14 ก.ค. 2022 เวลา 04:47 • ธุรกิจ
รู้จัก กาแฟขี้ช้าง สัญชาติไทย ที่ขายกัน กิโลกรัมละ 80,000 บาท
ถ้าพูดถึงกาแฟที่มีราคาแพงอันดับท็อป ๆ ของโลก หลายคนอาจจะพูดชื่อ กาแฟขี้ชะมด ที่โด่งดังจากประเทศอินโดนีเซีย
แต่วันนี้มีกาแฟจากมูลสัตว์ที่โด่งดังไม่แพ้กัน คือ “กาแฟขี้ช้าง” จากประเทศไทย ซึ่งรู้หรือไม่ว่า ราคาต่อกิโลกรัมของกาแฟขี้ช้าง แพงกว่ากาแฟขี้ชะมดที่หลายคนเคยได้ยินเสียอีก
1
กาแฟขี้ช้าง สัญชาติไทยที่ว่านี้ ในปริมาณ 1 กิโลกรัม ขายกันที่ราคาประมาณ 80,000 บาท
และถ้าหากอยากดื่มเป็นแก้ว ก็ต้องจ่ายในราคาแก้วละ 1,200-1,500 บาท กันเลยทีเดียว
แล้วทำไม กาแฟขี้ช้าง ถึงมีราคาที่สูงเฉียดหลักแสนบาทขนาดนี้ ?
BrandCase จะเล่าให้ฟัง..
ย้อนกลับไปในช่วงปี พ.ศ. 2545 หรือประมาณ 20 ปีก่อน
จุดกำเนิดของกาแฟขี้ช้างที่แพงที่สุดในโลก เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยคุณเบลก ดินคิน ชาวแคนาดา ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย
เริ่มจากการศึกษาเป็นเวลานับ 10 ปี โดยให้ช้างไทยในมูลนิธิช้างเอเชียสามเหลี่ยมทองคำ ของโรงแรมอนันตรา ในจังหวัดเชียงราย กินผลเชอร์รีกาแฟ
2
จากนั้นก็รอให้ช้างขับถ่ายมันออกมา จนสามารถนำออกมาขายเป็นสินค้าได้
และตั้งชื่อแบรนด์ว่า “Black Ivory Coffee”
เรียกได้ว่า “กาแฟขี้ช้าง” ที่ราคาสูงนี้มีจุดกำเนิดเกิดขึ้นในประเทศไทย
และแบรนด์ Black Ivory Coffee เองก็ได้กลายเป็นแบรนด์กาแฟขี้ช้างจากประเทศไทย ที่โด่งดังในระดับโลก
แล้วกว่าจะมาเป็น กาแฟขี้ช้าง มันมีกรรมวิธีอย่างไร ?
​เริ่มต้นจากการคัดเลือกผลเชอร์รีกาแฟไทย สายพันธุ์อะราบิกา จากพื้นที่ปลูกที่ระดับความสูง 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ส่งต่อไปยังฟาร์มช้าง
แต่ละครอบครัวที่เลี้ยงช้างจะผสมเชอร์รีกาแฟกับอาหารของช้าง เพื่อให้แน่ใจว่าอาหารที่ช้างกินเข้าไปจะยังมีประโยชน์ทางโภชนาการ
เช่น รำข้าว กากน้ำตาล กล้วย และมะขาม จะถูกหมักทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วค่อยนำไปให้ช้างกิน
เมื่อช้างกินอาหารที่ผสมผลเชอร์รีกาแฟเข้าไป ก็จะเกิดกระบวนการย่อยอาหาร โดยเอนไซม์ในกระเพาะอาหารของช้าง จะทำการย่อยโปรตีนของผลเชอร์รีกาแฟที่มีคุณสมบัติให้รสขม
เมื่อขนาดโปรตีนเล็กลง จึงทำให้รสขมของกาแฟลดลงตาม ทำให้ได้รสชาติกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ออกมา
ซึ่งโดยปกติแล้ว กระบวนการนี้จะใช้เวลาประมาณ 12-72 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารในกระเพาะอาหารของช้าง
และเมื่อถึงเวลา ผลเชอร์รีกาแฟที่ช้างกินเข้าไป ก็จะถูกขับถ่ายออกมาพร้อมกับ “มูลช้าง” นั่นเอง
หลังจากนั้นควาญช้างก็จะนำเอาก้อนมูลช้างเหล่านี้ไปตากให้แห้งก่อน จากนั้นก็ทำการคัดแยกเมล็ดกาแฟที่สมบูรณ์แบบเต็มเมล็ดออกมา และนำไปทำความสะอาดด้วยน้ำต่อ
เมื่อล้างทำความสะอาดเสร็จแล้ว ก็จะถึงกระบวนการตากเมล็ดกาแฟให้แห้ง และนำไปบรรจุห่อต่อไป
เพียงเท่านี้เราก็จะได้กาแฟขี้ช้างที่สามารถนำไป คั่ว บด พร้อมเสิร์ฟเป็นกาแฟถ้วยออกมาให้ได้ดื่ม
แล้วราคาของกาแฟขี้ช้างนี้ ขายกันที่ราคาเท่าไร ?
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ PassionBuz โดยบอกไว้ว่า
กาแฟที่มีราคาแพงที่สุดในโลก ปี 2022 ก็คือ “Black Ivory Coffee” หรือกาแฟขี้ช้างจากประเทศไทย
โดยราคาประมาณ กิโลกรัมละ 80,000 บาท และมักจะวางขายในโรงแรมระดับ 5 ดาว
1
เทียบกับกาแฟขี้ชะมด ที่โด่งดังจากประเทศอินโดนีเซีย จะมีราคาประมาณกิโลกรัมละ 13,000 บาท
1
โดยทั่วไปแล้ว การจะได้กาแฟขี้ช้าง 1 กิโลกรัม จะต้องใช้ผลเชอร์รีกาแฟ ประมาณ 33 กิโลกรัม
บางเมล็ดที่โดนช้างเคี้ยวไป ก็จะถูกคัดออก
ซึ่งในแต่ละปีจะได้ผลผลิตประมาณ 200 กิโลกรัมเท่านั้น
แต่ไม่ใช่ช้างทุกตัวที่จะสามารถผลิตกาแฟขี้ช้างได้..
ช้างตัวไหนที่ชอบเคี้ยวอาหารก่อนกลืน ควาญช้างก็จะไม่นำผลเชอร์รีกาแฟผสมลงไปในอาหารให้กิน เพราะอาจทำให้ช้างได้รับสารกาเฟอีนมากเกินไปจนเกิดอันตราย
ดังนั้นควาญช้างจึงมักนิยมผสมผลเชอร์รีกาแฟลงในอาหารให้ช้างที่ชอบกินอาหารแบบกลืนลงไปทีเดียว มากกว่า
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า ธุรกิจนี้จะเป็นการทารุณช้างหรือไม่ ?
ต้องเล่าก่อนว่า ในทุก ๆ ครั้งที่ได้ผลผลิตออกมา ไม่ได้เป็นการบังคับให้ช้างกินอาหารที่ผสมผลเชอร์รีกาแฟ จนส่งผลกระทบกับพฤติกรรมการกินของช้าง
แต่เป็นการรอให้ช้างกินผลเชอร์รีกาแฟด้วยตัวของช้างเอง และควาญช้างจะเป็นคนคอยสังเกตดูว่าช้างกินอะไรเข้าไป และจะขับถ่ายออกมาตอนไหน
1
เนื่องจากความชอบของพวกมันก็ไม่ต่างอะไรไปจากคน ช้างแต่ละตัวก็จะมีสูตรอาหารที่ตัวเองชอบอยู่แล้ว
ซึ่งเมล็ดกาแฟที่ได้ จึงไม่ได้เป็นการบังคับให้ช้างกินผลเชอร์รีกาแฟแต่อย่างใด
และนอกจากจะมีกระบวนการคัดเลือกแค่ช้างที่กินอาหารแบบกลืนแล้ว
ก็ยังมีการตรวจเลือดและตรวจสุขภาพของช้างทุก ๆ 3 เดือนอีกด้วย เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อสุขภาพของช้าง
2
นอกจากนี้ กาแฟขี้ช้าง ยังถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำขึ้นมาเพื่อส่งเสริมโครงการอนุรักษ์ช้างไทย
เนื่องจากรายได้จากการขายสินค้าบางส่วน จะถูกส่งคืนกลับเข้าสู่มูลนิธิช้างและชุมชนของคนที่เลี้ยงช้างอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัวที่ดูแลช้าง ไปจนถึงนักเรียนในโรงเรียนท้องถิ่น
1
สรุปแล้วสิ่งที่ทำให้กาแฟขี้ช้างมีราคาสูง
ก็เนื่องมาจากกรรมวิธีการผลิตกาแฟที่มีความซับซ้อน พิถีพิถัน
บวกกับการบ่มในตัวช้าง จนได้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และผลผลิตที่เก็บได้น้อย ก็ยิ่งทำให้มันเป็นกาแฟที่หายาก
1
ทั้งหมดนี้ ก็ทำให้กาแฟขี้ช้าง กลายเป็นกาแฟจากมูลสัตว์ที่มีราคาสูงเฉียดหลักแสนบาทได้ นั่นเอง..
ปิดท้ายด้วยคำถามที่หลายคนน่าจะสงสัย ว่ารสชาติของกาแฟขี้ช้าง เป็นอย่างไร ?
จากความคิดเห็นของผู้ที่เคยดื่มกาแฟขี้ช้างมาแล้ว ต่างบอกว่ารสชาติของกาแฟขี้ช้างจะมีความนุ่มนวล ให้กลิ่นคล้ายกับช็อกโกแลต มอลต์ เครื่องเทศ และกลิ่นหญ้า อีกทั้งยังไม่ค่อยมีรสชาติขมเหมือนกาแฟทั่วไป..
1
โฆษณา