14 ก.ค. 2022 เวลา 14:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
คนรัสเซียหนีออกนอกประเทศระลอกสอง
ไทยหนึ่งในปลายทางของคนทำงานไอที
CNBC รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (14 ก.ค.) ว่า แรงงานมีฝีมือ เจ้าของบริษัท กำลังหนีออกจากรัสเซียเพื่อไปตั้งรกรากในประเทศอื่น การเดินทางออกรอบนี้เป็นระลอกที่สอง หลังระลอกแรกจะเป็นกลุ่มศิลปิน สื่อมวลชน และผู้ที่เคยออกมาต่อต้านรัฐบาลของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน อย่างเปิดเผย
1
CNBC ได้สัมภาษณ์นักธุรกิจวัย 37 ปีคนหนึ่งชื่อ วลาดิเมียร์ ซึ่งกำลังจะย้ายบริษัทและครอบครัวจากกรุงมอสโก ไปยังฝรังเศส เขามั่นใจว่า การย้ายครอบครัว ลูกจ้างออกจากรัสเซียเป็นสิ่งที่คุ้มค่า
“การอยู่ในประเทศที่คุณเกิดมา ก็มีความสะดวกสบาย แต่อีกแง่หนึ่ง คุณก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของครอบครัว” เขากล่าว
1
เขาเล่าว่า การตัดสินใจออกจากประเทศไม่ได้ตัดสินใจภายในวันเดียว แต่ภายใต้ประธานาธิบดีปูติน สิทธิและเสรีภาพทางการเมืองลดน้อยลงเรื่อยๆ และฟางเส้นสุดท้ายคือ รัสเซียบุกยูเครน
การตัดสินใจหนีออกนอกประเทศของเขา เขาถือว่า เขาเป็นส่วนหนึ่งของคลื่นอพยพออกลูกที่สอง หลังจากเกิดสงคราม กลุ่มคนที่อพยพออกครั้งนี้ ส่วนหนึ่งคือกลุ่มที่ต้องเตรียมตัวนานในการย้ายออก เช่น ต้องย้ายธุรกิจ ครอบครัว และรอให้ลูกเรียนจบก่อนจึงย้ายออก ซึ่งต่างกับผู้อพยพฝั่งชาวยูเครนที่คนหลายล้านต้องหนีภัยสงคราม
2
คลื่นลูกแรกของผู้อพยพชาวรัสเซีย คือ กลุ่มศิลปิน นักข่าว และคนที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลรัสเซียอย่างเปิดเผย พวกเขากลัวถูกทำเนียบเครมลินจับกุมคุมขังด้วยเหตุผลทางการเมือง
จีนน์ บาตาโลวา Jeanne Batalova นักวิเคราะห์นโยบายอาวุโสที่สถาบัน Migration Policy Institute กล่าวว่า ชาวรัสเซียจำนวนมากได้รับหมายแจ้งว่า พวกเขาเป็นผู้ทรยศต่อชาติ
ยังไม่มีข้อมูลยืนยันจำนวนคนรัสเซียอพยพออกจากประเทศนับแต่สงครามเริ่ม แต่นักเศรษฐศาสตร์รัสเซียคนหนึ่งเคยประเมินว่า มีประมาณ 200,000 คน นับถึงการเดือนมีนาคม
1
ในขณะที่ Batalova เชื่อว่า ปัจจุบันตัวเลขจะสูงกว่านี้มาก เพราะมีคนหลายหมื่นคนอพยพไปยัง ตุรกี จอร์เจีย อาร์เมเนีย อิสราเอล ประเทศแถบทะเลบอลติก และประเทศอื่นๆ เธอ เชื่อว่า จำนวนนี้ยังไม่นับรวมคนรัสเซียที่เคยอาศัยอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยังไม่ยอมเดินทางกลับบ้านหลังรัสเซียบุกยูเครน ซึ่งมีมากถึงประมาณ 100,000 คน
จากข้อมูลของอุตสาหกรรมไฮเทครัสเซียระบุว่า ในส่วนของอุตสาหกรรมไฮเทคอย่างเดียว ประมาณกันว่า มีแรงงานมีฝีมือ ประมาณ 50,000 -70,000 คน ที่เดินทางออกจากรัสเซียในเดือนแรกของสงคราม และจะมีอีกประมาณ 70,000-100,000 คนออกตามไป
1
นักธุรกิจสตาร์ทอัพ เช่น วลาดิเมียร์ ที่ให้บริการซอฟแวร์สำหรับกิจการร้านอาหาร ตัดสินใจย้ายธุรกิจไปยังประเทศที่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ เช่น ฝรั่งเศส อังกฤษ สเปน และ ไซปรัส ส่วนตัวของวลาดิเมียร์เองกำลังอพยพครอบครัว ลูก เมีย และลูกจ้างไปยังกรุงปารีส
แรงงานอิสระในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของรัสเซีย ส่วนหนึ่งเลือกเดินทางไปยังประเทศที่ผ่อนปรนเรื่องวีซ่า เช่น อินโดนีเซีย ไทย และตุรกี
กลุ่มที่สามคือคนที่ทำงานกับบริษัทไอทีขนาดใหญ่ของรัสเซีย กลุ่มคนนี้จำเป็นต้องย้ายออกเพราะลูกค้าในต่างประเทศจะบอกเลิกสัญญากับบริษัทที่ยังตั้งอยู่ในรัสเซีย ทำให้จำเป็นต้องย้ายออกแม้ไม่ได้ต้องการออกจากบ้านเกิดของตนเอง
มิคาอิล มิซินสกี Mikhail Mizhinsky ผู้ก่อตั้งบริษัท Relocode เพื่อช่วยบริษัทย้ายออกจากรัสเซีย กล่าวว่า กลุ่มที่สามนี้ต้องเลือก เอาระหว่าง กลุ่มประเทศค่าครองชีพต่ำ เช่น บัลแกเรีย เซอร์เบีย หรือประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำเช่น อาร์เมเนีย
สมองไหลออกจากรัสเซีย
2
แอนเตล สก็อตต์ Antel Scott นักกฎหมายที่ทำงานอยู่ในกรุงมอสโก ซึ่งช่วยเพื่อนๆอพยพออกจากรัสเซีย และไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ในดูไบ กล่าวว่า รัสเซียกำลังประสบกับภาวะสมองไหลออก และนับวันปัญหานี้จะรุนแรงยิ่งขึ้น “หลายคนรู้สึกว่า เขาสูญเสียประเทศของเขาไปแล้ว และคงไม่ฟื้นคืนมาภายในสองสามปีข้างหน้า”
มีการคาดกันว่า มีเศรษฐีรัสเซียประมาณ 15,000 คนอพยพออกจากประเทศในปีนี้ และดูไบเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม ทั้งนี้จากรายงานที่เผยแพร่เมื่อเดือนมิถุนายน ของบริษัท Henley & Partners ที่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน
การอพยพออกระลอกสอง มีขึ้นในขณะที่มีรายงานข่าวว่า คนที่ออกไปรอบแรกกำลังกลับมาเพราะเป็นห่วงธุรกิจและครอบครัว รวมทั้งความยุ่งยากในการเดินทางและผลกระทบจากมาตราคว่ำบาตรต่อธนาคารรัสเซีย
แต่ Batalova เชื่อว่า คนจะกลับมาขายบ้านและทรัพย์สินก่อนเดินทางออกจากรัสเซียอีกครั้ง และสำหรับคนที่อพยพออกนอกประเทศอาจจะพบกับความไม่เป็นมิตรจากเจ้าของประเทศ ที่สงครามยูเครนทำให้คนจำนวนมากมองว่า คนรัสเซียเป็นคนก้าวร้าว
เธอกล่าว่า นอกจากนี้ประเทศที่คนรัสเซียอพยพไปอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น จอร์เจีย อาร์เมเนียและประเทศในแถบทะเลบอลติก ก็อาจจะกังวลว่า จะตกเป็นเป้าหมายการโจมตีจากรัสเซีย เพราะในอดีตประเทศเหล่านี้เคยถูกรัสเซียรังแก
แต่ นักธุรกิจอย่าง วลาดิเมียร์ ก็มองโลกในแง่ดีว่า การอพยพไปอยู่ต่างประเทศจะเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดี เขาเชื่อว่า ไม่ใช่ทุกคนในต่างประเทศจะมองคนรัสเซียในแง่ลบ เพราะประชาชนในที่ต่างๆสามารถที่จะเข้าอกเข้าใจกันได้
โฆษณา