14 ก.ค. 2022 เวลา 11:57 • ข่าวรอบโลก
3 คดีฆาตกรรมลึกลับและสะเทือนอารมณ์ที่สุดในอินเดีย
เมื่อพูดถึงประเทศอินเดียเราคงนึกถึงผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายศาสนาอาหารรสเลิศที่หาซื้อได้อย่างง่ายดายตามข้างถนน และด้วยความที่มีประชากรที่อยู่ร่วมกันในประเทศอินเดียมากกว่า 1,400ล้านคน จึงทำให้เกิดคดีอาชญากรรมมากมายและมีบางคดีที่สะเทือนขวัญและสะเทือนอารมณ์
3
บางคดีได้รับความยุติธรรมแต่บางคดีก็ยังไม่สามารถคลี่คลายคดีได้จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าบางคดีที่เกิดขึ้นในอินเดียสานจะได้ตัดสินไปแล้วนั้นแต่คำตัดสินคดีของศาลอินเดียโดยลึกลึกแล้วมันก็ยังคงเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะยอมรับมัน
ปริศนาคดีฆาตกรรมอารูชิ
Arushi Talwar
ในเช้าวันที่ 16 พฤษภาคม 2008 อารูชิ ไทวา ในวัย 14 ปี ได้นอนเสียชีวิตในห้องนอนของเธอที่บ้าน ของเธอเอง ในเขตจันวายูวิหาด เมือง นอยดา ที่คอของเธอมีบาดแผลจากการโดนของมีคมบาดและบริเวณศีรษะของเธอก็มีบทดแผลจากการโดนตีด้วยของแข็ง ทำให้ผู้ช่วยแม่บ้านที่อาศัยอยู่ในครอบครัวของเธอชื่อว่า เหมราช บรรเจด ถูกมองเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมนี้ทันที เนื่องจาก เหมราช ได้หายตัวไปหลังจากพบศพของ อารูชิ ไทวา
แต่ในอีกหนึ่งวันต่อมาทางตำรวจก็ได้ตรวจพบศพของ เหมราช บรรเจต ในวัย 45 ปี ได้นอนเสียชีวิตอยู่บนเฉลียงภายในบ้านหลังเดียวกันกับอารูชิ ซึ่งพบว่าศพของ เหมราชนั้นมีบาดแผลฉกรรณ์ที่บริเวณลำคอ ซึ่งเกิดจากการถูกปาดด้วยของมีคมมีบาดแผลที่บริเวณศีรษะและมีบาดแผลรอยฟกช้ำทั่วทั้งร่างกาย และยังพบอีกว่าประตูระเบียงถูกล็อคจากด้านใน
หกวันหลังจากการพบศพของอารูชิ ไทวา ตำรวจสงสัยว่าอาจเป็นคดีที่ฆ่าเพื่อเกียรติยศของพ่อและแม่ของ อารูชิ ไทวา โดย ราจีด ไทวา และ นูพุ ไทวา พ่อและแม่ของ อารูชิ ไทวา นั้นเป็นทันตแพทย์ทั้งคู่ และในทางสังคมของอินเดียนั้นอาชีพนี้ก็ดูมีหน้ามีตาเลยทีเดียว
ทั้งคู่ได้ทำการฆาตกรรมบุตรสาวของตนเองหลังจากพบว่า อารุชิ ไทวา และ เหมราช มีความสัมพันธ์ที่เกินเลย เกินกว่าที่ทั้งสองคนจะรับได้ และในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2013 ผู้พิพากษา CBI ชื่อว่า สยาม ลัน ได้ตัดสินลงโทษพ่อและแม่ของอารูชิ ว่ามีความผิดในคดีฆาตกรรมและทำลายหลักฐาน ผู้พิพากษา สยาม ลัน ได้เขียนระบุไว้ว่า
2
“พ่อและแม่ควรเป็นผู้พิทักษ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกลูกของพวกเขาเอง และนั่นคือระบบธรรมชาติของการเป็นมนุษย์ แต่พวกเขากลับเป็นคนประหลาดในประวัติศาสของมนุษยชาติ เมื่อพ่อและแม่กลายเป็นฆาตกรที่ฆ่าลูกหลานของพวกเขาเอง”
1
โฆษณา