19 ก.ค. 2022 เวลา 09:47 • กีฬา
Ultra Trail Nan 100, Nan, Thailand
(December 18th 2021, 63km, bib 1087, finished 9:34:42)
The Finish Line
ชื่อรายการ อัลตร้า เทรล น่าน 100
ระยะจริง 109 กม. ความชัน 6,710ม.
ระยะได้วิ่งจริง 63 กม. ความชัน unknown
ปี 2021 ปีที่2ของการระบาดโควิด สถานการณ์ต่างๆคลี่คลายขึ้น แต่ก็ยังไม่ใกล้เคียงกับคำว่าปกติ รายการนี้กำหนดเดิมจัดปลายเดือนตุลาคม แต่ก็ถูกเลื่อนมาจัดเดือนธันวาคม ข้อดีน่าจะเป็นเรื่องอากาศที่เย็นขึ้น เปียกน้อยลง ข้อเสียคือความวุ่นวายในการจองที่พัก การเดินทาง ฯลฯ และท้าทายที่สุดคือการซ้อม ที่ว่าจำกัดมากแล้วในยุคโควิด และต้องมาปวดหัวกับกำหนดการที่ไม่แน่นอนอีก
เดินทาง: ขับรถกันไปเองเพื่อความสบายใจ จากกรุงเทพ-ปัว 722กม. จะใช้เวลาประมาณ10ชม. แต่วันแรกพักที่ตัวเมืองน่านหนึ่งคืน เช้ารุ่งขึ้นถึงค่อยเดินทางต่อไปที่ปัว
เชคอิน: ก่อนจะไปที่จุดเชคอินรับบิบ new normalสำหรับรายการวิ่งช่วงโควิดคือทุกคนต้องเข้ารับกาATKก่อนจะเข้างาน ก็ตรงดิ่งไปที่ตรวจเลย แล้วค่อยไปรับบิบต่อ เชคอินที่พัก รีบทานรีบนอน
ออกตัว: ปัวเป็นเมืองเล็กๆ ถ้าใครพักที่นี่การมาที่จุดสตาร์ทนั้นใช้เวลาไม่มาก 15นาทีก็ถึง ขณะกำลังจะเอาถุงdrop bagไปฝาก ทางผู้จัดประกาศอะไรแว่วๆด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีนัก จับความได้ว่ามีความผิดพลาดทางเทคนิคที่ต้องร่นระยะ 109กม. และ 70กม. เหลือเพียง63กม. งงๆมึนๆ แต่ก็ไม่มีเวลาจะมาคิดอะไรมาก ใกล้ปล่อยตัวแล้ว มาถึงที่แล้ว จะให้วิ่งกี่กิโลก็ต้องวิ่ง สรุปให้ตัวเองเข้าใจง่ายๆคือระยะสั้นลง งั้นก็ออกตัวให้แรงกว่าปกติแล้วกัน
ครึ่งแรก: แม้ความมึนและความมืดยังปกคลุม แต่ก็พอจะกะๆได้ว่าออกตัวมาเร็ว มีกลุ่มนำหน้าอยู่ประมาณ10คน ในจำนวนนี้บอกไม่ได้เลยว่าใครเป็นใครและลงวิ่งระยะไหนบ้าง ที่สนใจตรงจุดนี้เพราะว่าให้ความสำคัญกับการวางตำแหน่งของตัวเอง ไม่ใช่เพื่อการแข่งขันกับใครแต่อย่างใด คือต้องการประมาณตัวว่าซ้อมมาเท่านี้ สภาพอย่างนี้ เราควรใช้paceอะไรและอยู่ตรงไหนของกลุ่มนักวิ่ง ถ้านำหน้าไปเร็วไปจะได้ปรับลด อะไรทำนองนั้น
ครึ่งหลัง: เวลาผ่านไปเท่าไหร่ ระยะห่างระหว่างนักวิ่งก็จะเริ่มชัดขึ้น การผลัดกันแซงผลัดกันนำเริ่มน้อยลง เสถียรมากขึ้น และน้องๆที่จุดพักให้น้ำก็จะบอกว่าเราลำดับที่เท่าไหร่ ส่วนมากจะเข้ามาด้วยกัน2-3คน เค้าก็จะบอกว่าใครออกไปก็คนแรก คนอื่นก็เรียงตามไป ครึ่งหลังนี้มีพี่นะมาผลัดกันนำผลัดกันตามแก้เหงาได้ดีเลย ได้คุยโน่นนี่ก็ทำให้เวลาผ่านไปเร็วขึ้น อีกคนคือน้องบิ๊กที่ลงระยะ50กิโล ก็ได้ทักทายทำความรู้จักกัน สภาพโดยรวมช่วงนี้คือเริ่มล้าๆเกร็งๆเพราะออกตัวเร็ว ลงเนินมีเจ็บเพราะไม่แข็งแรง ก็ปัญหาเดิมๆทั้งนั้น
เส้นชัย: พอเริ่มเข้าสู่ตัวเมืองที่เป็นทางราบถนน พี่นะก็หายวับไปจนไม่อยู่ในสายตาแล้ว มองไปข้างหลังก็ไม่มีใครในที่ลงระยะเดียวกันไล่มา แม้จะมีแรงฮึดสุดท้าย แต่ก็ไม่ได้มีแรงจูงใจใดๆ เข้าเส้นชัยมาแบบหมดกำลังพอดีๆ แสงยามบ่ายยังสว่างจ้า แฮปปี้เพราะจะได้พักเต็มอิ่มกันไปเลย
ถึงเส้นชัยก็ได้เจอพี่นะนั่งพักอยู่ ทักทายกันอีกรอบ เจอพี่อ้วนและน้องแก้มที่ลงระยะ50กม. ดีใจที่ได้เจอกัน จริงๆแอบหวังว่าจะได้วิ่งด้วยกัน แต่ไล่ไม่ทันจริงๆ พักทานข้าวทานน้ำแล้วก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับพี่นะและน้องบิ๊ก ทักทายอีตาฝาหรั่งที่บาดเจ็บเข้าตามมา ระหว่างทางก็ผลัดกันนำผลัดกันแซงสนุกดี ปีละหนเข้าสังคมทีนึงก็สนุกดี
สรุป: ได้คุยหลังไมล์กับทางผู้จัดถึงปัญหาหน้างานที่ต้องลดระยะ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นดราม่าสำหรับคนส่วนมาก ส่วนตัวที่ติดต่อไปเพราะอยากให้ทางผู้จัดรับผิดชอบด้วยการออกมาอธิบายให้ชัดๆถึงปัญหาและสาเหตุที่ต้องลดระยะ ทางผู้จัดยินดีอย่างมากที่จะอธิบายเป็นการส่วนตัว แต่บอกว่ามันมีความยากลำบากที่ไม่สามารถประกาศออกมาอย่างเป็นทางการได้ ซึ่งพอได้ยินเท่านี้ผมก็บอกว่าพอจะเข้าใจ เอาใจช่วยทีมงานและขอให้กลับมาจัดรายการนี้ได้อย่างราบรื่นครั้งต่อไป
ส่วนตัวผมมาน่านครั้งแรก และชอบรายการนี้มากกว่ารายการที่เคยวิ่งที่เชียงใหม่ สำคัญเลยคือเส้นทางไม่รกไม่เละ วิวและบรรยากาศดี การจัดการเรียบง่ายแต่ครบ มีประสิทธิภาพ ไม่เว่อร์ ถูกจริต ครั้งนี้เป็นการสมัครระยะ100กม.ครั้งที่3 แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้เป็นfinisherของระยะนี้ซะที แน่นอนว่าปีหน้าต้องมาลงระยะ100ให้ได้
โฆษณา