[ลงทุนเกิร์ล] รู้จัก แบรนด์ถ้วยชามราคาแพง ประจำชาติเดนมาร์ก ที่ผลิตในไทย “คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด” เป็นสำนวนที่หมายถึง เด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ในทางตรงกันข้าม เกาหลีใต้กลับมีอีกสำนวน นั่นก็คือ “ช้อนดิน

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

11 ก.ค. 2022 เวลา 03:30 • ธุรกิจ

รู้จัก แบรนด์ถ้วยชามราคาแพง ประจำชาติเดนมาร์ก ที่ผลิตในไทย

“คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด” เป็นสำนวนที่หมายถึง เด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ในทางตรงกันข้าม เกาหลีใต้กลับมีอีกสำนวน นั่นก็คือ “ช้อนดิน” ที่หมายถึงคนจน ที่มีชีวิตลำบากที่สุดในสังคม

ซึ่งคนเกาหลีใต้อาจจะไม่เคยเห็น ช้อนกระเบื้องเคลือบ ที่มีราคาสูงถึง คันละ 1,000 บาท

โดยเจ้าของช้อนราคาหลักพันบาทนี้ ก็คือ Royal Copenhagen

แบรนด์ถ้วยชามเก่าแก่ จากเดนมาร์ก ที่เรียกได้ว่าเป็นสินค้าขึ้นชื่อของที่นั่น

และยังถือเป็นแบรนด์ถ้วยชาม ที่มีราคาสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกด้วย

ที่น่าสนใจ คือ หนึ่งในฐานการผลิตสินค้าที่เป็นเหมือนแบรนด์ประจำชาติของเดนมาร์ก กลับอยู่ที่ประเทศไทย

เรื่องราวของแบรนด์นี้ เป็นมาอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

Royal Copenhagen ก่อตั้งขึ้นในปี 1775

พอบวกลบตัวเลขแล้ว ก็คือเป็นแบรนด์ที่มีอายุ ถึง 247 ปี เลยทีเดียว

เดิมมีชื่อว่า Royal Porcelain Factory และถือเป็นผู้ผลิตถ้วยชามกระเบื้องพอร์ซเลน รายแรกในเดนมาร์ก

โดย “พอร์ซเลน” คือกระเบื้องเซรามิกสีขาว ซึ่งปัจจุบันจุดนี้ ก็ยังคงเป็นภาพจำของแบรนด์ ที่เป็นถ้วยชามกระเบื้องพื้นสีขาว และแต่งแต้มด้วยลายเส้นสีน้ำเงิน

จนหากมองผ่าน ๆ ก็แทบไม่แตกต่างจากเครื่องเคลือบลายครามของจีนเลย

เพียงแต่ลวดลาย จะมีความเป็นเอกลักษณ์ของทางฝั่งตะวันตกมากกว่า

ซึ่งจริง ๆ แล้ว ลวดลายบนคอลเลกชันแรก ของ Royal Copenhagen ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแพตเทิร์นลายดอกเบญจมาศของจีนเช่นกัน

นอกจากนั้น คำว่า “Royal” ก็ไม่ใช่แค่ประดับอยู่ในชื่อให้ดูหรูหราเท่านั้น

เพราะความเป็นมาของแบรนด์ ยังเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ไม่น้อย

เริ่มตั้งแต่การก่อตั้งโรงงานในปี 1775 ก็ได้สมเด็จพระราชินีนาถจูเลียนา มาเรีย แห่งเดนมาร์ก เป็นผู้สนับสนุน รวมถึงโลโกมงกุฎเหนือคลื่นน้ำ 3 คลื่น ที่ประทับอยู่บนสินค้าทุกชิ้น ก็เป็นความต้องการของพระองค์เช่นกัน

หรือในกรณีของหนึ่งในคอลเลกชัน ที่โด่งดังที่สุดของ Royal Copenhagen ซึ่งก็คือคอลเลกชัน Flora Danica

โดยเป็นชุดถ้วยชามเพนต์ลายดอกไม้หลากสีสัน จากสารานุกรมพันธุ์พืช Flora Danica รวมทั้งหมด 1,802 ชิ้น ที่ถูกสั่งทำขึ้นเพื่อเป็นของขวัญแด่จักรพรรดินีนาถแคทเธอรีนที่ 2 แห่งรัสเซีย ซึ่งก็น่าเสียดาย ที่พระองค์สิ้นพระชนม์ไปเสียก่อนที่จะผลิตเสร็จ

ส่วนปัจจุบันถ้วยชามชุดนั้น ถูกเก็บอยู่ที่พระราชวังโรเซนเบิร์ก และยังถูกนำมาใช้ในโอกาสสำคัญของราชวงศ์อยู่

ซึ่งหากใครต้องการจะเป็นเจ้าของ ก็มีการนำกลับมาผลิต และจำหน่ายบางส่วนเช่นกัน

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงพอจะเห็นภาพแล้ว ว่าทำไมช้อน 1 คันของ Royal Copenhagen ถึงสามารถตั้งราคาได้ถึง 1,000 บาท ซึ่งถ้าเป็นจานข้าวก็อาจมีราคาสูงถึงเกือบ 8,000 บาทเลยทีเดียว

และอย่าเห็นว่าเป็นแค่ลายเส้นสีน้ำเงินธรรมดาแบบนี้ แล้วคิดว่าใครจะมาทำก็ได้

เพราะปัจจุบันลวดลายเหล่านี้ ก็ยังใช้มือวาดอยู่ ดังนั้น แม้จะเป็นลายแพตเทิร์นคล้าย ๆ กัน แต่สินค้าแต่ละชิ้นก็จะแฝงไปด้วยเอกลักษณ์ของช่างฝีมือผู้เพนต์อยู่

ที่สำคัญ ช่างเพนต์ของ Royal Copenhagen เหล่านี้ ยังต้องใช้เวลาถึง 4 ปี ในการฝึกฝนฝีแปรงอีกด้วย

โดยปัจจุบัน แบรนด์มีแหล่งการผลิต 2 แห่ง คือเดนมาร์ก และไทย

แล้วสงสัยหรือไม่ ว่าทำไมแบรนด์ที่แสดงถึงความเป็นชาติเดนมาร์ก ถึงเลือกจะมาผลิตที่ไทย ?

เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 2003 โดย Royal Copenhagen ได้ร่วมมือกับแบรนด์เครื่องเคลือบดินเผาชั้นสูงของไทยอย่าง Patra Porcelain

ก่อนจะเช่าห้องเพื่อให้ช่างฝีมือจากเดนมาร์ก มาทดลองฝึกสอนนักศึกษาไทยประมาณ 10 คน พอเห็นว่าผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าพอใจ Royal Copenhagen จึงตัดสินใจเปิดโรงงานที่จังหวัดสระบุรี ในปีถัดมา

โดยในปี 2012 ฐานการผลิตที่ไทย มีช่างฝีมือมากถึง 330 คนเลยทีเดียว มากกว่าที่เดนมาร์ก ที่มีพนักงานประมาณ 200 คน

ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ของ Royal Copenhagen ก็ผลิตที่ไทยเช่นกัน โดยจะมีเพียงรูปแบบที่ยากที่สุดเท่านั้น ถึงจะผลิตที่เดนมาร์ก

แล้วถ้าถามว่าคุณภาพของสินค้า ได้มาตรฐานเดียวกันหรือไม่ ?

สำหรับเรื่องนี้ ลูกค้าสามารถสบายใจได้เลย เพราะอุปกรณ์ทุกอย่างที่จำเป็น ก็ถูกนำเข้าแทบทั้งหมด เช่น แปรงเพนต์จากเดนมาร์ก หรือเตาจากเยอรมนี

นอกจากนั้น ด้านคุณภาพของสินค้าก็เช่นกัน ที่จะมีการตรวจสอบทุกขั้นตอน

เริ่มจากการส่งต้นแบบมาจากเดนมาร์ก จากนั้นฝั่งไทยจะต้องส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ก่อนเคลือบ กลับไปให้ตรวจสอบเป็นขั้นแรก เมื่อผ่านขั้นแรก จึงส่งแบบเคลือบไปอีกรอบ ก่อนจะค่อยเป็นแบบสมบูรณ์ที่ตกแต่งเสร็จแล้ว

ซึ่งทางเดนมาร์กจะต้องอนุมัติทุกขั้นตอนเสียก่อน ทางไทยถึงจะดำเนินการผลิตได้อย่างเต็มรูปแบบ

ปัจจุบัน สินค้าของ Royal Copenhagen ถูกส่งไปทั่วทุกมุมโลก

แถมยังมักกลายเป็นของใช้ ที่ถูกส่งต่อเป็นมรดกของครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นอีกด้วย

ซึ่งหากมองในอีกแง่หนึ่ง ก็อาจเรียกได้ว่า ฝีมือของคนไทย ได้กลายเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลกแล้ว เพียงแต่อยู่ภายใต้ชื่อ Royal Copenhagen ที่เป็นแบรนด์ของเดนมาร์ก เท่านั้นเอง..

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน