7 ก.ค. 2022 เวลา 00:55 • ความคิดเห็น
ที่เขารับน้องกัน เพราะเขาต้องการหล่อหลอมคนหลายๆประเภท รวมถึงคนแบบคุณด้วยให้เป็นหนึ่งเดียว โดยการจับมาอยู่ด้วยกัน สร้างความกดดัน ทํากิจกรรม ร้องเพลงเชียร์ร่วมกัน ทําให้เกิดความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะ เกิดสายสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง ความสัมพันธ์นี้จะเกิดไปจนถึงตอนคุณทํางานและมีผลเป็นอย่างยิ่ง ที่เขาเรียก connection ไงล่ะครับ
จริงอยู่ที่มีรุ่นพี่บางสถาบัน ไม่เข้าใจหลักการนี้ เอาแต่ความมันส์ ซาดิสต์ สนองแต่ตัณหาของตนเอง ใช้วิธีการข่มขู่ แต่เชื่อเถอะ ถ้าคุณไม่กวนโอ๊ยจนเกินไป คุณอยู่ได้สบายมาก นอกจากคุณจะเป็นคนไม่ชอบเข้าสังคม คุณจะได้เพื่อนหลากหลาย คุณจะลดอีโก้ในความเป็นลูกคุณหนูของคุณ คุณจะเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆเข้ามาโดยง่าย แต่ถ้ารุ่นพี่ใช้ความรุนแรงเกินขอบเขต ผิดวัตถุประสงค์การรับน้อง ก็แจ้งตำรวจมาจับได้เลย ข้อหาพยายามฆ่าหรือประจานทาง social media
หรืออะไรต่างๆก็ว่ากันไป สมัยนี้รับน้องแบบโหดๆไม่น่าจะมีแล้ว สื่อ social เขาเอามาประโคมข่าวรับรองไม่รอดแน่ๆ แต่ถ้าการรับน้องเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ อาจมีการว๊าก, การรัองเพลงเชียร์, การดุด่าว่ากล่าว มันเป็น acting อย่างหนึ่งของบทละครน่ะอย่าไปสนใจอะไรมากมาย รู้ไหมว่าเขาว๊ากเพราะอะไร? เขาว๊าก เพราะต้องการให้พวกคุณรวมหัวกัน สุมหัวกันตอนพัก เพื่อที่จะด่ารุ่นพี่หรือคิดหาวิธีการตอบโต้ ซึ่งไม่จะอย่างไรก็ตาม จะแก้แค้นคืนได้หรือไม่? ไม่ใช่ประเด็น
1
แต่ที่สำคัญพวกคุณได้รู้จักกันแล้ว ได้เกิดความรักความสามัคคีในกลุ่มพวกคุณแล้วโดยไม่มีคําว่าเอ็งจน เอ็งรวย เด็กเรียน เด็กเนิร์ด เด็กเวร เด็กดี เด็กอนามัย รองคิดดูว่า ถ้าไม่มีกิจกรรมอะไรแบบนี้ ต่างคนก็ต่างไปเรียน สายสัมพันธ์รุ่นพี่รุ่นน้องก็เริ่มห่าง ไม่รู้จักกัน ต่างคนต่างไม่สนใจกัน ดังนั้นต้องแยกแยะให้ออกและดูวัตถุประสงค์เป็นหลัก ไม่ใช่อะไรๆก็ปฏิเสธลูกเดียว
การไม่ยอมรับกฏกติกาอะไรบางอย่างที่ตัวเองไม่เห็นด้วยแต่ในสังคมเขายอมรับและใช้กันอยู่ ไม่ได้จะดูเท่ห์แต่ประการใด และหลังกิจกรรมเสร็จรุ่นพี่เขาก็ไม่ได้มาตามว๊ากคุณเมื่อไหร่ กลับจะรักกันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
1
โฆษณา