Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Tos
•
ติดตาม
16 ก.ค. 2022 เวลา 23:38 • ความคิดเห็น
ทุกคนคิดว่าคนเราสามารถใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวแบบไม่มีคู่ชีวิต ไปจนถึงแก่ตายเลยได้มั้ย และมันแปลกมั้ยถ้าจะเป็นแบบนั้น ?
มันเป็นเทรนด์ระดับโลกแล้วครับ เพราะเป็นหายนะกับชีวิตมาก ถ้าปล่อยวางไม่ได้ พอมีปัญหาก็ทำร้ายกันฆ่ากัน แย่งสมบัติกัน
ด้วยแรงขับจากตัณหาราคะ ก็จะเห็นได้ว่า รักกับหลงมันลวงตากันและกัน
หลายคนมองบวก วาดฝันจากสิ่งที่เห็นและคิดปรุงแต่งต่อ โดยลืมความจริงที่ว่า
จิตมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง ความดีที่ปรากฎ ภาพที่แสดง ไม่รู้ว่าเป็นมายาหรือของจริง
หลายคนบอกทีแรกก็ดีต่อมาก็ไม่เหมือนเดิม
จริงๆแล้วทีแรกนะของปลอม ต่อมานะของจริง ตัวตนจริงๆ เราใช้ใจใช้ความรู้สึกมากไปเอง
ไม่อาศัยเวลาคบหาให้นานพอ และสังเกตนิสัยใจคอให้ดีก่อน พอเราชอบเราก็มีธง คิดบวก คิดในสิ่งที่เราอยากคิด
การได้คนดี ในความจริง ต้องดีเสมอกัน ความไม่ดี ก็ต้องมีเป็นธรรมดา ถือเอาอุดมคติ ความคิด ศีลธรรม ใกล้เคียงกัน เป็นตัวตัดสิน ในนิยามความดีของแต่ละคน
ชีวิตคู่ ที่ยืนนานได้ แค่ไหน ขึ้นกับการสมประโยชน์กันไม่ว่าเงินทอง และเรื่องบนเตียง ซึ่งมีทุกระดับชนชั้น
ไม่งั้น คนพาล เกเร เจ้าชู้ นักเล่น ขี้เหล้าเมายา สังสรรค์เฮฮาเป็นอาจินต์ คงไม่มีแฟน เพราะมีเหตุปัจจัยที่จะเกิดภัย สร้างปัญหาเบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่น ในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน
แท้จริง สายดาร์คเหล่านี้ มีแฟนมีคู่กันไม่ยากและ มีได้ตลอดเวลา เลิกวันนี้ไม่นานมีใหม่ก็ไม่แปลก
เพราะ สังคมมันหลากหลายเจอคนเยอะ มีพาหะเชื่อมความรู้สึก สานสัมพันธ์ทางใจง่าย ทั้งเหล้า ยา ปลา ปิ้ง แสง สี เสียง ....และความเห็นอกเห็นใจกัน
มีสิ่งกระตุ้น มีตัวตน มีแรงเชียร์ มีอาหารชั้นดีให้กิเลส ตัณหาความอยากที่พาตัวเองไปหาปัญหา
จริตนิสัยอุดมคติการใช้ชีวิต จึงเป็นตัวแปร ลักษณะแฟน คู่ครอง และปัญหาที่จะตามมา !
แน่นอนว่า คนที่ปล่อยให้ความโลภโกรธหลงมีอำนาจครอบงำมาก ความรุนแรงมักจะเกิดได้ง่าย
แม้แค่การขอชนแก้วกับข้างโต๊ะ หรือมองหน้ากัน ยิ่งไปมีท่าทีกับแฟนเขา ก็พร้อมที่จะกระโจนใส่ รุมทำร้ายกัน อย่างที่เราเรียกว่าหมาหมู่นั่นแหละ
ศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชาย จะไปมีได้อย่างไรในหมู่คนพาล
คนที่มีสติ และเห็นภัย จึงคิดแบบคนที่ถาม !
แม้คนทั่วไป ที่ไม่ใช่สายดาร์ต ก็ใช่ว่าจะรู้สึกปลอดภัย
คนพาลนิสัยเลวใช่ว่าจะตัดสินจากที่เห็น นั่นมันง่าย และเราเลือกได้ ที่จะเลี่ยงหรือเข้าหา เพราะลึกๆบางทีเราก็มีเชื้อ มีความเถื่อนเล็กๆอยู่บ้าง
ถ้ามีน้อยก็โอเคแค่แวะไปทัศนศึกษาแล้วก็จบ
คนที่กล้าแสดงตน เลวแบบตรงไปตรงมา อย่างน้อยก็มีความนับถือตัวเอง ซึ่งก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง และคนหล่อ สาวสวย ในวงการนี้ก็มีไม่น้อย
แต่ที่น่ากลัวกว่า คือพวกแฝง ไม่ตรงไปตรงมา ใช้สมอง มากกว่าใจ ไม่เหมือนพวกแรกที่มักรู้สึกยังไงจิตใจเป็นยังไงก็ตรงไปตรงมา นักเลงพอประมาณนั้น
คนกลุ่มนี้คิดว่าตัวเองฉลาด มักเก่งทางการโกง วางยา ฆ่าความไว้วางใจ มักดูดี มีหน้าที่การงาน มีตำแหน่ง มีหน้าตาในสังคม มีทุกระดับสังคม ทุกวงการ
น่ากลัวกว่าอีก เพราะความอยาก ความโลภ ที่แฝงมากับความรู้ ความฉลาด หน้าตา สังคม ความอำมหิต มันซ่อนอยู่ลึก
ดูไม่เห็น ฟังไม่ได้ยิน พูดจาดีมีความหวัง เก่งในการกระตุ้นความโลภความอยากของคน เพราะมันคือตัวตนของเขาๆรู้ว่า จะหลอก จะสร้างความน่าเชื่ออย่างไร
พวกนี้ไม่เน้นกำลัง ถนัดวางกลยุทธ์ เก่งสร้างภาพ ชำนาญการตลาดและโฆษณาชวนเชื่อ
น่ากลัวมาก เพราะเราๆท่านๆจะเสียรู้ เสียตัว เสียเงิน เสียใจในความรู้ไม่เท่าทัน ถูกหลอกถูกต้มตุ๋นนั่นแหละ และอาจเสียชีวิต
มันไม่เปิดเผยตรงไปตรงมาเหมือนสายดาร์ค หรือพวกแบดบอยส์ เขาต้องการเงินก็ได้เงิน ต้องการความรักก็ได้ความรัก ต้องการความน่าเชื่อถือก็ได้ความเชื่อถือ
ต้องการยศตำแหน่งก็ได้ยศคำแหน่ง โกงได้โกง กินได้กิน ฯลฯ ขึ้นกับความฉลาด และการใช้สมอง ซึ่งก็มีหลายระดับ
เป็นสายดาร์คที่กลายพันธุ์ อำมหิตเงียบ มีความรู้ มีสมอง สร้างหายนะได้สูง ในทุกระดับ
เราๆท่านๆก็ต้องรู้เท่าทัน ต้องมีสติ ระวังความอยาก ของตนให้มาก รวมถึงความเชื่อ หลงเชื่อ โดยไม่พิจารณาไตร่ตรอง ให้รอบคอบ
หลายคนทั้งชายหรือหญิง จึงเลือกที่จะเป็นโสดมากขึ้นๆ และเป็นเทรนด์ของโลกยุคนี้เรียบร้อยแล้ว
แม้สาวเกาหลีที่นิยมทำศัลยกรรมเพื่อจะได้หาแฟนสร้างครอบครัวก็ลดลงไปอย่างชัดเจน นอกจากจะทำเพื่อเงินเป็นสำคัญ
แน่นอนว่า สติ แต่ละคนมีกำลังไม่เท่ากัน และมีบ้างไม่มีบ้าง กิเลสจึงครอบงำได้ง่าย
ตัณหาราคะเมื่อเจออาหารที่ชอบคือ หน้าตาสวยหล่อ รูปสวย กลิ่นหอม วาจาที่ชวนฟัง ก็จะหลง อยากและ ยอม ที่เสียตัว เสียเงิน เสียเวลา เสียอนาคต ไม่ว่าชายหรือหญิง
หึงหวง คบซ้อน มีกิ๊ก มีเก็บ ตามง้อไม่ได้ก็บ้าก็คลั่ง ฆ่าเขาบ้าง ทุบตีลูกประชดบ้าง ไปฆ่าไปทำร้ายพ่อแม่แฟนบ้างสารพัด
พวกโลกสวยคงไม่ค่อยอย่กจะรับรู้ เพราะมีทิฐิที่จะไม่เสพข่าวร้าย ทั้งที่ข่าวเหล่านี้ เป็นครูสอนใจ
สรุป มีแต่เรื่อง !
ถ้าขาด "สติ"
สติ... ถ้ามีกำลัง ย่อมรู้เท่าทันไม่ยาก
ทาน ศีล และภาวนา เป็นอุปกรณ์การฝึกให้สติมีกำลัง โดยเฉพาะ ภาวนา นั่งสมาธิ จะทำให้สติดี รู้เท่าทันกิเลสได้ไวขึ้น ไม่มีทางสายอื่นนอกจากทางนี้เท่านั้น
บางคนสั่งสมมาหลายภพชาติแล้วก็มีทานศีลภาวนาเป็นธรรมชาติของเขา ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร ฟังพระสอนก็เข้าใจง่าย
มีสติรู้ทันกิเลสตน เผลอไปก็ถอยทัน ติดกระดุมผิดเม็ดแรก เม็ดที่สองก็รู้แล้ว ตั้งสติแก้ไขได้ทัน ไม่ค่อยมีทิฐิมานะเกินเบอร์
นิ้วร้ายกล้าตัดไม่ปล่อยให้ลามไปทั้งแขนกินทั้งตัว
คนที่สั่งสมมาน้อย แม้มีอุปสรรคข้ออ้างลำบากในการบำเพ็ญก็ไม่ควรถอดใจ
ควรหมั่นทำเนืองๆ สั่งสมไปเรื่อยๆ ไม่ต้องโลภ ไม่ต้องท้อใจ ทำไปเรื่อยๆ
บุญกุศลใดทำด้วยความโลภมีกำลังน้อยต้องตระหนักวางจิตให้ถูก
ทุกการกระทำมีผล ขอให้ไหว้พระก่อนนอน จิตอยู่กับตัว
คิดถึงสิ่งดีๆบุญกุศลที่เราทำน้อมจิตแผ่เมตตาเบาๆสบายๆไปเรื่อยๆ ภาวนาบทสวดมนต์ที่ชอบ จิตอยู่ที่พระคาถา
นึกน้อมไปให้พ่อแม่ผู้มีคุณ พระแม่ธรณีเจ้าที่เจ้าทางผีบ้านผีเรือน สิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพเทวาทั้งที่บ้าน
บริเวณบ้านและสถานที่ต่างๆที่เราได้ไปทำกิจกรรมการงาน
นึกน้อมไปถึงท้าวเวสสุวรรณ ท่านยมบาล ฯ ไปเรื่อยๆช้าๆเบาๆ
พอจิตนิ่ง ก็ดูอาการพองยุบตามความเป็นจริงไปเรื่อยๆ
ไม่คาดหวังไม่ต้องการ จิตอยู่กับสภาวะทางกาย อาจไปดูลมหายใจบ้างก็ได้ตามความเป็นจริง
ตามแต่สภาวะธรรมเขาพาไป ไม่ต้องติดยึดกับรูปแบบจนเกินไป
การบรรลุธรรมแต่ละขั้นแต่ละคนเป็นปัจจัตตัง
ตัดสินที่ไม่คิดปรุงแต่ง อยู่กับความเป็นจริงไม่ว่าทางกายหรือจิต และนิวรณ์5ควรต้องลดลง
กุศลชนิดนี้ได้ผลทันทีเรื่อยๆอยู่แล้ว เหมือนฝึกโยคะ
สมาธิภาวนาสำคัญมากต้องหาโอกาสหมั่นทำบ่อยๆ
จะทำให้จิตมีอำนาจ สติมีกำลัง ประหารกิเลสได้ ชะลอได้ ต่อต้านได้ บริหารจัดการได้ และรู้เท่าทันมันได้ง่าย
ที่สำคัญจะมองคนออกยิ่งกว่าดูโหงวเฮ้งเป็นเสียอีก
เราจึงไม่แปลกใจ ที่ประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอยเดิม
ปัญหาผัวเมีย ปัญหาสังคม ปัญหาหึงหวงฆ่ากัน สังคมที่กินเหล้าแล้วก็ตีกัน ทะเลาะกัน ผับบาร์ส่วนใหญ่มีเรื่องแม้เพียงเล็กน้อยก็ยิงกัน มองหน้ากันก็เข้ารุมทำร้ายกัน
ชาย หญิงก็มีกิ๊ก มีชู้ กัน หึงหวง ตามง้อ ไม่ได้ดั่งใจก็ฆ่ากัน จะเลิกอีกฝ่ายไม่เลิกก็วางแผนฆ่าเสียเลย
โจทย์ในยุคนี้ คนจึงอยากรู้ว่า เราจะอยู่คนเดียวยังไง เพราะต้องแก่ ต้องป่วย !
สรุป ไม่แปลก เพราะชีวิตคนมันสั้นนัก เกินกว่าจะเสียเวลากับเรื่องที่ไม่แน่นอน
เรื่องด่วนที่ควรใส่ใจ ก็คือ หาวิธีบริหารจัดการความเสี่ยงให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง....
สุขภาพกาย สุขภาพใจ
โภชนาการธรรมชาติ พวกอาหารเสริมต้องมีสติ เพราะมันเป็นธุรกิจ ที่มีผลกำไรสูง
ผลข้างเคียงเวลาไปทำปฏิกิริยากับอาหารหรือยาอื่นๆ ไม่ค่อยมีคนพูดถึง และผลมาจะปรากฎในระยะยาว หรือไม่
ต้องศึกษาให้ดี แบรนด์สำคัญมาก ของถูกหามีคุณภาพยาก ของแพงก็ไม่แน่ว่าของจะมีคุณภาพ ต้องดูว่าผลิตที่ไหน น่าเชื่อถือแค่ไหน
อาหารขยะทั้งของไทยและเทศ อาหารใช้มือทำ คิดว่าสะอาดไหม อาหารที่วางขายริมถนน ที่มีทั้งฝุ่นพิษ เชื้อโรค ควันรถ ฯ คิดว่าอยู่ในอาหารตามริมถนนไหม
คุณภาพความสะอาดสิ่งปลอมปนเพื่อลดต้นทุน คิดว่าแม่ค้าเห็นแก่ตัว ไม่กลัวเวรกรรม คิดว่ามีมากหรือน้อย
สารเคมีอย่างไรก็ต้องมี เช่นสารกันบูด เรากินไปเรื่อยๆสะสมไปเรื่อยๆ
ชีวิตบั้นปลาย แทนที่จะได้พักผ่อน มีสุขภาพดี อยู่กับลูกหลาน กลับกลายเป็นภาระ ป่วยเป็นโรคร้ายต่างๆ นอนติดเตียงก็มาก
เพียงเพราะ ประมาท ไม่ใส่ใจโภชนาการ การกิน การนอนให้ดี ซึ่งสำคัญกว่าการออกกำลังกายมากๆ กินหวาน กินแป้ง น้ำผลไม้ น้ำดื่มอุตสาหกรรม
อาหารแปรรูปต่างๆ อาหารทะเล
อาหารเสริมที่คุณภาพจริงไม่ตรงปกหรือที่โฆษณา ก็ต้องระวัง เพราะมันเป็นธุรกิจ เจ้าของมีจริยธรรมหรือไม่ ยากที่จะรู้
หลายคนหมดเงินไปไม่น้อยกับสิ่งที่เขาว่ามา มีสรรพคุณอย่างนั้นอย่างนี้ จริงแค่ไหน ไม่ง่ายที่จะพิสูจน์ทราบ
การบริหารจัดการด้านการเงิน
ใช้ให้น้อยกว่ารายได้ รายเหลือสำคัญกว่ารายรับ
เงินเก็บต้องมี 10เท่าของรายได้ต่อเดือน ไว้ยามฉุกเฉิน ก่อน
จึงคิดศึกษาการลงทุน อะไรที่กำไรดี ดอกสูง คิดไว้ก่อนว่าอันตราย จัดการความเสี่ยงให้ดี อย่าโลภ
ความปลอดภัย ในยามแก่ชราก็สำคัญ ที่อยู่ที่อาศัยเย้ายวนโจรผู้ร้ายไหม หากมีเรื่องร้ายๆจะทำยังไง ตต้องคิดต้องวางแผนให้ดี
การศึกษาธรรมะ เช่น ฟังยูทูป ของ
พระอาจารย์ชยสาโรภิกขุ
พระอาจารย์สุชาติ วัดญาณฯ ฯลฯ
......สายพระปฏิบัติ ท่านสอนเข้าใจง่ายและลึกซึ้ง
แล้วแก่ตัวไป ใครจะเลี้ยงดู ......?
นี่คือคำถามที่จะตามมา จากคนที่หวังดี
ถ้าศึกษาธรรมะ เข้าใจชีวิต และวางแผนการอยู่คนเดียวให้ดีพอ ก็ไม่น่าจะกังวลอะไรมาก
...แน่นอนว่าการมีครอบครัวที่อบอุ่น มีคู่มีลูกหลานใส่ใจดูแลดีย่อมต้องดีกว่าแน่นอน
แต่ ... มันกำหนดเองไม่ได้ เหตุปัจจัยหลายอย่างควบคุมไม่ได้ และไม่มีอะไรแน่นอน ทุกระดับสังคม ชนชั้น รวยจน ไม่ต่างกัน
บางครอบครัว จน หรือรวย ก็มีทั้งอบอุ่นดูแลกันและกันดี และมีทั้งห่างเหินเมินเฉย ทางใครทางมัน เหมือนเป็นบุญบาปที่กำลังส่งผล
บางคน ลูกหลานสร้างแต่ปัญหาไม่จบสิ้นตั้งแต่เล็กยันโตจนหัวหงอก พ่อแม่ก็ช้ำใจแต่ยังไงก็ลูกหลาน
บางคนเกษียณ พอจะมีบำนาญหรือเงินเก็บที่จะแทะกินบ้างหาความสุขเล็กๆน้อยๆให้ตัวเองบ้าง ญาติพี่น้องลูกหลานก็มาไถเอาไป มีเหตุผลสารพัด
บางคนช่วยเหลือส่งเสียลูกหลาน สุดท้ายหายหัวไปหมดนานทีปีหนโผล่มาที และแถมยังมาเบียดเบียนให้ช้ำใจเข้าไปอีก
หลายคนแก่เฒ่าพอมีเงินมรดกก็อยากให้ลูกหลาน สุดท้ายเอาไปผลาญหมด และทิ้งเรา
ยิ่งอยู่คนเดียวมีเงินมีทรัพย์สิน ไม่ควรยกให้ลูกหลานญาติพี่น้อง ควรต้องให้ใครก็ได้ที่ใส่ใจดูแลเรา ยามเราป่วยไข้
ไม่ใช่ญาติลูกหลานเสมอไป ต้องดูที่พฤติกรรม และนิสัย อย่าใจดีเมตตาแบบหลงมัวเมาความดี สติ สำคัญที่สุด
สำคัญคือแก่ตัว ต้องมีเงิน มีทรัพย์สิน แล้วอย่าเที่ยวไปบอกใคร ทำตัวเป็นผ้าขี้ริ้วห่อทองเข้าไว้ จะเห็นนิสัยคน ลูกหลาน เพื่อนฝูง
ใครคือกัลยาณมิตร สำคัญกว่า
ใครที่มีน้ำใจกับเราดูแลเราตอนนอนจมอึจมฉี่ตอนป่วยตอนแก่นั่นแหละควรมีน้ำใจยกให้เขา
กรณีมีครอบครัวมีญาติลูกหลานต้องมีสติให้มาก อย่ารีบให้อะไรเขาไปก่อน
ทีนี้กรณีไม่มีญาติ อยู่ตัวคนเดียวจริงๆหล่ะ อันนี้ต้องวางแผน แก่ตัวควรต้องมีเงินมีทรัพย์สินบ้าง จะบวชเข้าวัดเขาจะได้ไม่มองว่าเราไม่มีที่ไป
มาเกาะวัดกิน
แต่ถ้าไม่เจอครูบาอาจารย์ หรือวัดที่ไม่ถูกจริตจริงๆก็ไม่แนะนำให้เข้าไป เราศึกษาปฏิบัติเองได้ เข้าสำนักบ้างก็ได้
ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศ
อย่าไปติดรูปแบบ ศึกษาให้เข้าใจ สำคัญที่สุด
สำนักมีเยอะพาหลงทางเสียเวลาก็เยอะ ต้องมีสติ ฟังศึกษาให้หลากหลายครูอาจารย์ก่อน
จะเห็นภาพรวม และเข้าใจ เอาตรงนี้ก่อนกระโจนเข้าวัด
เพราะในวัด มีทั้งสมมติสงฆ์ และอลัชชี แยกไม่ออกต้องสังเกตพฤติวัตรการปฏิบัติ เอาเอง
หลายคนหลงบุญเมาบุญ เสียเวลามาก
อย่าลืมว่าที่ใดมีลาภสักการะมาก กิเลสที่ฝังตัวในอนุสัยย่อมจะออกมามากกว่าปกติ ผู้ไม่มีอินทรีย์สังวร ไม่สามารถข่มนิวรณ์ได้ง่าย
เพราะยังไม่ได้เป็นพระอริยะสงฆ์
ยิ่งขาดภาวนา ยังไม่ถึงโสดาบัน ส่วนใหญ่ รอดยาก นอกจากได้กัลยาณมิตรดี คอยเตือนสติ
1
โลภ โกรธ หลง ครอบงำง่าย ดีไม่ดีตัณหาราคะเข้าหนุน เพราะมีสิ่งกระตุ้นสิ่งเร้าเป็นพาหะ
อันตราย ถ้าไม่มีการบริหารจัดการกิเลสให้ดีพอ
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญา ต้องเข้าใจต้องศึกษาก่อน อย่าติดความเชื่อ อย่าติดตัวบุคคล ฟังผู้รู้ครูบาอาจารย์หลายๆท่าน จึงเห็นภาพรวม
สายปฏิบัติเวลาท่านพูดสอนจะเข้าใจง่าย และลึกซึ้ง
สายยึดคำสอนจากพุทธวจนะก็แบบนึง เน้นความจริงความตรงจากพระไตรปิฎก
ต่างจากสายปฏิบัติที่มีจริต มีกุศโลบายในการสอนธรรม ซึ่งพระสงฆ์ที่เป็นพระอริยะจะหยั่งรู้ผู้ฟังว่ามีอินทรีย์บารมีแค่ไหนก็จะมีวิธีสอนให้ตรงสภาวะจิตของผู้นั้นหรือกลุ่มคนนั้นๆไป
มีงานวิจัยที่เคยอ่านมา เขาว่า คนโสด อยู่ตัวคนเดียว ถ้าไม่ได้ศึกษาธรรมะ หรือปฏิบัติอะไร ไม่เข้าใจอริยสัจ4
ไม่เชื่อการเวียนว่ายตายเกิด (ทั้งที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกในหลายส่วน และมีการศึกษาค้นคว้ากันในระดับโลก เช่นการระลึกชาติ)
ไม่เชื่อว่าบุญกรรมส่งผลได้จริง
ยังติดสุขทุกข์แบบโลกๆ ไม่มีศีล ขาดเมตตา ไร้คุณธรรม
ส่วนใหญ่มีแนวโน้มเป็นโรคประสาท ......เจ้าคิดเจ้าแค้น โทสะร้าย หรือซึมเศร้า ไปเลย ก็ดูจะมีเหตุผลไม่น้อย !
แต่การมีคู่ก็ไม่ใช่ ไม่ดีเสียทีเดียว ถ้าได้คนที่ใจดี มีความเป็นกัลยาณมิตร ซื่อสัตย์ ไม่ดูถูกดูแคลน และที่สำคัญคอยดูแลใส่ใจ
ช่วยเหลืออุปถัมภ์ค้ำจุน ถ้าได้แฟนหรือคู่แบบนี้ถือว่าบุญเก่า อย่าพึ่งอคติทิฐิมานะปิดกั้นตัวเองซะทีเดียว
1
ซึ่ง..มักจะเป็นคนที่เลี้ยงตัวเองได้ ไม่หวังพึ่งใคร ส่วนคนที่หวังพึ่ง ต้องการกำลังเสริม
สู้คนเดียวไม่รอดแน่ ก็จะไม่ค่อยมีทิฐิมานะอะไร แค่สมประโยชน์ รอดแน่ ก็จะไม่คิดอะไรมาก คว้าไว้ก่อน
ดังนั้น คนที่กังวลว่าจะเป็นโสดกันหมด เพราะกลัวมีปัญหา ก็คงสบายใจ เพราะแฟนหรือคู่ในอุดมคติ ไม่ใช่เรื่องสำคัญกว่าปากท้อง ทุกคนต้องรอดก่อน
เราจึงเห็นคนเก่ง คนที่มีศักยภาพ ไม่หวังเงินทองใคร
หากไม่เจอคู่ที่ดีหรือเหมาะจริงๆยากที่จะลงเอย เพราะเขาเธอไม่ได้ขาดอะไรไม่ต้องการพึ่งใคร
คนรู้ใจก็หาไม่ง่าย เจอแล้วก็ยากที่จะสานต่อ ถ้าเขาไม่อิสระจริง
ไม่ง่าย สำหรับคนที่เก่ง ฉลาด พร้อม ที่จะมีแฟนมีคู่ที่ลงตัว
คนที่พร่อง ต้องการกำลังหนุน จึงมักไม่อยู่คนเดียว จะอยู่คนเดียวก็ต่อเมื่อไฟท์บังคับเท่านั้น เช่นกำลังหนุนก็ไม่รอด
กำลังหนุนมาเป็นอริเป็นศัตรูเสียเอง แบบนี้ขอสู้คนเดียวดีกว่า !
1 บันทึก
6
1
5
1
6
1
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย