15 ก.ค. 2022 เวลา 10:34 • ความงาม
โบท็อกใต้ตา ฉีดได้จริงไหม 7 ข้อ รู้ไว้ถ้าไม่อยากพัง
โบท็อกใต้ตา ฉีดได้ไหมสงสัยจัง หลายคนรู้จักโบท็อกกันแล้วว่าคืออะไร แต่ยังไม่รู้ว่าโบท็อกฉีดจุดไหนได้บ้าง แล้วโบท็อกกับฟิลเลอร์ต่างกันยังไง ซึ่งความจริงแล้วปัญหาใต้ตาสามารถเกิดขึ้นได้ในทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ไม่จำเป็นหรอกค่ะว่าต้องเป็นคนที่มีอายุเพียงอย่างเดียวถึงจะมีปัญหา ในความจริงแล้ววัยรุ่นก็สามารถเกิดริ้วรอยใต้ตาได้ เลิกสงสัยได้ในบทความนี้มาอ่านกันได้เลยค่ะ
1.อย่ามองข้ามปัญหาใต้ตา?
อันดับแรก มาดูกันก่อนดีกว่าค่ะว่าริ้วรอยใต้ตามันมาจากอะไร โดยปัญหาใต้ตาส่วนมากหลัก ๆ มี 3 ปัญหาคือ
ริ้วรอยใต้ตาจากพฤติกรรม
ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยคือการนอนดึกเป็นประจำซ้ำ ๆ รวมไปถุงการไม่ดูแลตัวเองอย่างการไม่ทาอายครีมซึ่งนั่นทำให้ใต้ตาขาดความชุ่มชื้นและทำให้เกิด ร่องใต้ตาและหางตาขึ้นมาค่ะ นอกจากนี้ริ้วรอยยังสามารถเกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนเลยค่ะเช่น การขยี้ตาแรง ๆ และซึ่งหลายคนที่มีปัญหานี้การทาอายครีมแต่ก็ยังช่วยได้ไม่พอทำให้มองหา การฉีดโบท็อกหางตามาแก้ไขปัญหานั่นเองค่ะ
ริ้วรอยใต้ตาตามกาลเวลา
ปัญหาริ้วรอยหางตาเป็นปัญหาที่เกิดจากอายุมากขึ้นได้โดยเฉพาะวัยแม่ ๆ ซึ่งมันมีสาเหตุหลักมาจากการสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสตินทำให้ผิวบางลงขาดความยืดหยุ่นและทำผิวบางลงและก่อให้เกิดริ้วรอยใต้ตาที่ลึกขึ้นเลยทำให้สูญเสียความมั่นใจเว่อร์
ริ้วรอยใต้ตาจากโรคภูมิแพ้
ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ไม่ได้เกิดขึ้นทั้งจากอายุที่เพิ่มขึ้นหรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตค่ะแต่เกิดจากโรคภูมิ แพ้โดยปกติจะเกิดจากการที่จมูกอักเสบทำให้เยื่อบุโพรงจมูกบวม พอบวมแล้วทำให้เลือดดำไหลผ่านยากและไปคั่งอยู่บริเวณใต้ตาทำให้ใต้ตาคล้ำขึ้นและมีปัญหาริ้วรอยใต้ตาร่วมด้วยค่ะ โดยโรคภูมิแพ้เนี่ยส่งผลให้เกิดจากการติดการขยี้ตาบ่อย ๆ โดยพฤติกรรมนี้จะส่งผลให้เกิดใต้ตาที่ดำมากขึ้นด้วยจ้า
2.การแก้ไขปัญหาริ้วรอยใต้ตามีมากกว่าหนึ่ง
การปรับพฤติกรรมสำคัญที่สุด
การปรับพฤติกรรมนั้นเป็นด่านแรกเลยจ้าที่ต้องปรับ ยกตัวอย่างเช่น การนอนเพราะการนอนดึกจนติดเป็นนิสัยจะทำให้โทรมและเกิดริ้วรอยใต้ตาและริ้วรอยหางตา และส่งผลให้ตาเราคล้ำดำปี๋นอกจากนี้เรื่องการนอนดึกส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอด้วย
อายครีมไอเทมที่ต้องมี
ไม่พูดถึงไม่ได้ค่ะกับการทาอายครีมเพราะเป็นไอเทมทั้งผู้หญิงผู้ชายต้องมีติดบ้านกันแน่นอน โดยอายครีมที่ดีจะต้องมีส่วนผสมของ Niacinamide, Vitamin C และ Arbutin มาใช้ควบคู่ไปด้วย แต่การทาครีมเพื่อฟื้นฟูเพื่อ ลดริ้วรอยใต้ตา หรือปัญหาตาคล้ำ อาจไม่เพียงพอเพราะต้องใช้เวลานานการทาและบางคนที่มีร่องใต้ตาที่ลึกมาก ๆ อายครีมอย่างเดียวไม่สามารถรักษาได้ชัวร์ค่ะ
ดื่มน้ำให้เยอะไว้ก่อน
การดื่มน้ำให้พอนั้นสำคัญมากค่ะเพราะนอกจากจะมีประโยชน์ต่อระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายแล้วยังช่วยฟื้นฟูเรื่องให้เซลล์ผิวให้สว่างกระจ่างใสมากขึ้นซึ่งมันจะส่งผลต่อความคล้ำของใต้ตาและปัญหา รอยย่นใต้ตา ด้วยโดยเราควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 2.7 ลิตรต่อวันหรือประมาณ 11 แก้วครึ่งค่ะถึงจะเพียงพอในแต่ละวัน
แดดทำลายอิลาสติน
แสงแดดศัตรูตัวฉกาจที่ทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตาเพราะว่าแสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลตซึ่งสามารถทำลายอิลาสตินกับคอลลาเจนให้ผิวหนังเราเสื่อมเกิดริ้วรอยใต้ตาจนไปถึงริ้วรอยหางตาซึ่งการแก้ไขสามารถแก้ได้ด้วยการฉีดโบท็อกหางตาด้วยนะ
.
โดยการปรับพฤติกรรมตัวเองถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะคะแต่ถ้าอยากลดริ้วรอยใต้ตาแบบรวดเร็วและไม่ ใช้ระยะเวลานานล่ะก็ไปอ่านกันต่อเลยค่ะว่ามีวิธีไหนที่ตอบโจทย์เราบ้าง
3.คลายความสงสัยฉีดโบท็อกใต้ตาทำได้ไหมนะ?
ยังมีหลายต่อหลายคนยังคาใจกับคำถามเรื่องการฉีดโบท็อกใต้ตาวันนี้เราจึงเอาข้อมูลที่ควรรู้มาฝากค่ะ
โบท็อกคืออะไรช่วยลดริ้วรอยใต้ตาได้ไหม?
โบท็อก คือสาร Botulinum toxin A เป็นโปรตีนที่สกัดจากการสร้างของ แบคทีเรีย โดยเจ้าสารตัวนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวโดยสามารถช่วยเรื่องริ้วรอยบนใบหน้า รวมไปถึงริ้วรอยตื้น ๆ ที่รอบดวงตา เช่น ตีนกาได้หรือเรียกง่าย ๆ ซึ่งการฉีดโบท็อกหางตาช่วยได้ชัวร์ค่ะ แต่ถ้าหากเป็นเรื่องริ้วรอยใต้ตาเนี้ย ขอบอกว่าการ ฉีดโบท็อกใต้ตา เนี่ย ไม่เหมาะอย่างแรงเลยทุกคนถ้าไม่อยากพังอย่าหาฉีด
การฉีดโบท็อกสามารถฉีดจุดไหนบ้าง?
สำหรับบริเวณใบหน้า สามารถฉีดได้หลัก ๆ 6 จุดคือ
  • บริเวณหน้าผาก ลดริ้วรอย
  • รอยตีนกา หรือ รอยหางตา
  • รอยย่นที่จมูก
  • กรอบหน้า ลิฟหน้าชัด
  • รอยย่นระหว่างคิ้วบริเวณกราม หน้าเล็กลง
  • บริเวณกราม
คลายความสงสัยกันรึยังคะ? ทุกคนว่าการ ฉีดโบท็อกใต้ตา เนี่ย ไม่สามารถฉีดได้ และไม่แนะนำอย่างยิ่งค่ะ เพราะส่งผลไปคลายตัวกล้ามเนื้ออาจจะทำให้เกิดปัญหา ตาปรือ และ ปัญหาตาแข็งจากการฉีดโบท็อกในตำแหน่งที่ไม่ควรฉีดได้ค่ะ
.
อ่านบทความโบท็อกที่นี่
4.ห้ามพลาดวิธีการรักษาริ้วรอยใต้ตา
การลดริ้วรอยใต้ตา มีอยู่ 3 อย่างหลัก ๆ เลยค่ะ คือการ การฉีดฟิลเลอร์ การทำ Filogra MHA 10 และการทรีทเมนท์
.
ใต้ตาโหลต้องเติมฟิลเลอร์
ท่องจำไว้ให้ขึ้นใจเลยนะคะอยากเสริมเติมฟิลเลอร์ค่ะทุกคนเพราะการ ริ้วรอยใต้ตา ด้วยการฉีดฟิลเลอร์เหมาะมากเนื่องจากจากตัวฟิลเลอร์มีสาร Hyaluronic Acid สังเคราะห์ที่เป็นสารตามธรรมชาติที่มีอยู่แล้วในร่างกายเรา โดยการทำงานคือเมื่อฉีดไปใต้ผิวหนังเนื้อเยื่อบริเวณนั้นก็จะเต่งตึง มีน้ำมีนวลมากขึ้น จึงเหมาะมากค่ะสำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา รอยย่นใต้ตา ใต้ตาคล้ำ เบ้าตาลึก รวมไปถึงมีรอยพับใต้ตา จากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา
.
Filorga MHA 10 กู้ได้แน่
จากที่รู้เราโบท็อกใต้ตาไม่ได้แต่การทำ Filorgra MHA 10 ก็สามารถช่วยลดริ้วรอยได้ระดับหนึ่งแต่จะส่งผลดีในเรื่องความคล้ำของใต้ตามากกว่าเพราะว่ามีส่วนผสมจาก Hyaluronic Acid เเละวิตามินรวมเข้มข้นกว่า 153 ชนิดทำให้ใต้ตาสว่างกระจ่างใสขึ้น ด้วยการใช้เข็มด้ายขนาดเล็กฉีดตัวยาชนิดเข้มข้นเข้าไปบริเวณผิวหนังชั้นในแต่อย่างไรก็ตามการฉีดฟิลเลอร์สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ตรงจุดกว่าค่ะ
.
ทรีทเมนท์เติมความชุ่มชื่น
การใช้ทรีทเมนท์สามารถช่วยปรับผิวใต้ตาให้ดูเรียบเนียนกระจ่างใสมากขึ้น แถมยังช่วยให้ความชุ่มชื่นลงลึกถึงชั้นรูขุมขนละเอียดกว่าการทาเซรั่มถึง 40 เท่า
ด้วยความเข้มข้นที่สูงจะช่วยบำรุงและลดการเกิดริ้วรอยได้ค่ะ เพราะเราไม่สามารถฉีดโบท็อกใต้ตาแก้ปัญหาได้ซึ่งถ้าหากมีร่องลึกมาก ๆ เนี่ยควรใช้ฟิลเลอร์มากกว่าเพราะเป็นสารเติมเต็มจึงสามารถช่วยเรื่อง ลดริ้วรอยใต้ตาได้ตรงจุดมากกว่าจ้า
5.โบท็อกและฟิลเลอร์ต่างกันยังไง
ทำไมฉีดโบท็อกใต้ตาไม่ได้ แต่ฟิลเลอร์ได้
เอาง่าย ๆ และเข้าใจง่ายที่สุดคือโบท็อกมีสาร Botolinum Toxin เป็นสารที่ช่วยลดกล้ามเนื้อจึงเหมาะกับจะฉีดลดกล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ อย่างกรามจนไปถึง บ่า เหมาะสำหรับการใช้ฉีดโบท็อกหางตาเพราะโบท็อกช่วยเรื่องกล้ามเนื้อและริ้วรอยแต่ไม่ได้ช่วยเรื่องการเติมเต็ม แถมยังช่วยรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมได้จ้า
แต่ตัวฟิลเลอร์จะมีสาร Hyaluronic Acid ที่เป็นสารช่วยเติมเต็มใบหน้าจึงเหมาะมากในการเติมเต็มส่วนที่ยุบตัวของกระดูกอย่าง ใต้ตา ขมับ ร่องแกม จนไปถึงปากให้น่าจุ๊บ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะสามารถฉีดได้ ในขณะที่การฉีดโบท็อกใต้ตาไม่สามารถฉีดได้
6.เคล็ดไม่ลับดูแลตัวเองอย่างไรให้เป๊ะก่อนฉีดฟิลเลอร์
1.ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีดเพื่อป้องการอาการฟกช้ำ
2.งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์
3.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนการฉีด
4.สุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง ไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
5.หากเป็นไปได้ในวันฉีดควรล้างเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดใบหน้าก่อนพบแพทย์
.
7.ดูแลตัวเองให้เป๊ะหลังฉีดฟิลเลอร์
คนถามถึงเคล็ดลับการคงสภาพให้นานทำอย่างไรและการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ควรทำ ไงวันนี้เรามีคำตอบมาฝากค่ะ
1.หลีกเลี่ยงการนอนราบ หรือเอนศีรษะ 4 ชั่วโมงแรกหลังการฉีดเพื่อป้องกันการไหลของยา ไปสู่กล้ามเนื้อบริเวณอื่นเพราะอาจจะเกิดผลข้างเคียงได้
2.สามารถล้างหน้าได้นะคะแต่ควรหลังการรักษา 4 ชั่วโมง สามารถทาครีมแต่ใช้ เครื่องสำอางค์ได้ในวันถัดไปได้จ้า
3.อดใจไว้ก่อนอย่าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังการฉีด 3-5 วันหลังการรักษา
4.ถ้ามีรอยช้ำสามารถประคบเย็นได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการฉีด ภายหลัง 24 ชั่วโมงประคบด้วยน้ำอุ่นได้จ้า
5.อย่าเด็ดขาดนะคะสำหรับการนวดหน้า ขัดหน้า หรือ เลเซอร์ใบหน้าหลังการฉีด 2 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ริ้วรอยบนใบหน้าก็จะกลับมาค่ะ
6.อย่าการกดคลึงใบหน้าบริเวณที่ฉีดหลังการฉีดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
แก้ไขปัญหาครบ จบ ที่ Sowon Clinic
ไม่ว่าจะฉีดโบท็อกหรือฟิลเลอร์ก็ปลอดภัยมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะคลินิกปลอดภัยได้การรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขเครื่องมือทันสมัยแถมคุณหมอยังมีเทคนิคการลงเข็มที่แม่นยำ มีการแกะกล่องให้ดูก่อนฉีดทุกครั้งลูกค้าจึงมั่นใจได้แน่ว่าเป็นของแท้จริงไม่จิงโจ้ แถมหลังฉีดยังมีการติดตามทุกเคสหลังทำส่วนเรื่องรางวัลก็จุกมาก ทั้งรางวัลโบท็อกที่ช่วยแก้ไขตั้งแต่ลดกล้ามเนื้อจนไปถึงลดริ้วรอยบนใบหน้า แม้กระทั่งโบท็อกหางตา ไม่ว่าจุดไหนก็กวาดรางวัลชั้นนำจากกับแบรนด์ระดับโลก
รางวัลโบท็อกสุดปัง
รางวัลโบท็อกจาก Top Spender Awards 2021
รางวัลโบท็อกจาก Exclusive Customer Award ประจำปี 2020
 
 
รางวัลฟิลเลอร์สุดเริ่ดก็มีค่ะ
 
รางวัลฟิลเลอร์จาก The Gold Award For Merz Filler ประจำปี 2020
รางวัลฟิลเลอร์จาก The Platinum Award For Merz Filler ประจำปี 2021
.
สรุปเข้าใจกันแล้วใช่ไหมคะว่าเจ้าปัญหาใต้ตาเกิดจากอะไรการดูแลตัวเองและวิธีการลดริ้วรอยใต้ตาแบบต่าง ๆ มีวิธีไหนบ้าง และทำไมถึงฉีดโบท็อกใต้ตาไม่ได้ซึ่งเราขอสรุปให้นะคะ ว่าใครที่ต้องการแก้ไขรอยย่นใต้ตาที่เห็นผลเร็ว ชัดเจน ปลอดภัย โดยริ้วรอยเป็นร่องลึกขอแนะนำฉีดฟิลเลอร์จะดีและตอบโจทย์มากที่สุดค่ะ แต่ถ้าในเคสที่มีริ้วรอยรอยหางตาหรือเรียกว่าตีนกา การใช้โบท็อกหางตาถึงจะเหมาะที่สุด เพราะโบท็อกจะส่งผลต่อการคลายตัวของกล้ามเนื้อเลยไม่เหมาะที่จะฉีดใต้ตานั่นเองถ้าไม่อยากพังต้องเลือกให้เป็น
โฆษณา