Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
DID . YOU . KNOW ?
•
ติดตาม
16 ก.ค. 2022 เวลา 11:40 • การศึกษา
4 ความลับที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับ " ดาวเสาร์ "
●
วงแหวนสะท้อนแสง
ว่ากันว่าดาวเสาร์เป็นดาวที่มีพลังงานบางอย่างอยู่ มันจึงทำให้เกิดมีวงแหวนได้แต่ดาวดวงอื่นไม่มี ที่จริงแล้วการที่เราสามารถมองเห็นวงแหวนที่ล้อมรอบดาวเสาร์ได้
นั้นมันเกิดจากน้ำแข็งที่เป็นองค์ประกอบของวงแหวนที่มีขนาดตั้งแต่หลักไมโครเมตรจนถึงหลักเมตรเลยก็มี
ทำให้มันสะท้อนแสงได้เป็นอย่างดี แตกต่างจากดาวเคราะห์แก๊สดวงอื่นที่มีวงแหวนล้อมรอบแต่เรามิอาจจะมีบุญได้เห็นด้วยตาเปล่า
THE HISTORY OF : SATURN
จากข้อมูลที่เราได้จากการส่งยานอวกาศ 4 ลำ คือ
1.
SATURE - PIONEER 11
2.
VOYAGER 1
3.
VOYAGER 2
4.
CASSINI
ยานเหล่านี้ได้ส่งภาพและข้อมูลต่าง ๆ กลับมายังโลก ซึ่งได้เปิดเผยข้อมูลความลับต่าง ๆ ที่ดาวเสาร์ได้ปกปิดเราไว้ เกี่ยวกับวงแหวนของมัน
สิ่งที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับวงแหวนดาวเสาร์คือ มันไม่ได้มีเพียงวงเดียวอย่างที่เราเคยเห็นกัน
แท้ที่จริงแล้วมันมีวงแหวนขนาดใหญ่ล้อมรอบดาวเสาร์ถึง 7 วง!!!
แต่ละวงจะประกอบไปด้วยวงแหวนขนาดเล็ก ๆ ย่อยไปอีกจำนวนมาก
รวม ๆ แล้วก็อาจจะถึงพันวงเลยก็ได้
ซึ่งแต่ละวงแหวนก็จะมีช่องว่างคั่นระหว่างกลางอยู่
วงแหวนหลัก ๆ ของดาวเสาร์มีอยู่ 7 วง ตั้งชื่อตามตัวอักษรในภาษาอังกฤษคือ
A B C D E F และ G
แต่ว่ามันไม่ได้เรียงลำดับตามตำแหน่งนะ
เพราะว่ามันถูกเรียงตามการค้นพบต่างหาก
เช่นสมมติว่าเราเจอวงแหวนวงแรก ก็จะให้มันมีชื่อว่า A RING แต่มันอาจจะไม่ได้เป็นวงที่ใกล้ดาวที่สุดหรือเป็นวงที่อยู่ด้านนนอกสุด หรือไกลที่สุดก็ได้
●
หกเหลี่ยมมหัศจรรย์กับฤดูกาลที่เปลี่ยนไป
เขยิบจากวงแหวนมาเข้าใกล้ดาวเสาร์อีกนิด
ไปตรงทิศเหนือของดาวเสาร์ บริเวณขั้วเหนือของดาวมีพายุขนาดใหญ่โตมหึมา
( ขนาดใหญ่กว่าโลกของเรา ) รูปร่างทรงหกเหลี่ยม ( SATURN ' S HEXAGON )
บรรยากาศภายในพายุมีอนุภาคหมอกควันขนาดใหญ่ และมีความเข้มข้นของอนุภาคสูง
เจ้าพายุรูปร่างทรงหกเหลี่ยมนี้ถูกค้นพบเมื่อสมัยยาน VOYAGER 1 แล้ว
ซึ่งในสมัยนั้น นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถสรุปอะไรได้มากนัก รอจนเวลาเลยผ่านไปจนถึงยุคของยาน CASSINI
ซึ่งแน่นอนว่าการโคจรของมันครั้งนี้จะต้องบินไปสำรวจหกเหลี่ยมนี้อีกครั้ง
และนี้ทำให้เราได้ข้อมูลมายืนยันว่า มีหกเหลี่ยมนี้อยู่จริง ๆ และมันไม่เกิดขึ้นที่ขั้วใต้ของดาวเสาร์
ที่สำคัญมันก็ยังคงเป็นหกเหลี่ยมแบบนี้อยู่เหมือนเดิมตั้งแต่ยาน VOYAGER 1
ได้ค้นพบมันตอนนั้น ( ระยะเวลารวมประมาณ 25 ปี )
ซึ่งสีที่เปลี่ยนไปนี้นักดาราศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์คิดว่า
มาจากอนุภาคฝุ่นผงในชั้นบรรยากาศของดาวเสาร์บริเวณที่เป็นพายุ ถูกแดดส่องเป็นเวลานานในช่วงฤดูร้อนของซีกเหนือ
ทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีเปลี่ยนสีของอนุภาคขึ้นมา ส่วนสาเหตุรอง ๆ อื่น ๆ เช่นการหมุนวนของกระแสอากาศยังอยุ่ในช่วงการคิดและวิเคราะห์ปัญหาการเกิดต่อไป
●
ทะเลมีเทนบนยักษ์ไททัน
ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์ที่มีบริวารอยู่หลายดวง หนึ่งในนั้นคือดวงจันทร์ไททัน
มันเป็นดาวบริวารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของดาวเสาร์
เป็นดินแดนที่ลึกลับของนักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์อย่างมาก เพราะว่าดาวดวงนี้มีชั้นบรรยากาศที่หนาแน่นมาก
อุปกรณ์ถ่ายภาพส่วนใหญ่จึงถ่ายได้แต่เพียงชั้นบรรยากาศเท่านั้น
จนกระทั่งยานอวกาศ CASSINI ได้แบกเรดาห์ไปบินผ่านดวงจันทร์ไททัน
ซึ่งมันสามารถสะท้อนผิวของไททันขึ้นมาและสร้างเป็นภาพลักษณะทางภูมิประเทศเบื้องต้นได้ ทำให้เราเห็นพื้นผิวที่ราบเรียบกว้างใหญ่ ล้อมรอบด้วยพื้นที่ขรุขระเป็นเนินเขา ลักษณะคล้าย ๆ ทะเลสาบ
ประกอบกับอุปกรณ์ถ่ายภาพที่มีชื่อว่า วิมส์
( VIMS - VISUAL AND INFRARED MAPPING SPECTROMETER )
ของยาน CASSINI ตรวจวัดได้ว่าที่แห่งนี้ได้ปล่อยไออีเทนและมีเทนออกมา
การค้นพบทะเลมีเทนของดวงจันทร์ไททัน ดาวบริวารของดาวพฤหัสบดี
ทำให้นักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์เข้าใจ
ชั้นบรรยากาศที่หนาแน่นที่เกิดจากการที่ รังสีอัลตราไวโอเลต ( UV )
จากดวงอาทิตย์เข้ามาทำให้โมเลกุล ของมีเทนแตกตัวจนหมด
และแหล่งมีเทนใต้ดาวนี้เองที่ทำให้บรรยากาศมีแต่มีเทน
แม้สิ่งที่พบจะไม่ใช่มหาสมุทร
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้นักดาราศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ล้มเลิกความพยายามในการสืบเสาะหาข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับดาวดวงนี้
แถมยังทำให้ความสนใจกันมันมากขึ้นอีกด้วย
●
น้ำพุร้อนบนเอนซาลาดัส
ก่อนที่ยานอวกาศ CASSINI จะได้ทำการจบชีวิตลงที่บ้านหลังใหญ่ของมัน มันได้ค้นพบสิ่งมหัศจรรย์อีกอย่างคือ " น้ำบนดวงจันทร์เอนซาลาดัส "
องค์กรนาซ่า ( NASA ) ได้ออกมาแถลงการค้นพบจากยาน CASSINI
ที่ได้บินผ่านดวงจันทร์เอนเซลาดัส ดาวบริวารของดาวเสาร์
และได้ถ่ายรูปรวมทั้งเก็บตัวอย่างไอน้ำร้อนที่พวยพุ่งของมาจากขั้วใต้ของดาวนั้น
ทำให้เห็นว่าที่ก้นมหาสมุทรของเอนซาลาดัสมีกระแสน้ำร้อนเลี้ยงอยู่ ซึ่งจะเป็นสภาวะที่คล้าย ๆ กับโลกของเรา
ผลการค้นพบในครั้งนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร SCIENCE โดยได้ระบุไว้ว่า
" มหาสมุทรใต้พื้นผิวของเอนซาลาดัส มีความกว้างใหญ่ไพศาลครอบคลุมทั้งดาวและยังมีความลึกหลายกิโลเมตร ซึ่งได้รับความร้อนจากแกนกลางของดาวที่เป็นของแข็ง โดยที่แรงดึงดูดมหาศาลจากดาวเสาร์จะบีบให้แกนกลางของเอนซาลาดัสเกิดความร้อนขึ้นอีกด้วย "
...
แต่ถ้าหากว่าบนเอนซาลาดัสมีสิ่งมีชีวิตหรือพวกแบคทีเรียอยู่จริง ๆ
ก็คงจะเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่โครงสร้างไม่ได้ซับซ้อน
แต่ก็สามารถทนร้อนทนหนาวได้ดี
REFERENCE :
1.
https://caps.gsfc.nasa.gov/simpson/kingswood/rings/
2.
https://www.universetoday.com/15399/tilt-of-saturn/
3.
https://www.bbc.com/thai/international-39596961
4.
https://www.nasa.gov/image-feature/jpl/pia21049/changing-colors-in-saturns-north/
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย