17 ก.ค. 2022 เวลา 12:00 • ธุรกิจ
กรณีศึกษา ทำไมคนญี่ปุ่น ถึงตกหลุมรัก “มายองเนส” ?
2
ทาโกะยากิ, โอโคโนมิยากิ, ซูชิ, ข้าวหน้าต่าง ๆ รวมถึงเมนูของทอด
เคยสังเกตไหมว่า เมนูอาหารของประเทศญี่ปุ่นเหล่านี้ มักจะมี “มายองเนส” เป็นส่วนประกอบเสมอ ๆ
11
ซึ่งเรื่องนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่า มายองเนส เป็นหนึ่งในซอสที่ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างดี
จนถึงขนาดที่มีคำว่า “Mayolaah” ไว้เรียกกลุ่มคนที่ชื่นชอบการทานอาหารต่าง ๆ คู่กับการจิ้มมายองเนส
รวมถึงประเทศญี่ปุ่น ยังมีการกำหนดให้วันที่ 1 มีนาคมของทุกปี เป็น “วันมายองเนส” ด้วย
แต่ถ้าหากยังไม่เห็นภาพ ว่าชาวญี่ปุ่นนิยมมายองเนสกันขนาดไหน ลองเปรียบเทียบง่าย ๆ ก็คือ
ถ้าพริกน้ำปลา เป็นเครื่องปรุงยอดนิยมที่อยู่คู่อาหารของประเทศไทย
มายองเนส ก็เป็นหนึ่งในซอสที่อยู่คู่อาหารของญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน
1
แล้วจุดเริ่มต้นของมายองเนสในญี่ปุ่น เกิดขึ้นได้อย่างไร
ทำไมชาวญี่ปุ่น ถึงตกหลุมรักมายองเนส ? มาหาคำตอบกัน..
เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปราว 97 ปีที่แล้ว ผู้ที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นรู้จักกับมายองเนสครั้งแรกก็คือ คุณ Toichiro Nakashima ชาวญี่ปุ่นผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตซอสและอาหารกระป๋อง ที่มีโอกาสได้ไปฝึกงานในประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา จนได้รู้จักกับมายองเนส
เมื่อคุณ Toichiro เดินทางกลับมาประเทศญี่ปุ่น ก็ได้ตัดสินใจผลิตมายองเนส และวางขายเองเป็นครั้งแรกในวันที่ 1 มีนาคม ซึ่งกลายเป็นที่มาของวันมายองเนส นั่นเอง
และบริษัทก็ได้เติบโตมาเป็น Kewpie Corporation หรือแบรนด์คิวพี ที่มีโลโกเป็นรูปเด็กทารกมีปีก
ที่มีมายองเนส และน้ำสลัด วางขายทั้งในประเทศไทย และหลายประเทศทั่วโลกด้วยในปัจจุบัน
1
นอกจากคิวพี จะทำให้ชาวญี่ปุ่นได้รู้จักกับมายองเนสแล้ว
คิวพี ยังมีส่วนสำคัญอย่างมาก ที่ช่วยผลักดันให้มายองเนส กลายเป็นสิ่งที่คนหลงรักและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของชาวญี่ปุ่น
ถ้าถามว่า มายองเนสของคิวพี ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นขนาดไหน ?
ข้อมูลจาก INTAGE บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาทางการตลาด ระบุว่า คิวพี เป็นแบรนด์มายองเนสอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น โดยครองส่วนแบ่งทางการตลาดราว 60%
1
ดังนั้นคำถามที่ตามมาก็คือ
คิวพี ทำอย่างไรให้เป็นแบรนด์มายองเนส ที่ชาวญี่ปุ่นตกหลุมรัก ?
1. ใช้วัตถุดิบพรีเมียม และสร้างความแตกต่างจากมายองเนสของสหรัฐอเมริกา
ย้อนกลับไปที่คุณ Toichiro ที่ตัดสินใจผลิตมายองเนสและวางขายในประเทศญี่ปุ่น
ก็เพราะว่า มีแนวคิดที่อยากให้ชาวญี่ปุ่นได้รับสารอาหารมากขึ้น ให้เติบโตอย่างแข็งแรง และมีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนชาวตะวันตก
ด้วยเหตุนี้ คุณ Toichiro เลยปรับสูตรให้พรีเมียมขึ้น
นั่นก็คือ มายองเนสของคิวพีจำนวน 1 ขวด (500 กรัม) จะทำจากไข่แดงล้วนจำนวน 4 ฟอง
แตกต่างจากฝั่งมายองเนสของสหรัฐอเมริกา ที่ใช้ไข่ทั้งฟอง รวมไข่แดงและไข่ขาว
จึงทำให้มายองเนสของคิวพี มีสีเหลืองเข้มอมส้ม และมีเนื้อสัมผัสเนียนกว่า ข้นกว่า คล้ายกับคัสตาร์ด
นอกจากนี้แล้ว ในส่วนของส่วนผสมที่ให้ความเปรี้ยวในมายองเนส
ทางฝั่งของสหรัฐอเมริกา จะใช้น้ำส้มสายชู ที่มีความเปรี้ยวเพียงอย่างเดียว
แต่ของคิวพี จะเลือกใช้แอปเปิลไซเดอร์ หรือน้ำส้มสายชูหมักจากข้าว ที่ยังคงมีความหวานผสมอยู่
4
และสุดท้าย เคล็ดลับแต่ไม่ลับ นั่นก็คือ มายองเนสของคิวพี จะใส่สารโมโนโซเดียมกลูทาเมต หรือที่ทุกคนรู้จักกันก็คือ ผงชูรส ซึ่งทำให้มายองเนสมีรสชาติอูมามิขึ้น และถูกใจชาวญี่ปุ่นนั่นเอง
9
2. มีกระบวนการผลิต ที่ช่วยทำให้รสชาติกลมกล่อม
1
นอกจาก ไข่, น้ำส้มสายชู และผงชูรส ที่เป็นส่วนผสมในการทำมายองเนสแล้ว
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือ น้ำมันพืช
หลาย ๆ คนก็น่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า การผสมระหว่างส่วนผสมที่เป็นน้ำและน้ำมันเข้าด้วยกันนั้นเป็นเรื่องยาก
แต่คิวพี มีกระบวนการอิมัลซิฟิเคชัน (Emulsification) ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของบริษัท
ทำให้สามารถผสมไข่แดง และส่วนผสมอื่น ๆ เข้ากับน้ำมันพืชได้ละเอียดมากกว่าเดิม
โดยในการผสม คิวพีจะค่อย ๆ หยดน้ำมันพืชขนาดเล็กมาก ๆ ลงไปในส่วนผสมอื่น ๆ
จนทำให้ได้มายองเนสที่มีเนื้อครีมละเอียดมากกว่ามายองเนสโฮมเมดทั่ว ๆ ไป
และทำให้มีรสสัมผัสละมุนลิ้น เพิ่มความอร่อยในการรับประทานมากกว่าเดิม
3. มีมายองเนส หลากหลายตัวเลือก
แน่นอนว่า บางครั้งเวลาจะซื้อหรือบริโภคสิ่งต่าง ๆ ผู้บริโภคก็คาดหวังว่าจะมีตัวเลือกให้เลือกหลากหลาย
ซึ่งมายองเนสของคิวพีในประเทศญี่ปุ่น ก็ตอบโจทย์ความคาดหวังนี้ได้เป็นอย่างดี
2
เพราะมีหลากหลายรสให้เลือก เช่น
- คิวพี มายองเนสรมควัน ที่ผู้บริโภคจะเพลิดเพลินมากขึ้นด้วยกลิ่นหอมรมควัน
- คิวพี มัสตาร์ด มายองเนส เป็นมายองเนสที่มีรสเผ็ดจากมัสตาร์ด
- คิวพี Fitte มายองเนสที่อ้างว่า ช่วยลดไขมันในช่องท้อง
และมีหลากหลายสูตรให้เลือก เช่น
- คิวพี ไลต์ มายองเนสที่ปรับสูตรลดแคลอรีลง 80%
- คิวพี ซีโร มายองเนสแบบไม่มีคอเลสเตอรอล
- คิวพี มายองเนส สูตรไม่มีไข่
3
ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นเหตุผลที่ส่งเสริมให้ชาวญี่ปุ่นตกหลุมรักมายองเนสของคิวพีได้อย่างง่ายดาย
ซึ่งต้องบอกว่า จริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่ชาวญี่ปุ่นเท่านั้น ที่ชื่นชอบมายองเนสของคิวพี
แม้แต่เชฟที่มีชื่อเสียง หรือร้านอาหารหลาย ๆ ร้านในต่างประเทศ ก็ยังเลือกใช้มายองเนสของคิวพีเป็นส่วนประกอบด้วย
1
ยกตัวอย่างเช่น คุณเดวิด ชาง เชฟจากสหรัฐอเมริกา เจ้าของร้านอาหารมากกว่า 20 ร้าน ที่มีสาขาทั้งในสหรัฐอเมริกา
และต่างประเทศ บอกไว้ว่า มายองเนสของคิวพีเป็น “มายองเนสที่ดีที่สุดในโลก”
1
หรือคุณนิกิ นากายามะ เชฟและเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นในลอสแอนเจลิส เจ้าของรางวัลมิชลิน ก็บอกว่า มายองเนสของคิวพี เป็น “ราชาแห่งมายองเนส” เช่นกัน
สุดท้ายนี้ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า ในการทำธุรกิจ บางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ให้กำเนิด หรือต้องสร้างผลิตภัณฑ์อะไรสักอย่างในประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องนั้น ๆ เพียงอย่างเดียว
อย่างกรณีของมายองเนส จริง ๆ แล้วมีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส และสเปน
แต่คิวพีก็สามารถนำมาพัฒนา ต่อยอดจากมายองเนสรูปแบบเดิม ๆ
และทำให้มายองเนสของตัวเอง ประสบความสำเร็จในเวทีโลกได้เช่นกัน..
โฆษณา