"วิธีคบผู้เกื้อหนุน ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า หนึ่งชีวานี้จะคบทุกคนนั้นมิได้"
…..
ในบางสถานการณ์ไม่มีมิตรแท้แลศัตรูถาวร บางครั้งศัตรูของศัตรูย่อมคือมิตร อุปมาดั่งดาบสองคมซึ่งคุณมิควรจับตรงใบมีดแต่คุณสามารถเลือกจับที่ด้ามดาบ นำมาปกป้องและใช้งานได้ มิดีกว่าหรือ เพราะ
“คนฉลาดย่อมได้ประโยชน์จากศัตรูของตน มากกว่าประโยชน์ที่คนโง่ได้รับจากมิตรของเขา” .
ตามจิตวิทยาของคาร์ล กุสตราฟ จุงนั้นเวลาที่มนุษย์มองไปที่สิ่งๆใด ภายใต้จังหวะเสี้ยววินาทีนั่นคือ เกื้อหนุน เป็นผลดี หรือว่า กีดขวาง เป็นผลเสียก็เท่านั้น หากว่าเป็นเคสแรกผู้คนก็เข้าหา และหากว่าเป็นเคสที่สองดังว่า
ไม่หลีกหนีก็ต้องฝ่าด่าน
และหนึ่งชีวิตนี้มนุษย์ย่อมมีดีและชั่วปนๆกันไป บางโอกาส บางสถานที่เราหลีกเลี่ยงผู้คนรอบข้างไม่ได้
แต่เราสามารถเลือกได้ที่จะใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดไปกับใครบ้างให้คุ้มค่ามากที่สุด
“ถึงแม้ว่าอ้วนเสี้ยวจะมีกำลังพลมหาศาลมากกว่าท่านถึงสิบส่วน หากแต่ท่านก็มีข้อดีมากกว่าอ้วนเสี้ยวถึงสิบส่วนเช่นกัน” กุยแกเสนอต่อโจโฉ และยังกล่าวต่ออีกว่า
1.อ้วนเสี้ยวมากพิธีตรีตรอง เจ้ายศเจ้าอย่าง ส่วนท่านนั้นไม่ถือเนื้อถือตัว ถืออย่างคนธรรมดาสามัญทั่วไป
2.อ้วนเสี้ยวเป็นคนชอบขัดคอคนและโอหัง ส่วนท่านนั้นประนีประนอม รู้จิตรู้ใจคน
3.อ้วนเสี้ยวนั้น นับตั้งแต่ยุคโกลาหล เมื่อครั้งฮ่องเต้เลนเต้เป็นต้นมาก็มิได้ทำงานเอาธุระ ปล่อยบ้านเมืองตามยถากรรม ส่วนท่านโจโฉนั้นทำงานจริงจัง เด็ดขาด ทำให้งานเดินอยู่เสมอๆ
4.อ้วนเสี้ยวนั้นมาดผู้ดี ตีสองหน้า จะทำอะไรก็เห็นแต่พวกพ้องตนเท่านั้น ส่วนท่านโจโฉนั้นสบายๆดูง่ายๆ รู้จักใช้คนดีมีความสามารถ มิได้ถือการเล่นพรรคเล่นพวก
5.อ้วนเสี้ยวมากด้วยแผนการหากแต่ไร้การตัดสินใจที่ทันท่วงที ส่วนท่านโจโฉนั้นรู้แจ้งแทงตลอดและตัดสินใจเด็ดขาดและถูกต้อง
6.อ้วนเสี้ยวนั้นชอบแต่คนดี มีชื่อเสียงในวงสังคม ส่วนท่านโจโฉนั้นใครดีก็สนับสนุน ไม่เห็นแก่ชื่อเสียง ใช้คนตามความสามารถ
7.อ้วนเสี้ยวเลี้ยงแต่คนใกล้ชิด ใครอยู่ห่างก็ปันใจหนี ส่วนท่านโจโฉเลี้ยงคนที่ความสามารถ ใกล้-ไกลปันใจให้เสมอกัน
8.อ้วนเสี้ยวชอบฟังแต่คำยุแยงตะแครงรั่ว เชื่อผิดๆทำผิดๆ ส่วนท่านโจโฉนั้นใครจะพูดอะไรสักแค่ไหน ท่านก็เป็นตัวของตัวเอง ไตร่ตรองด้วยเหตุผลของตนเอง
9.อ้วนเสี้ยวมักเห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นผิดเป็นถูกเสมอๆ ถูกผิดดมั่วไปหมด ส่วนท่านโจโฉนั้นทำตามกฎระเบีบข้อบังคับอย่างเคร่งครัดจึงปกครองคนได้ดี
10.อ้วนเสี้ยวมิได้รู้แจ้งในพิชัยสงครามและการปกครอง ส่วนท่านโจโฉนั้นรู้แจ้งแทงตลอดในพิชัยสงครามและประวัติศาสตร์ มักจะเอาชนะอีกฝ่ายที่มีกำลังมากกว่าได้เสมอ
ด้วยเหตุนี้ ข้อดี-ข้อดี ระหว่างท่านโจโฉและอ้วนเสี้ยว มาดผู้ดีตีสองหน้าแห่งยุค ,ท่านโจโฉสามารถเอาชนะได้ไม่เห็นยากเย็นแต่ประการใด”
และต่อมาโจโฉก็เอาชนะอ้วนเสี้ยวได้จริงๆ
“ใครคือคนที่คุณควรใช้เวลาด้วย”
กฎแห่งแรงดึงดูด ที่บอกว่าเราจะเป็นคนเช่นไรคือค่าเฉลี่ย 5 คนที่เราคบ ประเด็นนี้น่าสนใจ
น่าสนใจ 1 อยู่ในหมู่คนคิดบวก ใฝ่รู้ มองไกล มีวิสัยทัศน์ 5คน ,คุณก็จะเป็นคนที่6
น่าสนใจ 2 อยู่ในหมู่คนคิดลบ เอาแต่นินทา เปรียบเทียบตนกับผู้อื่นตลอดเวลา ไร้วิสัยทัศน์ 5คน ,คุณก็จะเป็นคนที่6
…..
อยู่กับใครก็มักจะเป็นคนแบบนั้น เพราะซึมซับความคิด ความรู้สึก พลังงานบวก-ลบมาจากคนๆนั้น
มงคลชีวิต38 ประการ ข้อ1และ2 กล่าวคือ เลี่ยงคนพาล-คบบัณฑิต
หากแต่ในชีวิตจริงถ้าหากเลี่ยงไม่ได้ ก็คงต้องหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง ที่มีจากคนๆนั้น เพราะคนเราไม่สามารถคบกันได้ทุกเรื่อง และไม่แน่ว่า ศัตรูในวันนี้อาจจะเป็นมิตรที่ดีในวันหน้าก็ได้
…..
“คนฉลาดย่อมได้ประโยชน์จากศัตรูของตนมากกว่าประโยชน์ที่คนโง่ได้รับจากมิตรของเขา”
1.โจโฉได้ตัวซุนฮกและกุยแกมาใช้งาน ทั้งๆที่ซุนฮกนั้นเคยทำงานกับอ้วนเสี้ยวศัตรูของโจโฉ ณ เวลานั้นมาก่อน
แน่นอนว่า ซุนฮกและกุยแกก็ย่อมต้องเลือกคนที่จะมาทำงานด้วย เห็นคุณค่าในสิ่งที่ตนมีอยู่ และคนที่เขาเห็นว่าคนๆนั้นก็คือ โจโฉ นั่นเอง
ทั้งๆที่ในยุคนั้น อ้วนเสี้ยวคือปัญญาชนมาดผู้ดี เชื้อสายตระกูลขุนนางผู้ใหญ่ระดับเสนาบดีมาถึง4ชั่วอายุคนบรรดาบัณฑิต ขุนพล ต่างไปเข้าด้วยอ้วนเสี้ยวเป็นจำนวนมาก
ต่างจากโจโฉ ที่เป็นลูกหลานของขันที บรรดาบัณฑิตล้วนแต่รังเกียจ
คือเอาตรงๆ ในเวลานั้น อ้วนเสี้ยวบดบังรัศมีโจโฉมิด
ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ฉันใด คนเราเมื่อได้ทำงานใกล้ๆกันธาตุแท้ของคนก็ออกฉันนั้น
เมื่อซุนฮกและกุยแกสัมผัสได้ว่า อ้วนเสี้ยวดีแค่เปลือก หากแต่แก่นแท้ล้วนแต่กลวง จึงตัดสินใจหนีไปอยู่กับโจโฉทันที
และต่อมาก็เป็นซุนฮก นี่แหละที่เป็นกองกลังมือฉมังช่วยดูแลและวางแผนให้โจโฉตั้งตัวจนหยิบปลาชิ้นมันท่ามกลางความโกลาหลมาได้ ต่อมาโจโฉก็ชนะศึกใหญ่กับอ้วนเสี้ยวอีก
และต่อมาก็เป็นกุยแก นี่แหละที่ช่วยโจโฉคิดกลยุทธ์ต่างๆ จนโจโฉรบชนะอีกฝ่ายทั้งๆที่มีกำลังน้อยกว่าถึงสิบเท่าตัว
2. ซุนกวน ขึ้นมารับตำแหน่งปกครองกังตั๋งตั้งแต่ อายุ 18ปี แน่นอนว่าเด็กวัย18ปี คือวัยรุ่นไฟแรง
หากแต่เขาเลือกที่จะอยู่รอบตัวผู้มากความรู้อย่างเตียวเจียวและโลซก ทำให้เขาซึบซับความคิดความอ่าน ราวกับว่าเป็นคนละคน
ถ้าเทียบซุนกวน ตอนอายุ18ปี กับโจโฉอายุ18ปี ถือว่าในวัยเดียวกันซุนกวนมีพัฒนาการกว่าเยอะ
โจโฉในวัย18ปี ยังเป็นวัยรุ่นเที่ยวเล่น ดื่มสุราเคล้านารีกับอ้วนเสียวและเตียวเมา เกลอรักอยู่เลย
ต่อมาเมื่อซุนกวนได้มาปะทะกับโจโฉในวัยชรา ที่ศึกเมืองหัปป๋า โจโฉยังถึงขั้นหลุดปากว่า
“ถ้ามีลูกชายต้องมีให้ได้แบบซุนกวน”
3.เด็กปั้นสุมาอี้
ในช่วงปลายสามก๊ก ผู้ที่ซึบซัมวิชาต่างๆจากสุมาอี้ มีทั้ง สุมาสู,สุมาเจียว,เตงงาย,จงโฮย ซึ่งบุคคลพวกนี้ต่างเป็นตัวพลิกเกมของฝั่งเว่ยก๊กทั้งสิ้น
4.เด็กปั้นของขงเบ้ง
เกียงอุย นั้นเคยอยู่ฝั่งเว่ยก๊กมาก่อนเมื่อครั้งทำศึกกับสุมาอี้
เมื่อขงเบ้งยกทัพเข้าตีเมืองเทียนซุย ได้มาเจอกับเกียงอุย ขุนพลวัยหนุ่มก็รู้ทันทีว่าไอ้เด็กนี่มันมีของ
หากแต่ฝ่ายเว่ยก๊ก น้อยคนนักที่จะรู้ความสามารถของเกียงอุยจริงๆ
ขงเบ้งจึงได้วางแผนดึงตัว เกียงอุยมาใช้งาน
และต่อมาเกียงอุยนี่แหละคือ ทายาทผู้สืบทอดของขงเบ้ง ค้ำจุจบัลลังค์ของฮ่องเต้เล่าเสี้ยนต่ออีกถึง29ปีหลังสิ้นขงเบ้งอย่างสุดความสามารถ
คบคนเช่นไร ก็มักจะเป็นคนเช่นนั้น
คบคนพาลมักพาไปหาผิด คบบัณฑิตมักพาไปหาผล
1.ฮ่องเต้เลนเต้ คบพวกแก๊งค์สิบขันที ถูกปิดหูปิดตา ไม่สนใจความเป็นอยู่ของประชาชนและบ้านเมือง สุดท้ายจึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดยุคสามก๊ก
2.ฮ่องเต้เล่าเสี้ยน ก็คบขันทีฮุยโฮ พากันแต่เล่นปั่นจิ๊งหรีด ดื่มสุรา เข้าแต่หอล่อกามา ไม่สนใจบ้านเมือง สุดท้ายแผ่นดินที่เล่าปี่บรรจงลำบากสร้างขึ้นมาก็ล่มสลาย
บทสรุป
1. “คนฉลาดย่อมได้ประโยชน์จากศัตรูของตนมากกว่าประโยชน์ที่คนโง่ได้รับจากมิตรของเขา”
เช่น
-ขงเบ้งที่ได้ตัวเกียงอุย มาใช้งานทั้งๆที่เกียงอุยเคยทำงานให้ฝ่ายศัตรูมาก่อน
-ซุนฮกและกุยแกที่รู้จักเลือกคนไปทำงานด้วยและคนๆนั้นก็คือโจโฉ ทั้งๆที่ซุนฮกและกุยแกเคยทำงานให้อ้วนเสี้ยวมาก่อน
2. “ความสามารถในการแก้ปัญหาและการตัดสินใจที่ดี คือตัวชี้วัดศักยภาพความเป็นผู้นำ”
-อ้วนเสี้ยว มาดผู้ดีตีสองหน้า แม่ว่าคนรอบๆตัวจะมีมากว่าโจโฉและอุดมไปด้วยสติปัญญา ขุนพลมากฝีมือ
หากแต่อ้วนเสี้ยวก็ยังแพ้โจโฉ
อ้วนเสี้ยวนี่แหละคือผู้ที่สื่อให้เห็นความจริงที่ว่า
“ผู้นำโง่เราจะตายกันหมด”
3.กฎแห่งแรงดึงดูดยังใช้ได้จริงเสมอ โลกนี้มีคนนับล้านล้านคน ทุกคนที่ได้มาเจอกันล้วนแต่มีวาสนาต่อกัน(ไม่มีคำว่าบังเอิญ) หากแต่เวลาชีวิตและพลังงานคนเรามีจำกัด จะเลือกใช้พลังงานไปที่ใดต้องใช้ปัญญาพิจารณาแยกแยะให้ดี
นกเลือกไม้ทำรังฉันใด ชายเลือกนายก็ต้องดูน้ำใจฉันนั้น
ใครคือคนที่คุณควรใช้เวลาด้วย?
เครดิต..
หนุ่มหน้าหนากับม้าแปดตัว
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
