ในขณะที่แฟนบอลพากันบอกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบันมีขุมกำลังที่ห่วยแตกที่สุดในประวัติศาสตร์
ราล์ฟ รังนิค เคยบอกว่าถ้าจะให้ทีมกลับมาดีได้ต้องมีการเสริมนักเตะใหม่เป็นสิบคน และเคยบอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ตามหลัง ลิเวอร์พูล อยู่ถึง 6 ปี...
แต่ เอริค เทน ฮาก บอกว่า "คุณต้องไม่ลืมว่าในฤดูกาลก่อนหน้านั้น ทีมชุดนี้คือรองแชมป์พรีเมียร์ลีก และมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่" ซึ่งก่อนหน้านั้นอีก 1 ซีซั่น ทีมเดียวกันนี้แหละ ชุดที่นักเตะขี้เหร่กว่านี้ซะอีก ก็ยังดีพอที่จะทำอันดับไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้
กุนซือชาวดัตช์ไม่ได้มาเพื่อโยนขี้ให้ใคร หรือบอกว่าทีมที่เขาเข้ามารับเผือกร้อนสู้ใครไม่ได้ เขาเข้ามาพร้อมทัศนคติที่ว่าทุกคนที่ยังอยู่ คุณต้องทำหน้าที่เพื่อแฟนบอลให้เต็มที่ที่สุดให้เห็นซะก่อน
"ถ้าหากพวกเรารู้จักแก้ไขปรับปรุง ถ้าหากพวกเราสามารถทำงานร่วมกับพวกเขาได้ พวกเราจะสามารถคว้าผลการแข่งขันที่ดีขึ้นได้"
ในขณะที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กำลังถูกด้อยค่าว่าเป็นกองหลังสุดกระจอก ไม่สมควรอย่างยิ่งกับการสวมเครื่องแบบปีศาจแดง
แต่ เทน ฮาก พูดถึงนักเตะที่เคยได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของทุกสโมสรที่เขาเคยอยู่ทั้ง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, ฮัลล์ ซิตี้ และ เลสเตอร์ แถมเคยติดทีมยอดเยี่ยมของยูโร 2020 ว่า "ฤดูกาลหน้ามันจะเป็นฤดูกาลที่แตกต่างออกไป แต่เขาเคยทำผลงานที่ยอดเยี่ยมมาก่อน"
แต่ในขณะเดียวกัน ถึงแม้เขาจะพูดออกสื่อปกป้องลูกทีมโดยไม่ยอมให้โดนบุคคลภายนอกมาพิพากษา ไม่ยอมให้ใครมาเหยียดหยามลูกน้องของตัวเองที่เพิ่งจะรู้จักกันไม่นาน แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะเข้มงวดกับนักเตะของเขาในทุกๆ รายละเอียด ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์แรกๆ ที่เข้ามาซ้อม
จากข่าวที่ออกมา เขาวางกฎระเบียบมากมายเพื่อเปลี่ยนทีมที่เน้นโซเชียลให้โฟกัสที่ผลงานในสนาม เพิ่มเซสชั่นการซ้อมให้มากขึ้น, หนักขึ้น, สั่งให้นักเตะมาซ้อมให้เช้าขึ้น และกระตุ้นความกระตือรือร้นของผู้เล่นแทบทุกนาทีที่แคร์ริงตัน สังเกตได้จากคลิปที่สโมสรปล่อยออกมา มันชัดเจนว่าพวกนักเตะดูจะมีไฟมากกว่าช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
ถ้าคุณติดตาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ตลอด คุณอาจจะสัมผัสได้เหมือนผมว่า เอริค เทน ฮาก คือคนที่ทำให้แฟนบอลมีความหวังใหม่ ที่ได้เห็นโค้ชที่มีความฮึกเหิม ไฟแรง และพยายามใส่ใจกับนักเตะมากที่สุดซะที เท่าที่สโมสรเคยแต่งตั้งใครให้มาคุมทีมหลังพ้นยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ก่อนหน้านี้อาจจะเคยมีโค้ชมากประสบการณ์จอมปรัชญา, โค้ชจอมวางแท็กติกที่พูดจาขวานผ่าซาก, โค้ชใจดีที่พยายามใช้ไม้อ่อนกับลูกทีมเพื่อโฟกัสไปกับการเล่นฟุตบอลให้สนุก และโค้ชที่มีความรู้เชิงทฤษฎีฟุตบอลเต็มไปหมด แต่สอนใครโดยตรงไม่ค่อยเป็น
แต่เราแทบไม่เคยเห็นเฮดโค้ชคนไหนเลยที่จะเข้าไปติวเข้มนักเตะแบบตัวต่อตัว ละเอียดขนาดต้องมากำชับว่าการจ่ายบอลจังหวะนั้นจังหวะนี้ควรส่งด้วยเท้าข้างไหน และไปในทิศทางไหน แต่พอเลิกการฝึกซ้อม เขาเปลี่ยนโหมดด้วยการเข้าหาลูกทีมเพื่อให้เกิดความรู้สึกสบายใจว่า "มึงน้องกู" ให้เห็นตลอด
เราได้เห็นแล้วว่าเขาได้ใจคนที่ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มากขนาดไหน แม้นั่นจะเป็นทีมจากลีกเนเธอร์แลนด์ที่หลายคนไม่ค่อยเชื่อมั่นในมาตรฐาน แต่ผลงานของอาแจ็กซ์ในยุคของเขา มันดูใกล้เคียงกับการกลับมาเป็นทีมชั้นนำของยุโรปมากที่สุดแล้วในรอบทศวรรษ ส่วนผลงานในประเทศก็เหนือชั้นกว่าทุกทีมในเอเรดิวิชี่
เทน ฮาก พูดถึงการมาทัวร์ปรีซีซั่นครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในฐานะผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่า "ผมคาดหวังมาตรฐานระดับที่สูงที่สุดเสมอ"
"คุณต้องคาดหวังความเต็มที่ และแน่นอนว่ามันมีช่องโหว่ที่ต้องปรับปรุงอยู่ตลอดเพราะเราอยู่ในช่วงปรีซีซั่น และเราก็รู้เรื่องนั้นกัน"
"แต่เราจะเล่นให้ดีที่สุด และเรียกร้องสิ่งที่เต็มที่ที่สุดจากทีมและจากนักเตะในทุกๆ วัน ทุกๆ การฝึกซ้อม และทุกๆ นัด"
จริงอยู่ เขาอาจจะเพิ่งเข้ามาเป็นนายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้ไม่นาน
แต่ถ้าหากผมเป็นนักฟุตบอลและเจอเจ้านายแบบ เอริค เทน ฮาก ผมจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างในการทำงานไม่ให้บอสอย่างเขาผิดหวัง
#เสียบสามเหลี่ยม #เทนฮาก #เอริคเทนฮาก #ปีศาจแดง #ผีแดง #แมนยู #แมนฯยูไนเต็ด #แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
