18 ก.ค. 2022 เวลา 03:37 • ครอบครัว & เด็ก
หัวหมอแต่ไม่รอดคุก?
ความซื่อสัจย์สุจริต ในการทำงานหรือจะประกอบอาชีพใดๆก็ตามถือว่าเป็นหลักการณ์เบื้องต้นที่ควรยึดถือและปฎิบัติต่อกัน แต่เมื่อ
วันใดก็ตามคุณคิดฉ้อฉลไม่ซื่อสัจย์ต่ออาชีพของคุณเองนอกจากจะเสียโอกาสแล้วบางทีอาจจะต้องใชัชีวิตอยู่มนเรือนจำตลอดไปก็ได้
หมอความใจดี ขอยกคดีหนึ่งเพื่อเป็นอุทธาหรณ์สอนใจสำหรับผู้ที่คิดจะเป็น "คนหัวหมอ" โดยคดีมีอยู่ว่า นายหนึ่ง(นามสมมุติ)มีอาชีพขับรถบรรทุกรับจ้างขนส่งน้ำนมดิบ ซึ่งการปฎิบัติงานนั้นนายหนึ่งจะต้องนำรถบรรทุกเปล่ามาชั่งนำหนักก่อนที่จะไปบรรจุน้ำนมดิบ ซึ่งจะเป็นการปฎิบัติงานปกติของผู้รับจ้างทุกคน เพื่อให้ทราบน้ำหนักของบรรทุกก่อนที่บรรจุน้ำนมดิบและน้ำหนักหลังที่ได้บรรจุน้ำนมดิบไปแล้ว แน่นอนน้ำหนักของรถบรรทุกก่อนและหลังบรรจุน้ำนมดิบย่อมต้องมีความแตกต่างกัน
วันดีคืนดีดาวโจรโคจรเข้าสิงห์ร่างของนายหนึ่งทำให้คิดหาหนทางวิธีการที่จะนำน้ำนมดิบไป
ขายให้กับผู้ประกอบการที่รับซื้ออีกรายหนึ่ง
จึงได้วางแผนการขึ้นมา โดยนำน้ำเปล่าบรรจุ
ลงในถังพลาสติกลงในถังบรรจุ ก่อนที่จะนำรถบรรทุกเข้าชั่งน้ำหนัก ซึ่งทำให้รถบรรทุกมีน้ำหนักมากกว่าปกติหลังจากนั้น ก็ได้นำน้ำเปล่า
ที่อยู่ในถังทิ้งออกไป แล้วนำรถบรรทุกไปบรรจุน้ำนมดิบอีกครั้งแล้วเข้าชั่งน้ำหนักอีกครั้ง เพื่อเจตนานำน้ำนมดิบส่วนต่างไปจำหน่ายนั้นเอง
การกระทำของนายหนึ่ง ย่อมมีเจตนาทุจริตตั้งแต่แรก ตามกฎหมายถ่อว่าเป็นความผิดอาญาฐานลักทรัพย์โดยใช้กลอุบายกลอกลวง เพราะน้ำนมส่วนต่างที่เกินมานั้น ทางผู้เสียหายไม่ได้มีเจตนาที่จะส่งมอบให้น้ำนมดิบส่วนที่เกินให้กับนายหนึ่งไว้ในครอบครองแต่อย่างใด กรณีดังกล่าวจึงถือว่าเป็นการเอาไปซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นมีความผิดตามปอ.334 หากใครสนใจสามารถไปดูคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4251/2562
หมอความใจดีเจอคดีประเภทนี้ มามากพอสมควรไม่ว่าจะเป็นการขนถ่ายน้ำมัน สินค้าการเกษตร ถ่านหิน วัสดุก่อสร้อง หิน ทราย
เมื่อถูกดำเนินคดีแล้วส่วนใหญ่ นายจ้างให้ติดคุกสถานเดียวคนับสำหรับวันนี้หมอความใจดี ขอจบบทความทางกฎหมายไว้เพียงแค่นี้ ขอบคุณที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้นะครับ
#หมอความใจดี
ผู้สนับสนุน mello shop
โฆษณา