9 ก.ค. 2022 เวลา 05:34 • ธุรกิจ
Endowment policy (กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์) คือ ประกันภัยประเภทหนึ่งที่ผู้รับประกันภัย (insurer/insuror) ตกลงว่าจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้เอาประกันภัย (the insured) หรือผู้รับประโยชน์ (beneficiary) เมื่อผู้เอาประกันภัยถึงแก่กรรมภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือมีชีวิตอยู่จนพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์โดยมีเบี้ยประกันภัย (premium) ที่ผู้เอาประกันภัยส่งให้เป็นค่าตอบแทน
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เป็น 'ประกันชีวิต' (life insurance) ประเภทหนึ่งเพราะอาศัย ‘ความทรงชีพ’ หรือ ‘ความมรณะ’ ของผู้เอาประกันภัยเป็นเงื่อนไขในการจ่ายเงิน ดังนั้น ภัย (risk) ที่ผู้รับประกันรับเสี่ยงจึงได้แก่ ‘ชีวิต’ ของผู้เอาประกันภัยนั่นเอง
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เป็นประกันชีวิตที่มีเงื่อนไขดีพอสมควรเพราะมีเงื่อนไขว่าผู้รับประกันภัยจะจ่ายเงินจำนวนแน่นอนให้แม้ผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่ถึงหรือไม่ถึงเวลาที่กำหนดในสัญญาก็ตาม ต่างกับประกันชีวิตประเภทอื่นที่หากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่ไม่ถึงเวลาที่กำหนดหรือไม่ตายภายในเวลาที่กำหนด ผู้รับประกันภัยก็จะไม่จ่ายเงินให้และไม่คืนเบี้ยประกันให้ด้วย
ขณะทำสัญญาประกันชีวิต ผู้เอาประกันภัยมีหน้าที่สำคัญคือต้อง ‘บอกความจริง’ (disclosure) เกี่ยวกับ ‘สุขภาพ’ และ ‘อายุ’ ของผู้เอาประกันภัยให้ผู้รับประกันชีวิตทราบเพราะข้อมูลเหล่านี้มีผลต่อการกำหนดเบี้ยประกันภัยมาก
หากฝ่าฝืนไม่บอกความจริงเรื่อง ‘สุขภาพ’ หรือ ‘เรื่องอื่น’ ที่เกี่ยวกับการประกันชีวิตจนผู้รับประกันชีวิตเสียหาย กฎหมายกำหนดว่าผู้รับประกันชีวิตมีสิทธิ ‘บอกล้าง’ สัญญาประกันชีวิตได้ ผลก็คือผู้เอาประกันภัยไม่มีสิทธิได้รับเงินประกันชีวิตตามที่ตกลงกันไว้และไม่มีสิทธิได้รับเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไปแล้วคืน แต่มีสิทธิได้รับเพียง ‘ค่าไถ่ถอนกรมธรรม์ประกันภัย’ ซึ่งน้อยกว่าค่าเบี้ยประกันภัยที่จ่ายให้แก่ผู้รับประกันชีวิตไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากบอกคลาดเคลื่อนเฉพาะข้อมูลเรื่อง ‘อายุ’ เท่านั้น กฎหมายกำหนดผลไว้ 2 ทาง คือ
1) หากแกล้งบอกว่าอายุยังน้อยเพื่อหวังจะจ่ายเบี้ยประกันในราคาต่ำ ผู้รับประกันชีวิตมีสิทธิ ‘ลดเงิน’ ที่จะจ่ายให้ตามกรมธรรม์ลงได้ตามสัดส่วน (แต่เป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติเพราะผู้รับประกันชีวิตจะดูอายุจากบัตรประชาชนของผู้เอาประกันภัยอยู่แล้ว)
2) แต่ถ้าบอกอายุจริงผิดไปจนผู้รับประกันชีวิตไม่สามารถรับประกันชีวิตให้ได้เพราะถ้ารู้ว่าอายุเท่านี้แล้วคงไม่เข้าทำสัญญาด้วย ผู้รับประกันชีวิตมีสิทธิ ‘บอกล้าง’ สัญญาได้ ส่งผลให้ผู้รับประกันภัยไม่ต้องจ่ายเงินตามสัญญาประกันชีวิตและต้องคืนเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไปแล้วให้ ‘ทั้งหมด’
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ตามข้อ 1) และ 2) ก็น่าจะเป็นไปได้ยากเช่นกันเพราะดูอายุจากเอกสารทางราชการได้อยู่แล้ว
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ
ขอบคุณครับ
ออกแบบปกและเขียนบทความโดย
พุทธพจน์ นนตรี
ทนายความและนักแปลเอกสารทางกฎหมาย
นิติ มธ., เนติบัณฑิตไทย, โนตารี
โฆษณา