของตัวเอง ที่จะไปหาสิ่งที่ทุกข์หรือสุข อะไรที่หนักอยู่ในเรือ ก็สลัดมันทิ้งไป ให้กายนั้นเบาจิตเบา
แล้วต้องมันตรวจสอบตัวเอง ในความผิดปกติของอารมณ์นึกคิด เหมือนเราตรวจเข็มทิศตอนตะวันมันขึ้นหรือตก ต้องตรวจสอบอยู่ตลอดจะได้มีเข็มทิศที่ดีช่วยในการเดินทางของชีวิต
โฆษณา