Facebook inc. ที่เปลี่ยนชื่อเป็น Meta ปัจจุบันเป็น social media ที่มีผู้ใช้งานเกือบ 3 พันล้านบัญชี มากเป็นอันดับ 1 ของโลก มีประชากรพอปับประเทศจีนรวมกับประเทศอินเดียและพ่วงประเทศไทยกับเสียดนามเข้าไปด้วย (จีน 1,450, อินเดีย 1,408, ไทย 70.1 และเวียดนาม 99.1 ล้านคน ที่มา Worldometer.info)
เป็นข่าวที่สะเทือนวงการ Social Media มาก โดยทางผู้บริหารระดับสูงของ Meta Inc. ออกมายอมรับว่ารายได้น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก
ส่งผลที่เดิมเคยจ้างวิศวกรมากกว่า 10,000 คน ต้องลดการจ้างลงถึง 40% เหลือประมาณ 6,000 คนเท่านั้น ซึ่งวิศวกรเหล่านี้มีหน้าที่หลักในการดูแลระบบของบริษัทในเครือ Meta Inc.
Credit: techgameworld.com
Mark Zuckerberg พี่ใหญ่สุดและผู้ก่อตั้งของ Meta.inc ยังได้ออกมาพูดว่า เขารู้สึกว่ามีพนักงานบางส่วนไม่สมควรอยู่ในบริษัทนี้อีกต่อไป ซึ่งมีจำนวนเยอะและมีมานานแล้ว
Mark Zuckerberg ก็ยังบอกต่ออีกว่า ในช่วงวิกฤตินี้หากพนักงานคนไหนไม่เต็มใจที่จะทำงาน ก็ให้รีบๆลาออกไปได้แล้ว (แร๊งงงง....................)
1
เรื่องแบบนี้ใครฟังแล้วก็รู้สึกไม่ดีต่อคำพูดของ Mark เลย โดยเฉพาะพนักงานในองค์กรของเขา หากคนๆนั้นเป็นส่วนเกินจริงๆก็ไม่น่าจะเป็นไรสักเท่าไหร่ แต่หากคนๆนั้นเป็นมันสมองหลักจะเกิดอะไรขึ้น เพราะคำพูดที่ออกมาก็ไม่ได้เฉพาะเจาะลงลงไปว่าเป็นใครกันบ้าง
Credit: https://nypost.com/
เรื่องนี้ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า Mark ไม่ได้มองพนักงานเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรหรือเป็นคนมาร่วมกันสร้างองค์กรที่เขาก่อตั้งขึ้นร่วมกัน แต่มองเป็นเบี้ยตัวหนึ่งที่ดูว่าหมดประโยชน์ก็หากทางขจัดทิ้งไปมากกว่า
1
อย่าได้แปลกใจเลยที่นโยบายใหม่ๆของ Meta ที่ทยอยออกมาเรื่อยๆ ล้วนแล้วแต่มาจากพื้นฐานการแสวงหาผลประโยน์ส่วนตนมากกว่าที่จะสร้างประโยชน์ให้ส่วนรวม เพราะการคิดอะไรการทำอะไร ผลการกระทำที่ออกมาล้วนออกมาจากวิธีคิดทั้งสิ้น
นักวิเคราะห์ได้กล่าวว่าภาคธุรกิจต่างๆ กำลังถอนตัวจากการโฆษณาในเครือ Meta เนื่องจากต้องเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสงครามในยูเครนด้วย