13 ก.ค. 2022 เวลา 03:00 • หนังสือ
💟 ถึงแม้เราจะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้เราเป็นเหยื่อ
แต่ถ้าเราไม่อยากเป็นเหยื่อ เราย่อมมีทางดิ้นรนออกมาจากสถานการณ์นั้นจนได้ !
💙 ทุกคนรู้จักเปาบุ้นจิ้นในฐานะเทพแห่งความยุติธรรม และได้รู้จักเรื่องราวของเปาบุ้นจิ้นในสมัยที่เป็นเจ้าเมืองไคฟงที่คอยดูแลทุกข์สุขของประชานชน และตัดสินคดีความต่าง ๆ อย่างตรงไปตรงมา กล้าต่อสู้เพื่อคนที่เดือดร้อน โดยไม่เกรงกลัวต่ออำนาจใด ๆ ทั้งสิ้น ทำให้เป็นที่รักนับถือ และเป็นที่พึ่งของประชาชนที่ถูดกดขี่ข่มเหงเป็นอย่างมาก จนกลายมาเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้
.
.
.
แต่มีใครรู้มั๊ยว่า ก่อนที่เปาบุ้นจิ้นจะกลายมาเป็นที่พึ่งของประชาชนได้นั้น เค้าเคยไม่ได้รับความยุติธรรมมาก่อนหลายรอบจนเคยคิดว่าไม่อยากมีชีวิตต่อไปด้วยซ้ำ
.
.
.
📖 จริง ๆ แล้วเปาบุ้นจิ้นเป็นลูกของชาวนาผู้ร่ำรวย แต่ว่าเกิดมาตัวดำ หน้าตาอัปลักษณ์ ทำให้พ่อแม่เชื่อว่าเป็น “เด็กปีศาจ” มาเกิดและเอาไปทิ้งตั้งแต่เกิดมาเลย แต่ว่าพี่สะใภ้สงสาร เลยพาเปาบุ้นจิ้นมาเลี้ยงตั้งแต่เกิด โดยที่พ่อแม่ที่แท้จริงของเปาบุ้นจิ้นไม่เคยมาเหลียวแลใด ๆ เลย
เปาบุ้นจิ้นเป็นเด็กรักการเรียนแต่เด็ก แต่ไม่มีเงินไปเรียน เลยตั้งใจทำงานเก็บเงิน แต่ก็โชคร้ายโดยขโมยเอาเงินที่เก็บมาไปหมด พี่สะใภ้สงสาร จึงกลับไปหาพ่อแม่เพื่อขอเงินมาส่งเสีย แต่พ่อแม่ไม่ยอมให้ พร้อมบอกว่า “ข้าทิ้งมันไปแล้ว มันเป็นเด็กปีศาจ ถ้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยจะทำให้ตระกูลเสื่อมเสีย” และไม่ยอมให้เงินช่วยแม้แต่บาทเดียว
เปาบุ้นจิ้นได้ยินเข้า จึงได้รับรู้ว่า ตัวเองถูกพ่อแม่แท้ ๆ ทิ้งไปเพียงเพราะเกิดมาตัวดำ
👉 เค้าตั้งคำถามว่าเพียงถ้าเค้าเกิดมาตัวขาว เค้าก็จะได้รับความรักจากพ่อแม่ และได้เรียนหนังสือแล้วใช่มั๊ย ?
👉 เค้าไม่ได้อยากเกิดมาเป็นแบบนี้ซักหน่อย ทำไมต้องเจอแบบนี้ด้วย
👉 และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่เค้าได้เข้าใจความหมายของคำว่า “ยุติธรรม”
ขณะที่เปาบุ้นจิ้นกำลังเศร้าโศกเสียใจ ตัดพ้อกับความยุติธรรมที่ตัวเองไม่ได้รับอยู่นั้น พี่สะใภ้ก็ถีบเค้าตกน้ำ (เรียกสติ ๆ ) แล้วบอกว่า ถ้าอยากได้ความยุติธรรมนัก ก็สร้างเองสิ !!!!
💙 หลังจากนั้นเค้าก็เริ่มศึกษาหาความรู้ทั้งจากอาจารย์ และหาความรู้เองจนไปสอบเป็นขุนนางได้ด้วยคะแนนสูงสุด
🖤 แต่ทางเดินอันขรุขระของเปาบุ้นจิ้นยังไม่จบ เพราะทันทีที่เข้าไปรับตำแหน่งและฮ่องเต้เห็นหน้า ก็สั่งให้ถอดตำแหน่งออก โดยให้เห็นผลว่า “ข้าไม่เคยมีข้าราชการตัวดำ อัปลักษณ์ในแผ่นดินของข้า”
ตอนนั้นเปาบุ้นจิ้นถึงขั้นเสียศูนย์ และสัมผัสได้ถึงความไม่ยุติธรรมอย่างรุนแรง
👉 เค้าตั้งคำถามอีกครั้งว่า ความเพียรพยายามในการอ่านหนังสือ ไม่มีประโยชน์อะไรหรอ
👉 ที่สุดแล้ว คนก็ตัดสินกันจากเพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้นใช่มั๊ย ?
ในขณะที่กำลังหมดอาลัยตายอยาก ก็โชคดีที่ได้เจอกับใต้เท้าเห้งตัน (ขุนนางชั้นผู้ใหญ่คนนึง) ที่รับฟังความทุกข์ของเปาบุ้นจิ้น และมองเห็นคุณค่าในตัวเค้า รวมทั้งไปช่วยคุยกับฮ่องเต้จนฮ่องเต้ยอมให้เปาบุ้นจิ้นได้กลับเข้าไปเป็นข้าราชการจนได้
วันที่เปาบุ้นจิ้นรับตำแหน่ง ก็ได้ไปขอบคุณใต้เท้าเห้งตันที่ให้โอกาสเค้า และได้รับคำอวยพรจากใต้เท้าว่า
“เจ้ามีสิ่งหนึ่งที่ขุนนางคนอื่นไม่มี คือ ความรู้สึกที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ความเจ็บปวด ความทุกข์ ความเศร้า และความโหยหาต่อความยุติธรรมมาตลอด … ขอให้จดจำความรู้สึกเหล่านี้ไว้ แล้วเป็นที่พึ่งให้ประชาชนเหล่านั้นนะ”
แล้วหลังจากนั้น เปาบุ้นจิ้นก็ทำงานด้วยความซื่อตรง ยุติธรรม และเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนจำนวนมากได้จริง ๆ
.
.
.
💙 เรื่องที่เปาบุ้นจิ้นเจอในวัยเด็ก คงไม่ใช่เรื่องที่เด็กคนนึงจะทำใจได้ง่าย ๆ
▶ ตอนนั้นเค้าเจอพ่อแม่เล่นบทเป็นผู้ลงทัณฑ์ ที่ตำหนิเปาบุ้นจิ้นว่าเป็น เด็กปีศาจ
▶ ถ้าเค้าตัดพ้อต่อความไม่ยุติธรรมของพ่อแม่ ก็อาจจะก้มหน้าก้มตาเศร้าโศกในโชคชะตาของตัวเองต่อไป
▶ โชคดีที่พี่สะใภ้ ไม่เล่นบทผู้ช่วยเหลือ ไม่ใช่เอาแต่ปลอบใจ แต่เรียกสติให้เปาบุ้นจิ้นมากำหนดชีวิตตัวเอง ทำให้เปาบุ้นจิ้นหลุดออกมาจากวงจรดราม่าได้
ถ้าเรื่องนี้ไม่มีใครออกจากวงจรดราม่า ก็ไมรู้เหมือนกันว่าเราจะรู้จักท่านเปาในนามเทพเจ้าแห่งความยุติธรรมรึเปล่า ???
.
.
.
💙 อยากให้เรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจให้คนที่กำลังเจออุปสรรคนะ
▶ ปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามา ถือเป็นผู้ลงทัณฑ์ในรูปแบบหนึ่ง
▶ ตอนนี้ก็อยู่ที่เราแล้วล่ะ ว่าเราจะเลือกตอบสนองกับผู้ลงทัณฑ์นั้นยังไง
อย่าลืมนะว่าชีวิตเป็นของเรา ไม่มีใครลิขิตชีวิตเราได้มากเท่ากับที่เราอยากลิขิตชีวิตตัวเองหรอก 🥰🥰🥰🥰
#FindLifeSkills #FindSelfAwareness #FindSelfEsteem
#FindFlowFromBook
เครดิต :
หนังสือ : เปาบุ้นจิ้น เทพตุลาการแห่งความยุติธรรม
สนพ. EQ Plus

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา