แผนสายฟ้าแลบที่เป็นไปไม่ได้ จากแผนเดิมคือการยุติการต่อสู้ภายในสามวัน แต่ตอนนี้อยู่บนหลังบังเกอร์มานานกว่า 133 วันแล้ว
หลังจากประกาศเมื่อวันที่ 3 ว่าได้ควบคุม Lisichansk ซึ่งเป็นเมืองใหญ่สุดท้ายในภูมิภาค Luhansk ....
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย Shoigu ได้รายงานต่อประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซียในวันที่ 4 ว่าภาระกิจ "การปลดปล่อยสาธารณรัฐประชาชน Luhansk" ได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
แม้แต่สื่อตะวันตกก็ต้องยอมรับว่านี่คือ "ชัยชนะครั้งสำคัญ" สำหรับรัสเซีย
จนถึงขนาดนักบินอวกาศชาวรัสเซียต้องเฉลิมฉลองด้วยการแสดงธง "สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์" และ "สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์" บนสถานีอวกาศนานาชาติ
หลังจากรับทราบการถอนตัวแล้ว ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวในวันที่ 3 ว่าเขาจะยึดพื้นที่ดังกล่าวกลับคืนมา
โลกภายนอกกังวลมากขึ้นว่ากองทัพรัสเซียจะรุกคืบหน้าต่อไปอย่างไร
นักวิเคราะห์ชาวตะวันตกกังวลว่าการที่มอสโกวในสนามรบจะเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อสหรัฐฯ และพันธมิตร
เช่น ให้พวกเขาส่งอาวุธที่ทรงพลังมากขึ้นไปยังแนวรบยูเครน
"New York Times" กล่าวว่าสำหรับประเทศตะวันตก ขั้นตอนต่อไปของสงครามไม่ได้เป็นเพียงการทดสอบการขนส่งทางทหารเท่านั้น
แต่ยังเป็นการทดสอบความสามัคคีด้วย ในขณะที่ความขัดแย้งยืดเยื้อและประชากรของพวกเขากำลังประสบปัญหาทางการเงิน
จึงเป็น ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างพันธมิตร ต่อไปอาจเป็นเรื่องยากที่จะรักษาไว้
นายชอยกู (Shoigu)รมว.กลาโหมรัสเซีย
ตามรายงาน "มุมมอง" ของรัสเซีย Shoigu รายงานต่อปูตินในวันที่ 4 ว่าภายในสองสัปดาห์ กองทัพรัสเซียเข้าล้อมและกำจัดกองทัพยูเครนใน Lisichansk และ Severo-Donetsk
กองทัพรัสเซียและ "กองทัพประชาชน Luhansk (Luhansk People's Republic)" ได้ควบคุมพื้นที่ 670 ตารางกิโลเมตร กองทัพยูเครนสูญเสียคน 5,469 คนโดย 2,218 คนเสียชีวิต
ปูตินแสดงความขอบคุณและแสดงความยินดีกับทหารรัสเซียและ "กองทัพประชาชน Luhansk" ที่เข้าร่วมการต่อสู้
"สิ่งที่เราทำมาตลอด 8 ปีในที่สุดก็กลายเป็นความจริง"
รัสเซียรายงานเมื่อวันที่ 4 ว่าผู้นำของ "Luhansk People's Republic" Pasechnik โพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียล Telegram เมื่อวันที่ 3 โดยอธิบายว่า "ทั้งหมดของ ดินแดน" ที่ได้รับการปลดปล่อย" เป็น "วันใหม่อันยิ่งใหญ่แห่งชัยชนะ"
โดยกล่าวว่า "เช่นเดียวกับในปี 1945 น้ำตาของเราหลั่งไหลจากดวงตาของเรา การสู้รบหนักและนองเลือด แต่ชัยชนะก็เป็นของเราอีกครั้ง"
"Financial Times" ของอังกฤษให้ความเห็นว่านี่เป็นความสำเร็จทางทหารที่สำคัญ
นับตั้งแต่รัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหารพิเศษกับยูเครนเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว เป็นครั้งแรกที่กองทัพรัสเซียเข้าควบคุมพื้นที่ของยูเครนอย่างสมบูรณ์
ส่วน New York Times เรียกสิ่งนี้ว่า "ชัยชนะครั้งสำคัญ"
สำหรับรัสเซียในการยึดครองภูมิภาค Donbas ทั้งหมด หลังจากล้มเหลวในการยึดเมืองหลวงของยูเครน Kyiv
โดยในฤดูใบไม้ผลินี้ การควบคุมของภูมิภาค Donbas ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของยูเครน ได้กลายเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของมอสโก
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะ
นักบินอวกาศชาวรัสเซียได้แสดงธงของ "สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์" และ "สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์" บนสถานีอวกาศนานาชาติ RIA Novosti
ซึ่งรายงานข่าวกล่าวว่า Roscosmos โพสต์บน Telegram ในวันที่ 4 "เราเฉลิมฉลองร่วมกันบนโลกและในอวกาศ"
หลังจากที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศในวันที่ 3 ว่ากองทัพรัสเซียเข้าควบคุม Lisichansk ประเทศยูเครนอย่างสมบูรณ์
ประธานาธิบดี Volodymyr Zelensky ปฏิเสธข่าวดังกล่าว
หนังสือพิมพ์ New York Times รายงานว่าเซเลนสกีกำลังจัดแถลงข่าวกับนายกรัฐมนตรีอัลบาเนสของออสเตรเลียที่กำลังเยือนกรุงเคียฟในขณะนั้น
สำนักข่าวกลางรัสเซียกล่าวว่าหลังจากทราบสถานการณ์จริงในแนวหน้าแล้ว เซเลนสกีก็โกรธจัดและตำหนิผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพยูเครน Zaluzhny
ต่อมาในการปราศรัยในคืนวันที่ 3 Zelensky ยอมรับว่ากองทัพยูเครนได้ถอนตัวจาก Lisichansk แต่สาบานว่า "ยูเครนจะไม่ยอมแพ้ในดินแดนใด ๆ " และจะกลับมาที่นี่
เขาเรียกความก้าวหน้าของรัสเซียใน Donbass ตะวันออก รวมทั้ง Luhansk และ Donetsk ที่ดูเหมือนความพยายามของเด็กๆโดยเป็นแค่ "ความมุ่งมั่นในการขยายดินแดนที่กล้าหาญของมอสโกในช่วงแรก ๆ ของสงคราม"
เจ้าหน้าที่ทั่วไปของกองทัพยูเครนอธิบายบน Facebook ว่า "เนื่องจากกองทัพรัสเซียมีข้อดีหลายประการในด้านอุปกรณ์และบุคลากร การยืนตั้งรับอย่างต่อเนื่องจะนำไปสู่ผลร้ายเท่านั้น" เพื่อปกป้องชีวิตของทหารยูเครน การตัดสินใจ ได้ล่าถอย จึงเป็นการดีกว่า
เกี่ยวกับสถานการณ์สงคราม ทหารยูเครนที่สัมภาษณ์โดย Associated Press ได้แสดงมุมมองที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
Nazarenko ผู้ต่อสู้กับรัสเซียใน Kyiv และ Udon เชื่อว่าผู้พิทักษ์สามารถควบคุมจำนวนผู้เสียชีวิตได้
ในขณะเดียวกันก็ชะลอการโจมตีของรัสเซียและทำให้มันดำเนินไปนานกว่าที่คาดไว้
เมื่อศักยภาพแห่งการโจมตีถูกทำลาย
" Oleksi ซึ่งกลับมาจากแนวหน้าใน Zolot เมืองใน Severo-Donetsk ภูมิภาค Luhansk ได้รับบาดเจ็บและเดินกะเผลกๆ
แต่กลับ “มีภาพทหารแนวหน้า มีสามัคคี และกองทหารที่สวยงามในทีวี แต่ความเป็นจริงแตกต่างกันมาก” เขากล่าว พร้อมสังเกตว่าการส่งอาวุธจากตะวันตกเริ่มมากขึ้น มันจะเปลี่ยนวิถีของสงคราม
จนฝ่ายตะวันตกเริ่มมีความสงสัยว่า
ปูตินสั่งชอยกูในวันที่ 4 ให้ดำเนินการโจมตีรัสเซียในยูเครนต่อไป ปูตินกล่าวว่ากองกำลังที่ต่อสู้และชนะในลู่หานสค์ควรพักผ่อนและปรับปรุงความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขา
กองทัพอื่นๆ จะต้องปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จต่อไปตามแผนที่ได้รับอนุมัติล่วงหน้า
“ผมเชื่อว่าในอีกทางหนึ่ง ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เคยเกิดขึ้นในลู่หานสค์” เขากล่าว
AFP กล่าวว่าการควบคุม Lisichansk จะทำให้กองทัพรัสเซียมีฐานทัพเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มการโจมตี Dogne .
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
เชื่อว่ากองกำลังรัสเซียเข้าควบคุมโดเนตสค์ได้ครึ่งหนึ่ง หลังจากเข้าควบคุมเมืองลูฮันสค์แล้ว
รัสเซียจะเปลี่ยนโฟกัสไปที่การครอบครองภูมิภาคโดเนตสค์ทั้งหมด
ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสค์ของยูเครนกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันที่ 4 เขาคาดว่า Slavyansk และ Bakhmut ในภูมิภาคโดเนตสค์จะถูกโจมตีต่อ...
นอกจากสองเมืองข้างต้นแล้ว
Kramatorsk ยังเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่สุดท้ายในโดเนตสค์ที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน
"New York Times " กล่าวว่าหาก Kramatorsk ล้มลง
กองทัพรัสเซียจะเข้าควบคุมภูมิภาค Donbas ทั้งหมด ซึ่งสามารถอ้างชัยชนะทางทหารได้อย่างมาก
ภูมิภาค Donbas มีสัดส่วนประมาณ 9 เปอร์เซ็นต์ของอาณาเขตของยูเครน แต่มีความสำคัญในแง่ของอุตสาหกรรม ที่ตั้ง และศักยภาพในการเป็นเครื่องต่อรองสำหรับมอสโก
ไม่เพียงมีทรัพยากรแร่เท่านั้น แต่ยังให้รัสเซียมีทางเดิน(บนบก)ไปยังแหลมไครเมีย
การพัฒนาล่าสุดได้จุดชนวนข้อสงสัยในหมู่สมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐฯ และผู้สังเกตการณ์สงคราม ที่สงสัยว่ายูเครนสามารถหยุดรัสเซียได้
เดอะวอชิงตันโพสต์กล่าว การมองโลกในแง่ดีที่เกิดจากสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยของรัสเซียในการสู้รบเพื่อเคียฟในฤดูใบไม้ผลินี้ได้จางหายไป
รัสเซียได้เพิ่มการโจมตีคาร์คิฟเมื่อเร็ว ๆ นี้ และชาวยูเครนบางคนกลัวว่ามอสโกกำลังวางแผนที่จะเริ่มแคมเปญใหม่เพื่อยึดเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของยูเครนที่หยุดชะงักในเดือนมีนาคม
อย่างไรก็ตาม "New York Times " เชื่อว่ารัสเซียกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ
มันควบคุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของยูเครน แต่ต้องเติมกองกำลังและกระสุนที่ใช้
เนื่องจากเป็นสงครามภาคพื้นดินที่รุนแรงและยืดเยื้อ
ทางCNN ก็รายงานชัยชนะของกองทัพยูเครนเมื่อวันที่ 4 โดยกล่าวว่าโฆษกกองบัญชาการรบทางใต้ของยูเครนกล่าวในวันเดียวกันว่า
หลังจากการบังคับให้กองทัพรัสเซียถอนตัวจากเกาะงูที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ กองทัพยูเครนได้ยกธงยูเครน บนเกาะ.
อย่างไรก็ตาม ภายหลังได้ชี้แจงว่าธงถูกทิ้งบนเกาะงูโดยเฮลิคอปเตอร์ และขณะนี้ไม่มีทหารยูเครนบนเกาะนี้ ฮาาาาาา
ในวันที่ 4 ที่ World Peace Forum ซึ่งจัดขึ้นที่ปักกิ่ง เอกอัครราชทูตรัสเซีย Denisov เผชิญกับ "การห้อมล้อม" ของเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส และเริ่มโจมตีเขา
ตำหนิรัสเซียสำหรับวิกฤตยูเครน.
CNN อธิบายว่าช่างเป็นภาพที่ "หาดูได้ยาก" สำหรับการอภิปรายทางการทูตในฟอรัมเดียวกัน
ในที่เกิดเหตุสังเกตได้ว่าก่อนเริ่มการประชุม เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีน เบิร์นส์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศจีน Wu Ruolan และเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศจีน Roliang ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ชม
ขณะที่ Denisov ถูกปล่อยให้ยืนอยู่คนเดียว
หลังจากเอกอัครราชทูตหลายคนเข้ารับตำแหน่ง
เดนิซอฟและเบิร์นส์จับมือกันอย่างสุภาพ ดึงดูดสื่อจำนวนมากให้ถ่ายรูป... แต่"มารยาท" นั้นสั้นนัก
เบิร์นส์ซึ่งเป็นคนแรกที่พูดได้โจมตีเดนิซอฟอย่างรวดเร็วโดยกล่าวว่ารัสเซีย "ไม่ได้ยั่วยุ" แต่ได้เริ่มปฏิบัติการทางทหารกับยูเครน ทำให้พลเรือนเสียชีวิตจำนวนมากและนำวิกฤตด้านอาหารมาสู่โลก
เขาได้ระบุว่ารัสเซียเป็น "ภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อระเบียบสากล"
ในเรื่องนี้ เดนิซอฟตอบโต้ในตอนแรกว่าเขา "ไม่เห็นด้วยกับทุกสิ่งที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กล่าว" จากนั้นจึงกล่าวว่า "ด้วยมารยาททางการทูต ข้าพเจ้าขออวยพรให้นายเอกอัครราชทูตและเพื่อนร่วมงานชาวอเมริกันทุกคนมีความสุขในวันประกาศอิสรภาพ"
ต่อจากนั้น เดนิซอฟได้พูดคุยเกี่ยวกับการขยายพื้นที่ทางตะวันออกของนาโต้ทั้งห้ารอบ
ทุกอย่างมีสองด้าน
เขาพูดว่า "เรามาดูอีกด้านหนึ่งกันเถอะ...ฉันเกิดที่ยูเครน แม่ของฉันเป็นคนยูเครน และฉันเห็นอกเห็นใจสิ่งนี้มากกว่าทุกคนในห้องที่เอาแต่ด่าทอประเทศของฉัน ".
Wu Ruolan และ Luo Liang ก็ได้ที กล่าวหารัสเซียตามลำดับว่า "ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์อาหารโลก" และ "ปฏิเสธการทูตและเลือกสงคราม" เป็นต้น
Denisov ก็ปฏิเสธพวกเขาในเรื่องเกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเบิร์นส์เกี่ยวกับ "การรุกราน" ของรัสเซีย
และกล่าวว่าเมื่อพูดถึงอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน "ฉันอยากจะพูดคำเดียวว่า โคโซโว"
เขาเสริมว่าคนรัสเซียรู้ว่าอะไรถูกและอะไรผิด “ซึ่งอะไรถูกและอะไรผิดประธานาธิบดีปูตินรับรู้ได้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ในรัสเซีย เทียบไม่ได้เลยกับ 36 เปอร์เซ็นต์สำหรับประธานาธิบดีสหรัฐฯ”
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
