7 ก.ค. 2022 เวลา 05:47 • ไอที & แก็ดเจ็ต
งานไอทียุคน้ำมันแพง ยังพอมีตัวช่วย...
จากเหตุการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน รวมทั้งกลุ่มประเทศโอเปก ซึ่งส่งออกน้ำมันดิบ ได้ลดการกำลังผลิตน้ำมันลง ส่งผลให้ตอนนี้ราคาน้ำมันแพงมาก การเดินทางไปที่ไหน ๆ ก็จะมีต้นทุนที่สูงขึ้น การทำงานในปัจจุบันนี้ ทั้งองค์กรเอกชน หรือราชการ ที่มีสาขาต่างๆ ที่อาจจะต้องมีการเดินทางระหว่างกัน
ส่งผลให้การทำงานในพื้นที่ต่างๆ มีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น บางที่อาจต้องสำรองเงินตัวเองจ่ายค่าน้ำมันไปก่อน และดูเหมือนว่าช่วงนี้หลายๆองค์กรก็ต้องการลดค่าใช้จ่ายในส่วนการเดินทางให้ได้มากที่สุด แน่นอนว่าหลายๆ คน หลายๆ โครงการอาจทำงานได้ยากขึ้น
แต่สำหรับงานด้านไอทีแล้วเรายังพอที่จะเอาตัวรอดได้ เพราะเรามีอินเตอร์เน็ต เรามีโปรแกรมต่างๆสำหรับสื่อสารกันได้ และก็เช่นกัน เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้เราทำงานไอทีได้โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าพื้นที่เสมอไป
นอกจากนั้นแล้วเรายังมีโปรแกรมบริหารจัดการเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย มาเป็นเครื่องมือช่วยให้เราสามารถที่จะ monitor ดูสถานะเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ remote หรือสั่งการไปยังเครื่องเป้าหมายได้ เครื่องมือนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องมีหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษา หรือ คอยแก้ปัญหาของโปรแกรม หรือ เครื่องคอมพิวเตอร์ เพราะหลายๆ เรื่องสามารถทำสำเร็จได้โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปยังเป้าหมายเลยด้วยซ้ำ
ยกตัวอย่าง ปัจจุบันการทำงานของฝ่ายไอทีซับพอร์ทที่ต้องดูแลระบบไอทีขององค์กรต่างๆ ซึ่งอาจมีระบบสารสนเทศใช้งานอยู่หลายโปรแกรม ไม่ว่าจะเป็นทะเบียน ระบบสารสนเทศ ฯลฯ โปรแกรมเหล่านี้จะถูกใช้งานอยู่ที่สาขาย่อยเป็นส่วนใหญ่
เวลามีปัญหาแล้วไม่สามารถแก้ไขได้ ผู้รับผิดชอบก็จะต้องโทรประสานงานเข้ามายัง ส่วนกลาง แน่นอนว่าการคุยกันทางโทรศัพท์บางครั้งอาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีซับพอร์ทเดินทางไปก็มีต้นทุน น้ำมันก็แพง หรือจะให้ยกเครื่องมาก็ค่อนข้างลำบากในยุคนี้ ดังนั้นแล้วการใช้โปรแกรมบริหารจัดการเครื่องลูกข่าย โดยใช้การรีโมทไปแก้ปัญหาจึงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้ไปได้ในระดับหนึ่ง
การนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์นั้นสำคัญมากกับการแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบัน โดยเฉพาะการสรรหาสารพัดเครื่องมือด้านไอทีในการเชื่อมต่อกับลูกค้า และรักษาความเสถียร ลดต้นทุน รวมทั้งความสามารถในการให้บริการ
แต่จากการสำรวจพบว่า มีธุรกิจขนาดเล็กมากถึง 28 เปอร์เซ็นต์ในสหรัฐฯ ที่ไม่ได้จัดจ้างหรือใช้บริการไอทีซับพอร์ทแบบมืออาชีพ ซึ่งการพยายามแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์หรือเน็ตเวิร์คที่ซับซ้อนโดยขาดประสบการณ์ระดับมืออาชีพนั้นก็มักทำให้ปัญหาแย่ลงมากกว่าจะดีขึ้น
แต่ก็มีหลายบริษัทที่เลือกใช้ซอฟต์แวร์บริหารจัดการเครื่องลูกข่าย โดยรีโมทเพื่อให้บริการแก้ไขปัญหา เนื่องจากสะดวกและมีประโยชน์หลากหลาย ซึ่งถ้านำมาใช้อย่างเหมาะสมแล้ว ก็เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญด้าน ITสามารถเข้ามาแก้ปัญหา IT เบื้องต้นได้ด้วย ซึ่งประโยชน์จากการใช้บริการการซับพอร์ทแบบรีโมทจากระยะไกลมีอยู่ 6 ประการดังต่อไปนี้
1. เร่งความเร็วในการแก้ปัญหา
ปัญหาไอทีที่ร้ายแรงอย่างเน็ตล่มหรือคอมพิวเตอร์ติดไวรัสนั้นอาจทำให้ความสามารถในการทำรายได้ของบริษัทลดฮวบลงทันที ดังนั้นการแก้ไขปัญหาด้านไอทีเบื้องต้นอย่างเหมาะสมในเวลาอันรวดเร็วจึงสำคัญมาก โซลูชั่นรีโมทซับพอร์ตจึงเป็นทางเลือกที่ดีมากในการเร่งความเร็วของขั้นตอนการซ่อมบำรุง
โดยเฉพาะเมื่อพนักงานสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ซับพอร์ทด้านไอทีในสาย ก็จะสามารถร่วมกันวินิจฉัยปัญหาได้แทบจะทันที จากความสามารถในการดูหน้าจอคอมพิวเตอร์เหมือนกับมุมมองที่พนักงานหน้างานจริงทำงานอยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่ด้านไอทีสามารถหาวิธีแก้ปัญหาที่ครอบคลุมได้อย่างรวดเร็ว
2. ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังหน้างาน
ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่มองการลดต้นทุนเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ แล้วละก็ ถึงแม้การจัดจ้างเจ้าหน้าที่หรือบริษัทที่ให้การซับพอร์ทด้านไอทีจะมีค่าใช้จ่าย แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากเช่นกัน ช่องทางที่คุณสามารถลดค่าใช้จ่ายได้อย่างหนึ่งก็อาจจะเป็นการเลือกใช้โซลูชั่นซับพอร์ททางเทคนิคแบบรีโมท
ด้วยความสามารถในการเข้าถึงเครือข่ายและคอมพิวเตอร์ของบริษัทได้จากระยะไกล ทำให้เจ้าหน้าที่ด้านไอทีไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงหน้างานจริง ส่งผลให้สามารถบำรุงรักษาระบบให้ทำงานได้ต่อเนื่องร่วมกับการประหยัดต้นทุนได้ไปพร้อมกัน
3. ดึงระดับประสิทธิภาพในการทำงานกลับมาเป็นปกติได้
ซึ่งหนทางหนึ่งในการรักษาความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจก็คือการหาวิธีที่จะยกระดับความสามารถในการทำงานของตัวเอง ถ้าเกิดเครือข่ายหรือคอมพิวเตอร์ที่บริษัทใช้อยู่ทุกวันเกิดเสียขึ้นมา ก็ย่อมเป็นอุปสรรคในการทำงานขั้นร้ายแรงทั้งคุณและพนักงานของคุณด้วย
ดังนั้น แทนที่จะเลือกยอมเสียเงินและสร้างความไม่พอใจแก่ลูกค้าอันเนื่องมาจากความบกพร่องของระบบทางเทคโนโลยีแล้ว ก็ควรพิจารณาเลือกใช้บริการรีโมทซับพอร์ตมากกว่า ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับโซลูชั่นไอทีลักษณะนี้ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับความเสียหายที่เกิดจากระบบเน็ตเวิร์คล่ม เป็นต้น
4. ทำให้สามารถให้ความสำคัญกับการเติบโตของธุรกิจ
มากกว่าเสียเวลามานั่งแก้ไขปัญหาไอทีด้วยตัวเอง การสร้างธุรกิจขนาดเล็กด้วยตัวเองตั้งแต่แรกสุดไปจนถึงระดับที่ประสบความสำเร็จนั้นจะไม่ใช่งานที่ง่าย เจ้าของกิจการจำเป็นต้องทุ่มเทความสำคัญทั้งหมดไปกับการเติบโตและขยายธุรกิจ ดังนั้นการที่ต้องมานั่งคอยแก้ไขปัญหาไอทีบ่อยๆ ทุกๆ วัน ย่อมทำให้ไม่มีเวลาไปทำงานที่สำคัญกว่า
ดังนั้น การมองหาผู้ให้บริการด้านไอทีที่สามารถซับพอร์ทจากระยะไกลได้จึงมีความสำคัญมาก การฝากความรับผิดชอบของงานที่ซับซ้อนให้กับมืออาชีพที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนั้นจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจิปาถะที่อาจขัดขวางเป้าหมายใหญ่ขององค์กร
5. แผนการบำรุงรักษาเชิงรุกนั้นมีความสำคัญมาก
ด้วยความช่วยเหลือจากบริการซับพอร์ทด้านไอที อาจทำให้คุณสามารถพบปัญหาด้านเครือข่ายตั้งแต่ระยะเริ่มต้นก่อนลุกลามจนสร้างความเสียหายใหญ่หลวงได้
เช่น ถ้าพบว่าเครือข่ายตัวเองถูกเจาะระบบ ก็สามารถติดต่อฝ่ายรีโมทซับพอร์ตให้เข้ามาช่วยจัดการได้ทันที จนสามารถสกัดกั้นการโจมตีของแฮกเกอร์และปิดกั้นไม่ให้เข้าถึงเครือข่ายขององค์กรได้อีก ทำให้คุณสามารถรักษาความปลอดภัยทั้งตัวระบบเครือข่ายเองและข้อมูลสำคัญภายในไม่ให้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของอาชญากรไซเบอร์
6. การบริหารจัดการเครื่องอย่างเป็นระบบ
ถ้าเราสามารถเห็นภาพรวม และสถานะของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราดูแลทั้งหมด เราก็จะสามารถบริหารจัดการเครื่องได้ง่าย และเป็นระบบมากขึ้น ทั้งในเรื่องซ่อมเครื่องที่มีปัญหา การกำหนดกฎต่างๆในการใช้เครื่อง วางแผนการการทำงาน หรือจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์, อะไหล่ และซอฟต์แวร์ต่างๆได้อย่างเหมาสม
ที่มา www.enterpriseitpro.net
อานเพิ่มเติมได้ที่ www.kodefix.com/it-in-expensive-oil
Website : www.kodefix.com
=========================
ให้คำปรึกษา แจ้งซ่อม ผ่าน Line OA ได้ที่ : @kodefixth
หรือคลิก : https://lin.ee/68GuhTJ
=========================
โฆษณา