Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Daily Series
•
ติดตาม
7 ก.ค. 2022 เวลา 00:30 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
จะมีสักกี่คนที่ยังอยู่เคียงข้างเราไม่ว่าจะสุขหรือเศร้า และพาเราเติบโตไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
Twenty Five Twenty One (ยี่สิบห้า ยี่สิบเอ็ด) ตอนที่ 9
หลังจากที่นาฮีโดเข้าใจผิดว่าแพคอีจินคือ
อินจอลมี เพื่อนในแชทของเธอ
แพคอีจินก็รีบบอกความจริงกับนาฮีโดทันทีว่า
ตัวเองไม่ใช่อินจอลมี
แต่นาฮีโดดันพูดออกไปแล้วว่า เธอต้องการครอบครองแพคอีจิน นาฮีโดรู้สึกอายที่ตัวเองพูดอะไรออกไปไม่ทันได้คิด เธอสติแตกแล้วรีบวิ่งหนีไป ปล่อยให้แพคอีจินยืนตกใจกับคำพูดนั้นต่อไป
วันต่อมา โกยูริมวิ่งมาหาแพคอีจินถึงหน้าบ้านแต่เช้า เธอถามแพคอีจินว่ายังไม่ได้บอกนาฮีโดเรื่องที่เธอคืออินจอลมีใช่ไหม
แพคอีจินสงสัยว่าทำไมโกยูริมถึงต้องคอยหลบหน้านาฮีโดด้วย
เธอจึงเล่าให้ฟังว่าได้พูดอะไรไม่ดีกับนาฮีโดไปบ้าง ทั้งที่คนที่อยู่ในแชทคือนาฮีโดที่คอยปลอบโยนเธอมาตลอดแท้ๆ
โกยูริมแค่กำลังรู้สึกสับสนว่าควรทำอย่างไรดี
แพคอีจินเห็นนาฮีโดเดินผ่านมาทางนี้พอดี แต่เธอกลับรีบหันหลังให้แล้วเดินหนีไป แพคอีจินจึงหันไปบอกกับโกยูริมด้วยความงุนงงว่า
"ตอนนี้เธอกำลังหลบหน้านาฮีโดอยู่
ส่วนนาฮีโดก็กำลังหลบหน้าฉันอยู่"
นาฮีโดเห็นโกยูริมทำตัวแปลกๆ แต่เมื่อโกยูริมเปิดตู้ล็อกเกอร์ เธอดันเห็นฟูลเฮาส์เล่มที่ 16 อยู่ในล็อกเกอร์ พอโกยูริมออกไป นาฮีโดรีบแอบเปิดอ่านทันที
ขณะนั้น โกยูริมดันกลับเข้ามาที่ล็อกเกอร์อีกครั้ง เธอเห็นนาฮีโดกำลังยืนอ่านฟูลเฮ้าส์อยู่ นาฮีโดตกใจรีบทำเนียนพูดเฉไฉวางไว้ที่เดิมแล้ววิ่งหนีไป
วันนี้โค้ชยางชานมีชวนเด็กๆชมรมฟันดาบไปกินอาหารที่ร้านแม่โกยูริม นาฮีโดมีท่าทีกล้าๆกลัวๆไม่ค่อยสบายใจที่จะต้องเดินเข้าร้านโกยูริม
แต่แม่โกยูริมกลับถอดผ้ากันเปื้อนแล้วเดินมากอดนาฮีโดพร้อมกับบอกว่า
“ลำบากมามากเลยนะ ฮีโด ได้ยินอะไรหยาบคายๆมาเยอะเลยล่ะสิ กลัวมากใช่ไหม ป่านนี้ดีขึ้นบ้างหรือยังนะ”
“ค่ะ”
นาฮีโดตอบรับด้วยความตื้นตันใจผิดจากที่ก่อนหน้านี้ดูมีความกังวลอยู่ไม่น้อย
แม่โกยูริมสวมกอดนาฮีโด และปลอบใจเธอด้วยความอบอุ่น
ส่วนที่สำนักข่าว UBS หัวหน้าแผนกกีฬาได้เสนอให้ทีมทำเทปพิเศษกีฬาฟันดาบเอเชียนเกมส์
ด้านแพคอีจินแสดงตัวขอรับผิดชอบงานนี้เอง
“นายสนุกกับงานนี้สิท่า”
- รุ่นพี่นักข่าวคนสนิทถามแพคอีจิน
“ครับ ผมเลยอยากทำงานนี้ให้ดีครับ”
- แพคอีจินตอบกลับด้วยความมั่นใจ
หลังจากเลิกงาน แพคอีจินเดินกลับบ้านมาเจอนาฮีโดเดินออกจากร้านขายของชำพอดี
แต่นาฮีโดก็ยังหลบหน้าแพคอีจินอยู่ เธอรีบเดินออกจากร้านแล้วหนีไปด้วยความรวดเร็ว
แพคอีจินพยายามโทรหาแต่เธอก็ไม่รับสาย
วันต่อมานาฮีโดก็หนีแพคอีจินไม่พ้นจนได้
เมื่อแพคอีจินพาทีมงานมาถ่ายสารคดีถึงโรงยิม
แพคอีจินพาโกยูริมและนาฮีโดมานั่งคุยกันในห้องเพื่ออธิบายงานที่เขามาถ่ายทำ
“นายคงไม่ได้จะขอให้เราแกล้งสนิทกันใช่ไหม”
- นาฮีโดพูดกับแพคอีจินด้วยความหงุดหงิด
“ถึงทางสมาคมจะหวังแบบนั้น แต่ฉันไม่คิดจะทำแบบนั้นเด็ดขาด ถ้าไม่สนิท ฉันก็จะถ่ายตามที่ไม่สนิท”
- แพคอีจินกล่าว
หลังถ่ายทำเสร็จ นาฮีโดเปลี่ยนเสื้อผ้าเดินออกจากห้องมา เป็นจังหวะเดียวกับที่แพคอีจินเดินกลับเข้ามาที่โรงยิมพอดี
“แย่หน่อยนะ หลบหน้าฉันไม่ได้แล้ว”
- แพคอีจินกล่าวทักทายนาฮีโด
“เธอหลบหน้าฉัน ติดต่อก็ไม่ได้
ฉันต้องแบกไว้ทั้งที่ไม่รู้เหตุผลน่ะหรอ
เธอเคยนึกถึงความรู้สึกฉันบ้างไหม”
- แพคอีจินพูดกับนาฮีโดด้วยความอึดอัดใจ
“ถ้าอินจอลมีเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่นาย
ฉันคงไม่สารภาพแบบนั้นออกไปหรอก”
- นาฮีโดตอบกลับ
“เธอคิดว่าความสัมพันธ์ของเราคืออะไรกันแน่”
“เพราะนาย ช่วงนี้ฉันถึงได้เป็นแบบนี้ ฉันสบสนจะตายอยู่แล้ว”
- นาฮีโดตอบกลับด้วยท่าทีที่ดูอึดอัดใจ
“ฉันกลุ้มจนหัวจะระเบิดอยู่แล้ว นายจะหัวเราะทำไม”
- นาฮีโดพูดแล้วเอาหัวทิ่มเข้าไปที่กำแพงด้วยความสับสนและรู้สึกอาย
“โอเค ตั้งหน้าตั้งตากลุ้มต่อไปนะ ฉันเลิกกลุ้มแล้ว ถึงจะไม่เคยก็เถอะ”
- แพคอีจินได้แต่อมยิ้มและเอามือไปจับหัวนาฮีโด
แพคอีจินนเหมือนทั้งตลกและรู้สึกดีกับคำสารภาพที่นาฮีโดพูดความรู้สึกแปลกๆนั้นอย่างตรงไปตรงมากับเขา
แต่ดูเหมือนเธอยังไม่ค่อยเข้าใจว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร
จากนั้นแพคอีจินก็เดินถือกระเป๋าออกไป
และปล่อยให้นาฮีโดกลุ้มใจต่อไป
แพคอีจินมองนาฮีโดที่กำลังเอาหัวชนกำแพง
ที่โรงเรียน ในวันที่ผลคะแนนสอบกลางภาคออก
โกยูริมเดินมาดูที่บอร์ดประกาศพร้อมกับมุนจีอุง
โกยูริมอยู่ลำดับที่รองโหล่ ส่วนมุนจีอุงอยู่ที่โหล่
“ถ้าเธอได้ที่โหล่แล้วจะยังไงหรอ ทำไม อายหรอ”
- มุนจีอุงถามโกยูริม
“เอ่อ ก็นิดนึงมั้ง นายไม่อายหรอ”
- โกยูริมถามกลับด้วยความสงสัย
ฉันไม่ได้พยายาม ผลมันก็แน่นอนอยู่แล้ว
การคาดหวังให้ออกมาดีทั้งที่ไม่พยายาม
น่าอายกว่าอีกไม่ใช่หรอ
มุนจีอุงพูดกับโกยูริมด้วยความภูมิใจ
เมื่อโกยูริมกลับมาบ้าน เธอได้รับโทรศัพท์เป็นของขวัญจากแม่ แต่โกยูริมไม่อยากได้ของขวัญนี้ เพราะเธอรู้ดีว่าสถานะการเงินของครอบครัวตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก
นึกถึงความรู้สึกแม่ก่อนเรื่องเงินไม่ได้หรอ
แม่โกยูริมพูดด้วยสายตาที่รู้สึกผิดหวังเล็กๆเมื่อเห็นท่าทางโกยูริมไม่สบายใจที่จะรับของขวัญ
“ความรู้สึกมันปลดหนี้ไม่ได้นี่นา”
- โกยูริมตอบแม่ทั้งน้ำตา
ที่โกยูริมไม่อยากจะรับโทรศัพท์เพราะเธอแค่รู้สึกไม่อยากให้แม่สิ้นเปลืองเงินไปกับของมีค่าพวกนั้น แต่ในมุมคนเป็นแม่แค่อยากให้ลูกได้รับสิ่งดีๆ ได้รับการยอมรับในสังคมเท่านั้นเอง
อย่างน้อยสิ่งเดียวที่ลูกอย่างเราทำได้คือ
ยอมรับสิ่งของที่แม่ตั้งใจมอบให้ แสดงความรู้สึกดีใจ มีความสุขออกมาให้ท่านได้เห็นแบบไม่ต้องกังวลสิ่งใดบ้างก็ได้ เพราะอย่างน้อย แค่ท่านได้เห็นลูกมีความสุข ท่านก็มีความสุขไปด้วยแล้ว
ด้านแพคอีจิน อยู่ๆก็ได้รับโทรศัพท์ด่วนให้เตรียมพร้อมรายงานข่าว
หลังจากลงรถเมล์เขารีบวิ่งไปหาโทรศัพท์ทันที แต่ระหว่างทางเขาเจอนาฮีโดพอดี นาฮีโดจึงให้ไปใช้โทรศัพท์ในบ้าน แพคอีจินรีบเตรียมสคิปและรายงานข่าวอย่างราบรื่น
หลังจากวางสายโทรศัพท์
แพคอีจินหันไปถามนาฮีโดว่า
“ไปคิดมาหรือยัง เรื่องความสัมพันธ์ของเรา”
“มันไม่มีคำนิยาม คำที่ใช้อธิบายความสัมพันธ์ของเราได้ยังไม่มีอยู่บนโลกนี้เลย”
“แต่ลองมาคิดดู ความสัมพันธ์เราเป็นแบบไหน มีแค่เราที่รู้นี่นา เพราะงั้น เรามาลองนิยามกันเองก็ได้”
- นาฮีโดตอบพร้อมกับท่าทางครุ่นคิดต่อ
“อย่างเช่น อยากให้เป็นโทรศัพท์ แก้วน้ำ กรรไกร หรือไม่ก็คือก้อนเมฆ สายรุ้ง
เรานิยามเองก็ได้นี่นา”
“ฉันชอบรุ้งนะ” - แพคอีจินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“โธ่ ฉันชอบกรรไกรนะ”
- นาฮีโดหัวเราะชอบใจพร้อมกับหยิบกรรไกรขึ้นมา
“เธอคือคนที่ทำให้ฉันลุกขึ้นได้ในหลายๆครั้งนะ รับผิดชอบด้วย”
- แพคอีจินพูดพร้อมกับมองหน้านาฮีโด
“ฉันต้องกลับแล้ว ขอบคุณสำหรับวันนี้นะ”
แพคอีจินสะพายกระเป๋ากำลังจะเดินออกจากบ้าน นาฮีโดรีบคว้าแขนของเขาไว้
ทั้งสองคนสบตากัน
“สำหรับนายคืออะไร ไหนว่าไม่เคยกลุ้มเรื่องความสัมพันธ์ของเรา คำตอบนายคืออะไร”
- นาฮีโดมองหน้าแพคอีจินแล้วถามกลับด้วยความสงสัย
“ไม่ใช่รุ้งแล้วกัน”
- แพคอีจินตอบพร้อมกับจับข้อมือนาฮีโดออกจากแขนตน แล้วทั้งสองคนก็มองหน้ากัน
“นาฮีโด…” - แพคอีจินกำลังจะพูดต่อ
แต่อยู่ๆก็มีเสียงประตูบ้านเปิด
แพคอีจินหันกลับมาถึงกับตกใจ เมื่อพบว่า
คนที่เปิดประตูเข้ามาคือ รุ่นพี่นักข่าวของเขา
นาฮีโดที่อยู่หลังแพคอีจินจึงชะโงกหัวออกดูไปแล้วพูดว่า
“แม่!”
“แม่ หรอ” - แพคอีจินอุทานเสียงเบาๆพร้อมกับเอามือปิดหน้าด้วยความตกใจ
“เดี๋ยวนะ รุ่นพี่อาศัยอยู่ที่นี่…ไม่สิ เป็นคุณแม่ของนาฮีโดหรอครับ”
- แพคอีจินถามด้วยความสงสัย
“นายมาทำอะไรที่นี่”
- แม่นาฮีโดถามกลับด้วยความสงสัยเช่นกัน
“สรุปว่า คนที่ทำรูปปั้นในบ่อน้ำหักคือนายหรอ”
ทั้งสองคนจึงเล่าให้ฟังต่อว่า เพราะเหตุการณ์นั้นเลยทำให้เขาได้เจอกันและรู้จักกัน
“นายคบกับลูกสาวฉันหรอ”
“แม่!” - นาฮีโดอุทานด้วยความตกใจ
“ไม่ใช่ครับ เราไม่ได้คบกัน”
- แพคอีจินตอบกลับ
“แล้วเป็นอะไร”
“เป็นรุ้งไง” - นาฮีโดรีบตอบทันที
“ประเด็นของฉันก็คือ เพราะนายรู้จักกับนาฮีโด
รึป่าว เลยรีบแจ้นไปสนามบินเพื่อสัมภาษณ์
ผู้ตัดสิน”
- แม่นาฮีโดถามแดคอีจิน
“ไม่ใช่ครับ ต่อให้ไม่ใช่ฮีโด ผมก็คงทำแบบเดียวกันครับ”
- แพคอีจินตอบด้วยความมั่นใจ
“นักข่าวกับคนในข่าวไม่ควรใกล้ชิดกันแบบนี้
ถ้าไม่อยากเจ็บทั้งคู่และแตกคอกันก็สมัครแผนกอื่นซะ คิดว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นล่ะสิ เกิดแน่! ฉันพูดในฐานะนักข่าวรุ่นพี่นะ
ไม่ใช่ในฐานะแม่ฮีโด”
- แม่นาฮีโดกล่าวเตือนแพคอีจิน
และยังกำชับด้วยว่า ห้ามบอกใครที่เขาเป็นแม่ของนาฮีโด
“แม่ไม่มีอะไรบอกในฐานะแม่ของหนูเลยหรอ”
“สนิทกันต่อไปนะ”
- แม่นาฮีโดพูดพร้อมมองทั้งสองคน
วันต่อมา ขณะที่นาฮีโดเข้าห้องน้ำอยู่ในโรงเรียน เธอได้ยินเสียงคนนินทาโกยูริม เธอเดินเข้าไปหาแล้วบอกให้เพื่อนสองคนนั้นออกมา
นาฮีโดโกรธที่โกยูริมถูกว่าเสียๆหายๆ
ส่วนโกยูริมที่กำลังล้างมืออยู่ได้แต่ยืนมองนาฮีโดทะเลาะตบตีกับเพื่อนที่กำลังนินทาเธอ
ขณะนั้นมีเพื่อนคนหนึ่งจะเอาไม้ถูพื้นฟาดนาฮีโด โกยูริมจึงรีบเข้าไปห้ามทันที
หลังจากนั้นโกยูริมเดินตามนาฮีโดออกมาจากห้องน้ำ เธอร้องไห้ต่อหน้านาฮีโด และสารภาพว่า “ฉันคือ อินจอลมี”
โกยูริมพูดจบก็รีบเดินหันหลังไป
นาฮีโดตกใจนิ่งไปสักพัก
เธอรีบเดินตามไปพร้อมกับคว้าแขนโกยูริมไว้
และถามอีกครั้งว่า “เธอคืออินจอลมีจริงๆหรอ”
ทั้งสองคนปรับความเข้าใจกัน
และสิ่งเดียวที่นาฮีโดขอให้โกยูริมสัญญาคือ
“เรื่องโดดน้ำน่ะ อย่าทำอีกเลย มันอันตรายนะ สัญญามาสิว่าจะไม่ทำอีก”
- นาฮีโดพูดพร้อมกับยื่นมือให้โกยูริมสัญญา
โกยูริมเอามือมาปะกบกับนาฮีโดเพื่อเป็นการให้สัญญา ทั้งสองคนกล่าวขอโทษกันและกัน
และโผเข้ากอดกันทั้งน้ำตา
วันต่อมา แพคอีจินมาถ่ายสารคดีที่โรงยิมอีกครั้ง
โกยูริมและนาฮีโดมีท่าทีแปลกๆขณะถ่ายทำ
ดูเป็นห่วงเป็นใยกัน และแบ่งปันกันทุกอย่าง
ยิ้มหัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุข
แถมมีท่าทางยังกับคนมาเดตกันซะอย่างนั้น
จนแพคอีจินทนดูไม่ได้
เขาเดินเข้าไปถามทั้งสองคนขณะกินข้าวว่า
“พวกเธอทำอะไรกันอยู่เนี่ย”
“ทำไมหรอ” - นาฮีโดตอบกลับ
“ปกติเธอสองคนไม่เป็นแบบนี้นี่นา แสดงละครกันทำไม ฉันไม่ได้สั่งสักหน่อย”
- แพคอีจินพูดด้วยความหงุดหงิด
“เราไม่ได้แสดงละครนะ”
- โกยูริมรีบตอบกลับและมองนาฮีโดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เดี๋ยวก่อนนะ นี่เธอรู้ละหรอว่าอีกฝ่ายคือใคร”
- แพคอีจินถามด้วยความสงสัย
“ฉันรู้แล้วว่านายโกหกฉัน ซื้อกุหลาบเหลืองไปสัมภาษณ์ว่างั้น?”
- นาฮีโดตอบแพคอีจินพร้อมกับบอกว่า
"โกยูริมไม่ผิดซะหน่อย"
“ไม่นะ ฉันโดนสั่งมา” - แพคอีจินรีบแก้ตัวทันที
วันต่อมาแพคอีจินได้พานาฮีโดและโกยูริมมาถ่ายสารคดีต่อ
แต่รุ่นพี่โปรดิวเซอร์ได้ขอให้โกยูริมและนาฮีโดทำท่าเหมือนตอนที่แข่งกันรอบชิง
ขณะที่แพคอีจินกำลังตัดต่อวิดีโออยู่นั้น
ก็ได้รับโทรศัพท์ด่วนจึงรีบวิ่งมาที่โรงยิม
แพคอีจินเห็นนาฮีโดบาดเจ็บข้อเท้าพลิกจนต้องลงไปนั่งอยู่ที่พื้น เขาควบคุมอารมณ์ไม่ได้
เกิดการทะเลาะและตะคอกเสียงดังใส่รุ่นพี่โปรดิวเซอร์ด้วยความโมโห
จากนั้นแพคอีจินก็อุ้มนาฮีโดเดืนออกจากโรงยิมแล้วพาไปโรงพยาบาลทันที
ระหว่างทางแพคอีจินได้คุยกับนาฮีโดไปเรื่อยๆ
“ถ้าเธอเจ็บตัวขึ้นมาจริงๆ ฉันจะฆ่าไอ้หมอนั่นซะ”
- แพคอีจินพูดกับนาฮีโดด้วยความหงุดหงิด
ระหว่างทางนาฮีโดหันไปเห็นสายรุ้งขึ้นอยู่ที่สะพานพอดี เธอบอกให้แพคอีจินจอดรถ
และวิ่งลงไปดูรุ้งที่สะพาน
“ฉันลองคิดดูแล้ว ถ้าไม่ใช่เธอ ฉันคงไม่ไป แต่ถึงไม่ใช่เธอ ฉันก็ควรไป เพราะฉันเป็นนักข่าว”
“สุดท้ายแล้ว เธอก็ทำให้ฉัน เลือกทำสิ่งที่ถูกต้องในฐานะนักข่าว”
เธอชักนำฉันไปในทางที่ถูก นำไปในทางที่ดีเสมอเลย
แพคอีจินพูดพร้อมกับมองหน้านาฮีโดด้วยรอยยิ้ม
“จริงด้วย นายบอกว่า ความสัมพันธ์เราไม่ใช่รุ้งนี่นา นายยังไม่ตอบฉันเลยนะว่ามันคืออะไร
ถ้าไม่ใช่รุ้ง”
- นาฮีโดมองหน้าแพคอีจินแล้วถามด้วยความสงสัย
แพคอีจินเงียบไปเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ และเขาก็ตอบนาฮีโดกลับไปว่า
“ความรัก มันคือความรัก”
นาฮีโดมองหน้าแพคอีจินด้วยความตกใจ
แล้วแพคอีจินก็หันไปสบตาเธอพร้อมกับพูดอีกครั้งว่า
“ฉันรักเธอนะ นาฮีโด รุ้งน่ะ ไม่จำเป็นหรอก”
แพคอีจินมองนาฮีโดด้วยแววตาเปล่งประกายใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข
ทั้งสองคนยืนสบตากันท่ามกลางสายรุ้งตัวใหญ่ที่พาดผ่านสะพานข้ามแม่น้ำไปไกลสุดสายตา
เรื่องราวในตอนที่ 9 จบลงด้วยความสดใส
ความรัก ความห่วงใยของแพคอีจินและนาฮีโดกำลังงอกงามขึ้นเรื่อยๆ แพคอีจินเหมือนจะได้เจอคนที่ทำให้เขาได้พัฒนาตัวเองและชักนำเขาไปในทางที่ดีขึ้นเหมือนที่แม่เขาเคยพูดไว้แล้ว
แต่ในมุมกลับกัน เขาก็ต้องแบกรับความรู้สึกที่ใครๆต่างก็เตือนว่า ไม่ควรเอาตัวเองไปเข้าใกล้กับคนในข่าวมากนัก
แล้วแพคอีจินจะจัดการกับความสัมพันธ์นี้อย่างไรต่อไป ความรู้สึกที่ยากจะปฏิเสธกับหน้าที่ที่เขาต้องรับผิดชอบจะไปกันต่อได้ไหม
ก็ต้องมาลุ้นกันต่อในตอนต่อไปนะคะ
ซีรี่ย์เกาหลี
สปอยซีรี่ย์
รีวิวซีรีส์
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย