12 ก.ค. 2022 เวลา 04:09 • สิ่งแวดล้อม
ปักษากลับมาแล้วจ้า นกแก้วมาคอว์สปิกซ์บินกลับเข้าป่าบราซิลแล้ว หลังหายตัวไป 20 ปี
เป็นเวลากว่า 20 ปีที่นกแก้วสปิกซ์มาคอว์ (Spix’s Macaw) ตัวสุดท้ายถูกพบเห็นในป่า และองค์กรบางแห่งก็ประกาศว่าพวกมันสูญพันธุ์และหายออกไปจากถิ่นป่าเดิมอย่างบราซิลตลอดกาล เรื่องราวของมันถูกเลือนหายไปตามกาลเวลา
จนเราได้รู้จักพวกมันมากยิ่งขึ้นจากภาพยนต์แอนิเมชัน Rio (2011) การผจญภัยของ บลู นกมาคอว์เพศผู้ตัวสุดท้ายของบราซิลที่ต้องเผชิญกับการค้าสัตว์ผิดกฎหมายและมลพิษหลายด้านจากมนุษย์ เพื่อที่จะได้พบกับ จีเวล (Jewel) นกมาคอว์ตัวเมียสายพันธุ์เดียวกันตัวสุดท้าย เรื่องนี้สะท้อนให้เราได้เห็นว่ามาอคว์ถูกคุกคามอย่างไร แม้ตอนจบจะดูดีมีความสุข แต่ในเรื่องความเป็นจริงกลับไม่เป็นอย่างนั้น
การค้นพบมาคอว์สปิกซ์ (Spix's Macaw)
นกมาคอว์ Spix ได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่นักชีววิทยาชาวเยอรมัน Johann Baptist Ritter von Spix ผู้รวบรวมตัวอย่างชนิดพันธุ์นกครั้งแรกในปี 1819
ในขณะนั้นพวกมันถูกขนานนามว่าเป็นนกที่หายากและความสวยงามที่มาพร้อมความลึกลับ แน่นอนการบรรยายเช่นนี้นำไปสู่ผู้คลั่งไคล้นก ผู้คนที่ได้ยลโฉมของพวกมันนั้นจะกลายเป็นช่วงนาทีทองทันที แม้ว่าพวกมันจะพบตัวยากในธรรมชาติก็ตาม แน่นอน พวกมันก็เริ่มกลายเป็นเหยื่อมากขึ้นในศตวรรษที่ 19 ในขณะที่การทำฟาร์มแผ่ขยายไปทั่วอเมริกใต้ บ้านเกิดของนกแก้ว
ทันทีที่จำนวนของพวกมันลดลงอย่างรวดเร็ว มันส่งผลร้ายมากกว่าเดิม แทนที่จะมีการอนุรักษ์เพิ่มขึ้น แต่ยิ่งใกล้สูญพันธุ์นักสะสมยิ่งต้องการพวกมันมากขึ้นเท่านั้น นักชีววิทยา ทอม ไวท์ (Tom White) จาก US Fish and Wildlife Service และที่ปรึกษาด้านเทคนิคของโครงการกู้ภัยกล่าวว่า “พวกมันกลายเป็นของหายากและด้วยเหตุนี้บุคคลที่ไร้ยางอายจึงตัดสินใจที่จะพยายามนำบางส่วนที่เหลืออยู่ในป่าไปเป็นคอลเลกชันส่วนตัวของตัวเอง”
ย้อนไปยังเรื่องราวชีวิตของมาคอว์ตัวสุดท้าย
จากการตรวจดีเอ็นเอในขนที่ลอกคราบไว้ของมาคอว์ตัวสุดท้าย ปี 1990 นักวิจัยในสหราชอาณาจักรยืนยันว่า นกป่าตัวสุดท้ายเป็นเพศผู้และเป็นเพียงตัวเดียวที่พบ มันอาศัยอยู่ในป่าใกล้กับเมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยฝุ่นควันทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล
ในขณะนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่า มีนกน้อยกว่า 30 ตัวถูกเก็บไว้ในสวนสัตว์ทั่วโลก และมีการตัดสินใจที่จะปล่อยตัวเมียเพียงตัวเดียวด้วยความหวังว่านกจะจับคู่กันและให้กำเนิดลูกหลาน ตัวมียได้รับการปล่อยตัวใกล้ๆกับที่ตัวผู้อาศัยอยู่ และดูเหมือนเป็นสัญญาณที่ดีที่พวกมันสามารถปรับตัวเข้าหากันได้
นกมาคอว์ตัวเมียปรับตัวอย่างรวดเร็ว กินอาหารจากป่าและหลีกเลี่ยงการโจมตีของเหยี่ยม เธอแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน บินได้ไกลขึ้น และหลังจากนั้นเพียง 2 เดือน เธอก็จับคู่กับตัวผู้ แต่ 2 สัปดาห์ให้หลังเธอก็หายตัวไปอย่างลึกลับ และไม่กี่ปีต่อมามาคอว์ตัวผู้ก็หายตัวไปเช่นกัน
หลายปีต่อมา ชายในท้องที่กล่าวว่า เขาพบนกตัวนั้นตายอยู่ที่ใต้สายไฟ ซึ่งถ้านั่นเป็นเรื่องจริง ก็ถือว่านี่เป็นเรื่องนี่เลวร้ายอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งนักอนุรักษ์ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่านกแก้วจะชนกับสายไฟ หรือในความเป็นจริงเธออาจจะถูกลักลอบจากกลุ่มล่าสัตว์ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้
ดู Rio (2011) ได้ใน Disney+ Hotstar
แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งในความกังวลใจของนักอนุรักษ์ พวกเขาเชื่อว่าการคุกคามของพวกมันมันยังมีอยู่ รวมไปถึงความปลอดภัยของพื้นที่ที่ยังคงมลพิษบางอย่างเอาไว้ จึงเกรงว่าพวกมันอาจจะหายตัวไปได้ทุกเมื่อ
ภารกิจกู้ชีพมาคอว์
ภารกิจนี้ได้ทำการเพาะพันธุ์พวกมันขึ้นมาอีกครั้งจากความพยายามตั้งแต่ปี 2016 ที่อ้างอิงการเพาะพันธุ์จากนกมาคอว์ตัวสุดท้าย จนนำไปสู่ความสำเร็จที่ขยายพันธุ์ของพวกมันได้ โดยต่อมาในปี 2018 มิเชล เทเมอร์ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของบราซิล ได้ลงนามในพระราชกฤษฎีกาที่จัดตั้งศูนย์พักพิงสัตว์ป่ามาคอว์ในรัฐบาเฮียทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ขณะที่โครงการเพาะพันธุ์จะใช้นกแก้วจากของสะสมส่วนตัวได้จัดตั้งขึ้นตามศูนย์ต่างๆ ทั่วโลก โดยผู้ดูแลหลักของโครงการนี้คือ องค์กรในเยอรมนีที่ชื่อว่า Association for the Conservation of Threatened Parrotsฃ
ก่อนหน้านี้มันถูกเพาะเลี้ยงที่เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี และได้ปล่อยบางตัวที่แข็งแรงสู่ป่าบราซิลเมื่อเดือนที่ผ่านมา และพวกมันยังมีชีวิตรอด
ในความเป็นจริงนกมาคอว์ไม่ได้หายไปไหนเลย เพียงแค่ถูกกระจายจำนวนเล็ก ๆ ไปยังกรงของสวนสัตว์ในหลาย ๆ แห่งทั่วโลก แต่ที่หายสาบสูญไปนั้นเป็นนกตามธรรมชาติที่อาศัยในป่าบราซิลตัวสุดท้ายที่หายไป และเราไม่ได้เห็นพวกมันอีกเลย
โฆษณา