18 ก.ค. 2022 เวลา 09:19 • ปรัชญา
ที่จริงแล้ว เราไม่เคยล้มเหลว
แม้ว่าเราจะอยากให้ชีวิตไปถึงเป้าหมายแบบเหนื่อยน้อย ๆ
ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ถึงเป้าหมายเร็วนั้นอาจทำได้ แต่ถึงเป้าหมายง่าย ๆ นั้นไม่มี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเป้าหมายใหญ่แล้วล่ะก็ การลงมือทำคงไม่ใช่แค่แตะ ๆ หยุด ๆ
มันต้องเอาให้สุด และ ‘เล่นใหญ่’ ให้คู่ควรกับเป้าหมาย
ซึ่งนี่แหละ...เราจะได้เห็นอาการต่าง ๆ ของคนที่กำลังวิ่งสู่เป้าหมาย
.
.
บางคน...ออกตัวแรง เครื่องดับกลางทางแล้วไม่ซ่อม
บางคน...เดินไปกลัวไป แวะสนใจเรื่องของสุนัขข้างทาง สะดุ้งกับเสียงนกเสียงกา
บางคน...เปลี่ยนเส้นทางเอาดื้อ ๆ ไปหาเป้าหมายใหม่ (ซึ่งก็เสียเวลาไปสำรวจเส้นทางใหม่)
และอีกหลายอาการที่หลายคนตีความว่า ‘ล้มเหลว’
ทั้งที่จริงแล้วทั้งหมดเป็นเพียงเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งเราจะตีความยังไงก็ได้
แต่ที่แน่ ๆ ถ้าไม่เดินต่อ ไม่จดจ่อกับเป้าหมาย ก็ยากที่จะไปถึง
.
.
การให้ข้อจำกัดกับตัวเองมากเกินไป อาจไม่ใช่วิธีการที่ดี
เช่น ถ้าภายใน 21 วันไม่สามารถนอนตื่นเช้าเพื่อออกกำลังกายได้ ก็ล้มเลิกไปเถอะ เราคงไม่มีวันทำได้หรอก
.
.
คำว่า ภายในกี่วัน กี่เดือน กี่ปี นั้นเป็นแค่แนวทางซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นได้ ไม่ใช่ให้เราไปยึดติดตายตัว
วิธีที่จะมุ่งสู่เป้าหมายก็มีหลากหลายรูปแบบ เพื่อรองรับความแตกต่างของแต่ละบุคคล
หากเรามุ่งมั่นในเป้าหมายเดิมจริง ๆ มันไม่มีหรอกคำว่า ‘ล้มเหลว’
มีแค่ ‘ล้มเลิก’ ด้วยตัวเอง
เป้าหมายจะหายไปเมื่อเราไม่มองมัน
.
.
แล้วทำไมเราถึงไม่ให้ความยุติธรรมกับตัวเอง
หลายคนเมินหน้าใส่เป้าหมาย แต่กลับขยายเสียงหมาเห่า
ไปให้ค่ากับเสียงนกเสียงกา จนมันมาทำร้ายจิกตีเราให้ท้อถอย
.
.
อย่าปล่อยให้เป้าหมายของเราต้องน้อยใจ
เป้าหมายยังรอเราอยู่
แค่เราไม่หัวเรือไปทางอื่น
แม้ว่าจะเจออุปสรรค ก็ให้เปลี่ยนวิธีการ
ไม่ใช่เปลี่ยนเป้าหมาย
.
.
ขอแค่เราไม่ล้มเลิก มันจะไม่มีวันล้มเหลว
ลองทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง
ให้ค่ากับเป้าหมาย เมินใส่เสียงนกเสียงกา
ทำให้เต็มที่! อย่างน้อยเกิดมาชาตินี้ก็สมศักดิ์ศรีความเป็นคน!
ติดตามเนื้อหาดี ๆ ในรูปแบบคลิปวิดีโอได้ทางเฟซบุ๊กค่ะ
โฆษณา