16 ก.ค. 2022 เวลา 12:30 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
ความจริงที่รู้อยู่แก่ใจ
Extraordinary Attorney Woo
(อูยองอู ทนายอัจฉริยะ) ตอนที่ 5
เรื่องราวในตอนนี้เล่าถึงหน้าที่กับความถูกต้อง
เมื่อมีลูกความคนหนึ่งต้องการให้ทีมทนายของ
ฮันบาดาช่วยเป็นทนายความให้ในการยื่นขอ
สิทธิอรรถประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว
เนื่องจากเขาไปเสนอขายสินค้าแล้วในที่ประชุมมีการทักท้วงขึ้นมาว่า สินค้าของเขาเหมือนกับบริษัทอีกบริษัทเลย
เขาจึงได้ยื่นเอกสารฟ้องร้องให้ทีมทนายที่
ฮันบาดาช่วยดำเนินการต่อให้ และเขาก็ได้ยืนยันว่าบริษัทตนเองเป็นผู้คิดค้นคาสเซ็ตนี้
ไม่ได้ลอกเลียนแบบใคร
(*กล่องใส่ธนบัตรที่อยู่ในตู้ ATM)
หัวหน้าทีมจองมยองซอกได้มอบหมายให้อูยองอูกับควอนมินซู เพื่อนร่วมทีมจอมวางแผนที่ต้องการเอาชนะอูยองอูมาตลอด
ดูแลคดีนี้ร่วมกัน
การแข่งขันได้เริ่มขึ้นเมื่อควอนมินซูได้รับเอกสารการว่าความในคดีนี้มาแล้ว แต่เขากลับไม่บอก
อูยองอู
และอยู่ๆวันที่ลูกความมาเข้ามาพบและพูดคุยถึงรายละเอียด
ควอนมินซูก็ไม่บอกอูยองอูอีกเช่นเคย
เขาให้เอกสารกองใหญ่กับอูยองอูก่อนเข้าประชุม เธอไม่สามารถเตรียมตัวได้ทัน
"คาสเซ็ต คืออะไร" - หัวหน้าทีมถามอูยองอู
อูยองอูตอบไม่ได้ เธอพยายามเปิดเอกสารหาแต่กลับทำให้แฟ้มเอกสารกองใหญ่หล่นเรี่ยราดกลางที่ประชุม
หลังจากจบการพูดคุย อูยองอูโดนหัวหน้าทีมดุว่าไม่เตรียมตัวมาให้ดีก่อน แต่เธอก็ได้แต่เงียบแล้วคอตกกลับไป
ถึงวันขึ้นศาลครั้งที่ 1
ลูกความยังคงยืนยันปฏิเสธข้อกล่าวหาว่า
เป็นผู้ลอกเลียนแบบคาสเซ็ตของอีกบริษัทเหมือนเดิม อูยองอูจึงเกิดความสงสัยว่า เขาพูดจริงหรือเท็จกันแน่
อูยองอูเดินเข้าไปถามลูกความแต่เขาก็ถูก
ควอนมินซูห้ามไว้
"เราต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงกับลูกความไม่ใช่หรอคะ"
"เราจะบอกข้อเท็จจริงได้ก็ต่อเมื่อเขาบอกความจริงสิครับ"
- ควอนมินซูบอกกับอูยองอู
"ถ้างั้นทนายควอนมินอูคิดว่าหัวหน้าฝ่ายฮวังดูยงโกหกหรอคะ"
- อูยองอูถามกลับด้วยความสงสัย
"ไม่รู้สิครับ คนทำธุรกิจก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้น"
"เราต้องพิสูจน์นะคะว่าความจริงคืออะไร"
อูยองอูจอมวู่วาม ปะทะกับ ควอนมินซูจอมวางแผน
เย็นวันนั้นหลังเลิกงาน อูยองอูได้กลับไปเล่นเกมชัมชัมชัมกับดงกือรามี
อูยองอูรู้ว่าตัวเองเล่นชัมชัมชัมเก่ง ไม่ว่าดงกือรามีจะหันซ้ายหรือขวา อูยองอูก็ทายถูกทุกรอบ แต่เธอไม่สามารถแยกแยะได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเธอกำลังพูดความจริงหรือโกหกอยู่
ดงกือรามีจึงช่วยสอนให้จ้องตาอีกฝ่าย แต่การจ้องตาอีกฝ่ายมันยากที่สุดสำหรับคนออทิสติก เธอจึงบอกให้อูยองอูมองไปที่ระหว่างคิ้วแทน
"ฉันอยากเอาชนะควอนมินซู ทนายควอนมินซู เฮงซวย..."
- อูยองอูพูดด้วยท่าทางฉุนเฉียว
ดงกือรามีจึงบอกว่า นี่แหละ ความจริง
เธออยากเอาชนะทนายควอนมินซูมากเลยสินะ
ถึงตาฉันบ้าง จากนั้นดงกือรามีก็เอาค้อนขึ้นมา
"อีจุนโฮ ชอบ อูยองอู จริงหรือเท็จ"
- อูยองอูท่าทางเลิกลัก หลบตา ไม่ตอบ
วันต่อมา อูยองอูกับอีจุนโฮไปหาลูกความที่บริษัท
ระหว่างทางเธอได้ปรึกษาอีจุนโฮ
"ส่วนที่ซื่อสัตย์ที่สุดบนร่างกายคนคือ ขา แล้วก็มือครับ"
"ถึงปั้นสีหน้าได้ แต่ก็ยากที่จะควบคุมขาที่สั่นกับฝ่ามือที่ชุ่มเหงื่อได้ครับ"
"หรือไม่ก็ การใช้มือลูบต้นขาตลอดเวลา เขาบอกว่า อะไรแบบนั้น อาจเป็นสัญญาณของคนโกหกครับ"
- อีจุนโฮอธิบายให้อูยองอูฟัง
คนเราใช้ชีวิตบนโลกที่ประกอบไปด้วยฉันกับเธอ แต่คนออทิสติกเคยชินกับการใช้ชีวิตบนโลกที่ประกอบไปด้วยฉันคนเดียวค่ะ
ถ้าไม่อยากตกหลุมพรางคำโกหก ฉันจะต้องพยายามมีสติตลอดเวลา
อูยองอูกล่าว
"ช่วยให้ผมเข้าใจคุณทนายได้"
- อีจุนโฮกล่าวด้วยใบหน้าอมยิ้ม
พร้อมกับมองหน้าอูยองอู
เมื่อมาถึงบริษัทลูกความ
"เรามาซ้อมกันหน่อยไหมครับ คุณทนายถามแล้วผมจะตอบครับ"
- อีจุนโฮบอกกับอูยองอูก่อนลงรถ
อูยองอูหยิบค้อนชัมชัมชัมขึ้นมามองหน้าอีจุนโฮแล้วถามว่า
"อีจุนโฮชอบอูยองอูหรือไม่คะ"
อีจุนโฮมองหน้าอูยองอูแล้วอึ้งไปชั่วขณะ
"คำถามนี้ ยากไปสำหรับหัวหน้าฝ่ายฮวังนะครับ"
"อ้อ คำถามซ้อมนะค่ะ"
- อูยองอูตอบกลับด้วยท่าทางเลิกลั่กเล็กน้อย
เมื่อทั้งสองคนได้พบกับหัวหน้าฝ่ายฮวัง ที่บริษัทอีฮวาเอทีเอ็ม เขาก็ตกใจทันทีเมื่อเห็นว่าลูกความของเธอทั้งมีผ้าพันแขน พันขา และแปะพาสเตอร์เต็มหน้า
"ผมพึ่งประสบอุบัติเหตุมาน่ะครับ"
- หัวหน้าฝ่ายฮวังบอกกับอูยองอู
อูยองอูมีท่าทางผิดหวังและตกใจมาก สิ่งที่เธอเตรียมวิธีดูคนโกหกมาอย่างดี ดูท่าทางจะใช้ไม่ได้ผลซะแล้ว
จากนั้นหัวหน้าฝ่ายฮวังได้พาอูยองอูและอีจุนโฮไปพบกับทีมพัฒนา
ระหว่างที่อูยองอูสอบถาม ตัวแทนทีมพัฒนาที่กำลังพูดคุยอยู่กลับมีท่าทางขาสั่น จมูกแดง
มืออยู่ไม่นิ่ง เกาขาบ้าง เกาจมูกบ้าง
อูยองอูสังเกตุเห็นอาการเหล่านี้ เธอจึงรู้ได้ทันทีว่า นี่คืออาการของคนโกหก
เธอจึงหยุดถาม และแนะนำวิธีการนั่งตอบคำถามในศาลแทน
เพื่อไม่ให้ถูกกจับได้ว่ากำลังโกหก
ถึงวันขึ้นศาลครั้งที่ 2
ตัวแทนทีมพัฒนาที่ได้มาเป็นพยานในศาล แสดงละครต่อหน้าทุกคนได้อย่างแนบเนียน เขาตอบคำถามด้วยท่าทางตามที่อูยองอูแนะนำทุกอย่าง
และฝั่งหัวหน้าฝ่ายฮวังก็ยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาเหมือนเดิม
หลังจากวันนั้น อูยองอูได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง
"เทคโนโลยีนั้นพัฒนาขึ้นโดยบริษัทที่อเมริกา และได้เผยแพร่ที่งานนิทรรศการครับ
ทั้งคึมกังและอีฮวา ต่างก็นำเทคโนโลยีนั้นมาสร้างผลิตภัณฑ์ ถ้าการงดผลิตและจำหน่ายยืดเยื้อไปเพราะคำสั่งห้ามคราวนี้ คึมกังบริษัทที่เล็กกว่าอีฮวาก็นะต้องปิดตัวลงในไม่ช้าครับ"
- ประธานคึมกังเอทีเอ็ม โอจินจง เขียนในจดหมาย
หลังจากอูยองอูอ่านจนหมายจบ เธอรีบวิ่งไปหาหัวหน้าทีม แต่ก็ไม่พบ เธอจึงวิ่งไปหาควอนมินซูและยื่นจดหมายนี้ให้อ่าน
"ถ้าในจดหมายนี้เป็นเรื่องจริง เราก็ควรทำอะไรสักอย่างไม่ใช่หรอคะ"
- อูยองอูกล่าว
"ทำอะไรครับ เราว่าความในมุมมองของลูกความอย่างดี เราจะทำอะไรได้อีกครับ"
- ควอนมินซูตอบด้วยท่าทางหงุดหงิด
หลังจากนั้นทีมทนายของฮันบาดาก็ได้ถูกเชิญไปร่วมดูการพิสูจน์หน้างานพร้อมกับศาล
และทีมทนายฝั่งผู้ถูกร้อง
 
"ผลิตภัณฑ์นี้ผลิตขึ้นก่อนอีฮวาเอทีเอ็มมากถึงหนึ่งปีครับ"
"ปัจจัยสำคัญสุดในการลงทะเบียนสิทธิอรรถประโยชน์คือความแปลกใหม่ นั่นแปลว่า ต้องไม่เหมือนกับเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว"
"ดังนั้น อีฮวาเอทีเอ็ม ไม่มีสิทธิ์ได้รับสิทธิอรรถประโยชน์สำหรับเทคโนโลยีนี้ครับ"
- ทนายผู้ถูกร้องฝั่งคึมกังเอทีเอ็มกล่าวหลังจากแสดงรายละเอียดและวันที่ผลิตของคาสเซ็ตในตู้เอทีเอ็มให้ทุกคนดูเสร็จ
สุดท้ายก็ไม่มีใครได้รับสิทธิอรรคประโยชน์นี้ และคำสั่งห้ามผลิตและจำหน่ายก็ถูกเพิกถอนไป
แม้ว่าคดีนนี้จะจบแล้ว แต่อูยองอูยังรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เธอเดินไปเปิดตู้เย็น ระหว่างที่จัดขวดน้ำในตู้
อีจุนโฮก็เดินเข้ามาทัก
อูยองอูเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอรู้สึกผิดที่รู้เรื่องราวทุกอย่างแต่กลับไม่ห้ามแถมยังช่วยอีฮวาเอทีเอ็มเรื่องการยื่นขอสิทธอรรถประโยชน์และคำสั่งห้ามจำหน่าย
"สุดท้ายแล้ว ทั้งๆที่รู้ความจริง ฉันก็ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ ฉันหลอกตัวเองค่ะ เพราะอยากเอาชนะค่ะ"
"ฉันอายค่ะ"
- อูยองอูพูดกับอีจุนโฮด้วยสีหน้าผิดหวัง
คอตก น้ำตาคลอ
อูยองอูต้องการเอาชนะควอนมินซูจนลืมความถูกต้องไป
หลังจากได้รับจดหมายเธอจึงรู้สึกว่าสิ่งที่ทำไปมันผิด แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว
มุมของควอนมินซู เขาก็ได้ทำหน้าที่ทนายความให้กับลูกความตัวเองอย่างเต็มที่แล้วเช่นกัน ในการว่าความครั้งแรก ที่ควอนมินซูไม่ถามอะไรกับลูกความเพิ่ม เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่หัวหน้าฝ่ายฮวังพูดคือคำโกหก
เขาจึงหาทางช่วยลูกความด้วยวิธีการของตัวเองแทน
แม้ว่าหน้าที่ทนายความจะทำให้พวกเขาอึดใจกันบ้าง แต่ทั้งสองคนต่างก็ได้ทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่แล้ว
ถ้าหน้าที่กับความถูกต้องมันก็สวนทางกัน
เราก็เตือนเขาได้ไม่ใช่หรอคะ เพราะนั่นก็เป็นอีกหน้าที่ที่ถูกต้อง และควรจะทำ
เรารู้สึกว่าตอนนี้เป็นอีกตอนที่ดีมากๆเลยค่ะ
ไม่ใช่ทุกเรื่องราวที่เราจะเอาชนะได้ทั้งหมด
คนเราก็มีแพ้ มีผิดพลาดกันได้เป็นธรรมดา
และนั่นก็คืออีกบทเรียนที่ทำให้เราเติบโตขึ้นค่ะ
มาร่วมเป็นกำลังใจให้อูยองอูกันต่อในตอนต่อไปนะคะ
โฆษณา