9 ก.ค. 2022 เวลา 11:53 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
สวัสดีครับทุกท่านหลังจากที่ 7Block Metrology หายจากการเขียนคอนเทนต์มานานปี ครั้งนี้กลับมาใหม่อีกครั้งพร้อมเนื้อหาที่เป็นประโยชน์เพื่อให้ผู้อ่านได้รับความรู้อย่างเต็มที่ เริ่มจากเรื่องที่ผู้ใช้เครื่องมือวัดหลายคนต้องพบเจอนั้นคือการเปลี่ยนแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ที่ใช้ในเครื่องมือวัดทั่วไป เช่น เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์ ไฮเกจ หรือไดอัลอินดิเคเตอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นแบตเตอรี่แบบเม็ดกระดุมมีแรงดันไฟฟ้าอยู่ระหว่าง 1.5 V - 1.55 V ขึ้นอยู่กับประเภทของแบตเตอรี่นั้น
ผู้ผลิตส่วนใหญ่จะนิยมให้แบตเตอรี่ประเภท SR44 ซึ่งมีส่วนผสมของ Zinc และ Sliver Dioxide ทำให้แรงดันไฟฟ้าไฟฟ้าขณะใช้งานคงที่เกือบตลอดอายุการใช้งาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ราคาทั่วไปในท้องตลาดเริ่มต้นที่ 90-150 บาทต่อก้อน ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับแบตเตอรี่ทั่วไป
ดังนั้นผู้ใช้งานเครื่องมือวัดส่วนใหญ่จะเลือกมาใช้แบตเตอรี่ที่ราคาถูกกว่าทดแทน เช่น แบตเตอรี่ประเภท LR44 ซึ่งมีราคาเพียงแค่ 10-15 บาทต่อก้อน และหาได้ง่ายตามท้องตลาด โดยคุณสมบัติของแบตเตอรี่ LR44 จะมีส่วนผสมของ Zinc และ Manganese Dioxide ส่งผลให้ขณะใช้งานแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่จะลดลงเรื่อยๆ ตลอดอายุการใช้งาน ต่างจากแบตเตอรี่ประเภท SR44 ที่แรงดันไฟฟ้าจะคงที่ ดังนั้นเมื่อแรงดันไฟฟ้าลดต่ำลงมากๆ จะทำให้เครื่องมือวัดเปิดไม่ติดเหมือนแบตเตอรี่หมด แต่ถ้าทิ้งไว้สักพักก็จะเปิดติดและใช้งานได้ต่อ
นี้คืออีกสาเหตุที่เรามักจะเจอว่าทำไมเครื่องมือวัดของเรามักจะติดๆ ดับๆ ขณะใช้งานนั้นเอง และที่สำคัญแบตเตอรี่ประเภท LR44 จะมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าด้วย ส่งผลให้ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยครั้งมากกว่าปกติ
แบตเตอรี่ที่ใกล้หมดจะมีสัญญาณแจ้งเตือนบนหน้าจอของเครื่องมือวัดโดยปกติอยู่แล้ว เช่น สัญลักษณ์ B หรือ ขึ้นคำว่า Low Batery ดังนั้นผู้ใช้งานควรรีบเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยทันที ไม่ควรรอให้พลังงานจากแบตเตอรี่หมดจนเปิดเครื่องไม่ติด เพราะการใช้เครื่องมือวัดในขณะที่แบตเตอรี่อ่อนหรือใกล้จะหมด จะส่งผลให้ค่าความแม่น (Accuracy) ของเครื่องมือวัดคลาดเคลื่อนทำให้ผลการวัดผิดพลาดได้ ดังนั้นหมั่นดูแลรักษาและใส่ใจกับเครื่องมือที่เราใช้กันนะครับ
โฆษณา