13 ก.ค. 2022 เวลา 13:20 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
"Little Miss Sunshine" 2006
การเดินทางสุดอลหม่านของครอบครัวคนขี้แพ้
บนรถตู้คันเก่าที่หอบไปด้วยความสนุกปนเศร้าเคล้าน้ำตา
Little Miss Sunshine
ภาพยนตร์โร๊ดมูฟวี่ คอมเมดี้-ดราม่า ผลงานกำกับของสองสามีภรรยา Jonathan Dayton และ Valerie Faris ที่ผันตัวมาจากผู้กำกับหนังสั้นและ MV และยังได้ Michael Arndt มาร่วมเขียนบท ซึ่งถือเป็นงานเขียนบทเรื่องแรก ก่อนที่จะคว้ารางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเวทีออสการ์ไปครอง โดยกว่าจะถ่ายทำเสร็จกินเวลาไปเกือบครึ่งปี ด้วยทุนสร้างเพียง 8 ล้านเหรียญ แต่กลับฟันรายได้ทั่วโลกไปถึง 100 ล้านเหรียญ การันตีด้วยการถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากมาย และยังถูกกล่าวขานว่าเป็นภาพยนตร์แห่งปี
เรื่องราวของครอบครัวฮูเวอร์ ที่ต้องส่งสาวน้อยอย่าง โอลีฟ (Abigail Breslin) ไปประกวดนางงามเด็กที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งตลอดระยะทางกว่า 800 ไมล์ เต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย ทั้งยังครอบครัวแต่ละคนที่มีปัญหาของตัวเอง
ไม่ว่า ริชาร์ด (Greg Kinnear) พ่อผู้ล้มเหลว, แฟรงค์ (steve carell) อาหนุ่มป่วยซึมเศร้าที่พึ่งคิดฆ่าตัวตาย, เชอริล (Toni Collette) แม่ที่ทั้งคอยผลักดันและกดดัน, ดเวย์น (Paul Dano) พี่ชายที่มีปัญหาในการเข้าสังคม และตั้งปณิธานด้วยการไม่ยอมพูดจนกว่าจะสอบติดนักบิน ปิดท้ายด้วย เอ็ดวิน (Alan Arkin) คุณปู่สุดเก๋า ที่ทั้งติดยาและพูดจาลามกอยู่เป็นประจำ
ทั้งหมดอัดแน่นอยู่ในรถตู้โฟล์คบุโรทั่งสีเหลือง เพื่อเดินทางไปให้ทันประกวดภายในระยะเวลาสองวัน แต่ทุกอย่างกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อตลอดการเดินทางนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรค
เป็นหนังที่ดีงามมากๆ ดูจบกี่ครั้งก็ยังน้ำตาซึม หนังหยิบประเด็นใกล้ตัวอย่างสถาบันครอบครัวมาเล่าผ่านการเดินทาง ที่ทุกคนต่างมีปัญหาของตัวเอง ถ้าปราศไปจากการพูดคุยก็ย่อมไม่มีวันเข้าอกเข้าใจกัน ด้วยบทที่แข็งแรงทำให้คาแรคเตอร์แต่ละคนดูโดดเด่น ด้านการแสดงแต่ละคนก็เล่นได้อิน ตีบทแตก โดยเฉพาะ พอล ดาโน่ กับซีนที่เล่นเอาซะน้ำตาคลอ
หนังดำเนินเรื่องไปอย่างเรียบง่าย แต่ไม่น่าเบื่อ ทั้งงานภาพและซาวด์ประกอบเหมือนพาให้คนดูร่วมผจญภัยไปกับครอบครัวฮูเวอร์ ระหว่างทางเต็มไปด้วยปัญหาและสอดแทรกไปด้วยมุกตลก ก่อนจะค่อยๆไต่ระดับความเข้มข้นที่ต้องมาลุ้นเอาใจช่วยให้หนูโอลีฟไปประกวดได้ทันเวลา ไคล์แม็กซ์ในช่วงท้ายเรียกได้ว่าบีบอารมณ์ ทรงพลังเอามากๆ หนังยังตีแผ่จิกกัดการประกวดของเวทีนางงามเด็กได้อย่างเจ็บแสบ
ชอบตรงที่ผู้กำกับแอบผูกเรื่องราวเข้ากับจักรวาลค้ายา เพราะเส้นทางที่ครอบครัวฮูเวอร์ผ่านนั้น คือทะเลทรายอัลบูเคอร์คี ในนิวเม็กซิโก ฉากหลังของซีรี่ย์ดังขึ้นหิ้งอย่าง Breaking Bad แถมซีนตำรวจเรียกรถตู้ให้จอด ยังได้ Dean Norris (แฮงค์) โผล่มาเรียกเสียงฮา และยังได้ Bryan Cranston มาร่วมแจมอีกด้วย
ด้วยชื่อไทยที่เข้ามากๆ กับ "นางงามตัวน้อย ร้อยสายใยรัก" ที่สาวน้อยโอลีฟเป็นเหมือนกาวใจคอยเชื่อมครอบครัวไม่ให้แตกแยกกัน และเมื่อถึงซีนที่ทุกคนต้องทิ้งปัญหาของตัวเองไว้ข้างหลังเพื่อช่วยให้จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้สำเร็จ เป็นอะไรที่ซาบซึ้งและอบอุ่นหัวใจเอามากๆ บางครั้งชีวิตคนเราก็ไม่จำเป็นต้องชนะตลอด มีปัญหาบ้าง แพ้บ้าง มันก็ไม่ได้เลวร้ายเสียทีเดียว สิ่งสำคัญคือการรับฟังและช่วยกันเยียวยารักษาจิตใจของคนในครอบครัว
ไม่มีอะไรต้องอวยให้มาก กับภาพยนตร์ครบรส ที่ทั้งสุขปนเศร้าเรียกทั้งเสียงหัวเราะและน้ำตา ใครที่ยังไม่เคยดู ควรจะหามาชมให้ได้สักครั้ง ถ้าหากมีการจัดลิสต์หนังฟีลกู๊ดดีๆที่ไม่ควรพลาด Little Miss Sunshine จะต้องติดอันดับต้นๆอย่างแน่นอน
โฆษณา