ยอดขาย Nintendo Switch ในญี่ปุ่น ไตรมาสล่าสุด ลดลง 33% เพราะปัญหาด้านซัปพลายเชน
Nintendo Switch เป็นเครื่องเล่นเกมคอนโซลขนาดพกพาของบริษัท Nintendo ที่ได้รับความนิยมสูง ทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก
ด้วยขนาดของเครื่องเล่นที่กะทัดรัด พกพาไปเล่นนอกบ้านได้ เลยถูกใจนักเล่นเกมในยุคปัจจุบัน จนถึงขนาดว่าในช่วงโควิด 19 Nintendo Switch กลายเป็นของแรร์ ที่มีคนซื้อไปเล่นเยอะจนขาดตลาด
แต่จากปัญหาด้านซัปพลายเชน ที่กำลังส่งผลกระทบต่อธุรกิจการผลิตทั่วโลก เรื่องนี้ก็กระทบต่อ Nintendo ด้วยเช่นกัน
จากการรายงานของสำนักข่าว Nikkei พบว่า
ยอดขายเครื่องเล่นเกม Nintendo Switch ในประเทศญี่ปุ่น ในเดือนเมษายน-มิถุนายน ขายได้ทั้งหมด 840,000 เครื่อง ลดลง 33% เมื่อเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ที่น่าสนใจคือ ยอดขาย Nintendo Switch ในญี่ปุ่น คิดเป็นราว ๆ 1 ใน 5 ของยอดขายทั่วโลก
หมายความว่า ยอดขายที่ลดลงในญี่ปุ่นครั้งนี้ ก็ถือว่าส่งผลกระทบต่อยอดขายทั้งหมดของบริษัท ไม่น้อยเลยทีเดียว
แล้วสาเหตุหลักที่ทำให้ยอดขาย Nintendo Switch ในญี่ปุ่นลดลงคืออะไร ?
เนื่องจากสถานการณ์การขาดแคลนชิป และห่วงโซ่อุปทานการผลิต หรือซัปพลายเชนมีปัญหา
ทำให้บริษัทไม่สามารถผลิต Nintendo Switch ให้เพียงพอต่อความต้องการได้
โดยก่อนหน้านี้ในปีบัญชี 2021 ที่ผ่านมาของ Nintendo (ปีบัญชีสิ้นสุด ณ 31 มีนาคม 2022) ยอดขายเครื่องเล่นเกมทั้งหมดของบริษัท ก็ลดลงไปถึง 33.3% จากปีก่อนหน้าเช่นกัน
ซึ่ง Nintendo เองก็มีความกังวลในเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย เนื่องจากที่ผ่านมามักมีการเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงฤดูร้อน เพื่อให้มีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ก่อนที่จะถึงเทศกาลหยุดยาว
ซึ่งปัญหานี้อาจทำให้บริษัทพลาดโอกาส ในการขาย Nintendo Switch ในช่วงเทศกาลหยุดยาวของปีนี้
และ Nintendo ก็กำลังพยายามแก้ไขปัญหาด้านซัปพลายเชน โดยบริษัทจะปรับเปลี่ยนการออกแบบตัวเครื่องเล่นเกม Nintendo Switch ให้สามารถใช้ชิ้นส่วนที่มีอยู่ได้
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทก็บอกว่า
ปัญหาเรื่องการขาดแคลนชิป และความไม่แน่นอนของห่วงโซ่อุปทาน ก็ยังคงเป็นเรื่องใหญ่และท้าทาย ของบริษัทอยู่ดี..
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
