ยุตธิธรรมกับ คน แต่ไม่ยุติธรรมกับ ต้นไม้ 🎋🎋
พออ่านข่าวเกี่ยวกับจอกหูหนูยักษ์วัชพืชนำ้ที่กำลังแพร่ระบาดเอาไม่อยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ต่อมเรื่องการอยู่กับธรรมชาติอย่างสงบสุข ก็ผุดขึ้นมาในหัวของยายชมทันที
ภาพจอกหูหนู ในสวน ชมอินทรีย์ ที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย และเป็นแหล่งอาหารชั้นเลิศของลูกหอยเชอรี่สีทอง
เมื่อเดือนที่แล้ว ยายชมเอง มีโอกาสไปนั่งฟังการบรรยายที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดเลย ช่วงพักเที่ยงไม่อาจทานข้าวเที่ยงรวมกับคนอื่น เพราะในห้องอบรมเปิดแอร์เย็นรู้สึกระคายคอ จึงขอตัวตักกับข้าวออกมากินที่ระเบียงหน้าก้องอบรม
เปิดหน้ากาก ค่อยๆกินข้าวไป สายตาก็ไปสะดุดพืชสีเขียว ลอยเต็มหน้าบ่อน้ำ 🍃🍃เลยชะเง้อก้มไปดูใกล้ๆ
อ้าว!!นี่มันจอกหนูที่เรากำลังตามหาอยู่นี่
กลับมาที่กิจกรรมในสวนของเรา เราเลี้ยงหอย เลี้ยงหนอนแมลงวันลายเพื่อกำจัดขยะเปียกอยู่แล้ว และอาหารหลักของหอยเชอรรี่สีทองคือ แหน จอก ผักตบชวา และพืชน้ำอื่นๆ
จอกหูหนู 5กก ปล่อยทิ้งไว้ในบ่อ ประมาณ1เดือน ขยายในวงกว้าง ครอบคลุมเนื้อที่เพิ่มขึ้นเป็น10เท่าตัว
ตอนนี้ กำลังเน้นเพาะขยายเลี้ยงหอยเชอรี่เพื่อไว้เป็นอาหารของครอบครัว และ เตรียมเสบียงไว้อีกไม่กี่เดือน จะเข้าฤดูหนาว เพื่อนๆคงได้มีโอกาสเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวเย็นที่เชียงคานกัน
อาหารของหอยเชอรี่ที่ชื่นชอบก็จะเป็นจำพวก พืชน้ำ เช่นผักบุ้งผักตบชวา จอกแหน เฟิร์นน้ำ หรือผักที่เรากินกัน หอยเชอรี่เค้าก็ชอบนัก
ช่วงแรกๆ เลี้ยงแหนแดงไว้ 4บ่อ แต่ไม่นาน แหนแดงก็ร่อยหรอลงขยายไม่ทันและไม่พอใช้ในสวนเพราะใช้เป็นอาหารเป็ดไก่ ปลา ด้วยไง
นั่นเพคาะแหนแดงมีคุณค่าทางอาหารให้บำรุงพืชแบะสัตว์สูงมาก
ที่พาดหัวไว้ ความยุติธรรมมันเกี่ยวกับจอก แหน ต้นไม้ หรือ หอยเชอรี่อย่างไร
เกี่ยวกันสิ ก็เพราะ พืชน้ำจำพวกจอกแหน ผักตบชวาที่ว่านี้ มีกฎหมายมาควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดมากเกินไปจนส่งผลเสียกับระบบนิเวศน์ เช่น มีการห้ามนำเข้าจากต่างประเทศ หากฝ่าฝืนก็มีความผิดอ่ะ
เห็นมั้ยว่า กฎหมายเขียนเพื่อกำจัดเสรีภาพของสิ่งชีวิตเล็กๆไว้ จนทำให้ทุกคนกลัว และ ต้นไม้บางชนิดนั้นถูกมองว่าเป็น ขยะ อันน่ารังเกียจ😟
ประการสำคัญ มัน กลายเป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินของคนเรา เช่นธุรกิจการท่องเที่ยว
มันยุติธรรมแล้วหรือ ?
ทำไมเราไม่มาสนับสนุนให้ทุกอย่างเกื้อกูลกัน อยู่ด้วยกันอย่างลงตัว ต่างฝ่ายต่างให้ประโยชน์ต่อกันแบบวิน วิน
ยายชมใช้วิธีเลี้ยงหอยเพื่อกำจัดพืชน้ำเหล่านั้น ถึงแม้ต้องใช้เวลานานหน่อย ค่อยๆทำไปช้าๆ ดีกว่าใช้สารเคมีกำจัด ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อ มนุษย์เอง ทั้งในมิติของ สิ่งแวดล้อม และด้านสุขภาพ
จอกหูหนูใช้เชี้ยงอนุบาลหอยเชอรรี่สีทอง
✍️ปกติจอกหูหนูจะมีรากที่ดกและยาวมากๆ แต่เมื่อเราปล่อยให้ลูกอ่อนของหอยเชอรี่มาเกาะ อาศัยอยู่ ไม่กี่วัน รากขอจอกหูหนูจะหดสั้นลง เพราะโดนลูกหอยดูดกินน้ำเลี้ยง 🐚และในเวลาไม่นาน จอกหูหนูที่พับซ้อนกันอยู่ก็จะค่อยๆ แตก กระจาย ไม่รวมตัวเพราะรากสั้นและน้อยลง จนท้ายที่สุดใบของจอกหูหนูก็จะเป็นอาหารของหอยเชอรี่สีทองจนเกลี้ยงบ่อ🤢🍃
จอกกุหลาบโดนหอยเชอรี่รุ่นใหญ่แทะกินอย่างอร่อย
🐌นี่เป็นภาพหอยเชอรี่สีทองที่กำลังรุมกินรากและใบของจอกกุหลาบ 🌹🌹🌹
สภาพของจอกกุหลาบที่เคยงามและโตเร็วเมื่อเจอกับหอยเชอรี่เท่านั้นแหล่ะ หายวับ
🐌ไม่เชื่อคุณลองเลี้ยงหอยเชอรี่ไว้เป็นตัวกำจัดตะไคร่น้ำในตู้ปลา หรือจะเลี้ยงไว้เป็นอาหารของเราเองก็อร่อยเหาะ เพราะว่า หอยเชอรี่สีทอง มีรสชาติคล้ายปลาหมึก บางคนเรียก เป๋าฮื้อน้ำจืด
หลังเลิกงานเราก็เก็บหรือตักแหนแดง จอกกุหลาบ ให้หอยเชอรี่สีทองกินวันละ1กกต่อ หอยเชอรี่ 1พันตัว🐌🐌🐌
ตื่นเช้าก่อนไปทำงานลุกขึ้นมา คุณจะไม่ได้พบกับ จอกหรือแหนชุดนั่นอีกเลย แต่มันไปอยู่ในท้องของหอยเชอรรี่หมดแล้นนน🤢🤢🤢
ลองนำจอกหูหนูยักษ์มาเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง คงดีไม่น้อย น่าจะได้ผลไม่แตกต่างกัน คือกำจัดพืชน้ำเหล่านั้นด้วยหอยเชอรี่ได้ แต่อาจต้องใช้เวลานานหน่อย
หรือไม่ก็ปล่อยจอกหูหนูยักษ์ไว้อย่างนั้นแล้ว ลอกขึ้นมาจากบ่อและนำมาทำเป็นปุ๋ยบำรุงดินคล้ายผักตบชวาที่เราเคยกำจัดกัน
ยายชมรับรองว่า คน กับธรรมชาติ อยู่กันแบบวินวิน
ธรรมมะ ก็ ยุติ ด้วยประการฉะน
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
