19 ก.ค. 2022 เวลา 13:00 • ข่าว
ท็อป 3 ฆาตกรที่ฆ่าเหยื่อมากที่สุดในโลก
กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายกันไปนานหลายวัน วันนี้ทางแอดมินก็กลับมาพร้อมกับการบอกเล่าเรื่องราวของฆาตกรใจโฉดที่พรากชีวิตผู้คนไปอย่างมากมายกันอีกเช่นเคย
โดยวันนี้แอดมินจะพามารู้จักกับ 3 อันดับ ฆาตกรที่พรากชีวิตเหยื่อไปมากที่สุดในโลก
1. Thug Behram เกิดในปี พ.ศ. 2308 เขารับสารภาพว่าได้ลงมือสังหารคนไปมากกว่า 931 ราย (เขาถูกบันทึกชื่ออยู่ใน Guinness Book of World Records อีกด้วย) ก่อนที่เขาจะถูกจับโดยทหารชาวอังกฤษ บทสรุปของเขานั้นก็คือการถูกแขวนคอ ซึ่งเขาจะเลือกเหยื่อที่เป็นพ่อค้า ผู้แสวงบุญ และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังประเทศอินเดีย
ตามคำบอกเล่านั้นว่ากันว่า Behram นั้นเป็นเด็กขี้อายที่ไม่ชอบยุ่งหรือสุงสิงกับคนอื่น จนกระทั่งเขาได้พบกับอันธพาลที่เลื่องชื่อเข้า หลังจากนั้น Behram ในวัย 10 ขวบก็เริ่มสังหารและสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คน และเมื่อเขาอายุ 25 ปี เขาก็ได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งการสังหารอย่างแท้จริง จากบันทึกนั้นระบุว่า Behram ฆ่าเหยื่อโดยการใช้ผ้าเช็ดสีเหลืองของเขารัดคอเหยื่อ ไม่ก็บีบคอเหยื่อจนตาย
2. Erzsébet Báthory เกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2,103 ในเมืองญีร์บาโตร์ ประเทศฮังการี แอร์เฌแบ็ต บาโตรีนั้นเป็นคนในตระกูลบาโตรีซึ่งมีความเกี่ยวดองกับพระมหากษัตริย์ฮังการีในสมัยนั้น
เมื่อแอร์เฌแบ็ต บาโตรีอายุได้ 10 ปี เธอก็หมั้นหมายกับแฟแร็นตส์ นาดาสดี บุตรชายจากตระกูลชั้นสูง จากหมั้นหมายเธอก็ได้แต่งงานกันในปี พ.ศ. 2,118 ต่อมาเมื่อสามีเธอนำทัพไปทำสงครามกับออตโตมัน เธอก็ได้ทำหน้าที่ดูแลทรัพย์สินและหมู่บ้านรอบ ๆ ปราสาทที่เธอพักอยู่
หลังแฟแร็นตส์สามีของเธิเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2,147 เริ่มมีข่าวลือความโหดร้ายของเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ จนจักรพรรดิมัททีอัสรับสั่งให้ขุนนางฮังการีไปสืบหาความจริง มีการสอบพยานกว่า 300 ปากที่ระบุว่าเธอล่อลวง ลักพา ตัว ทรมานและฆ่าเด็กสาวภายในหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังพบหลักฐานหลายอย่าง เช่น ศพ ชิ้นส่วนมนุษย์ และเด็กสาวที่พบว่าถูกขังขณะเธอถูกจับ
เธอถูกจับพร้อมกับผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 4 คนข้อหาทรมานและฆาตกรรมเด็กสาวมากกว่าร้อยคนระหว่าง พ.ศ. 2133 ถึง 2153 จำนวนเหยื่อของเธอนั้นอยู่ที่ 650 ราย (เธอถูกบันทึกชื่ออยู่ใน Guinness Book of World Recordsในฐานะฆาตกรหญิงที่โหดที่สุดจากจำนวนเหยื่อของเธอเช่นกัน) แต่จำนวนนี้มาจากการกล่าวอ้างของสาวรับใช้คนหนึ่ง ถึงแม้จะมีหลักฐานเอาผิดแอร์เฌแบ็ต แต่เธอกลับรอดพ้นโทษประหารชีวิต และถูกคุมขังในปราสาทแซย์แตจนกระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2,157
3. Pedro López เกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2491 เขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวโคลอมเบีย เขาถูกจับกุมเนื่องจากเขาได้ฆ่าเด็กผู้หญิงไปกว่า 110 คน และยังได้อ้างอีกว่าได้ข่มขืนและฆ่าเด็กผู้หญิงมากกว่า 300 คนในโคลอมเบีย เปรูและเอกวาดอร์
ว่ากันว่าแม่ของ Pedro López นั้นเป็นโสเภณี เขาจึงได้เห็นการค้าประเวณีมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ด้วยเหตุนี้นั่นจึงเป็นผลกระทบทางจิตใจที่สะสมมาตั้งแต่ยังเด็ก
ต่อมาแม่ของเขาจับได้ว่าเขาพยายามลวนลามน้องสาวของเขา เธอจึงได้ไล่เขาออกจากบ้าน Pedro López วัย 8 ขวบได้ หนีไปยังโบโกตาเมืองหลวงของโคลอมเบีย หลังจากนั้นไม่นานเขาได้บอกว่าเขาถูกชายคนหนึ่งลักพาตัวไปและข่มขืน
ตอนอายุ 12 ปี เขาถูกครอบครัวชาวต่างชาติในสหรัฐอเมริการับตัวไปเลี้ยงและเข้าเรียนในโรงเรียนสำหรับเด็กกำพร้า เขาหนีไปหลังจากอาศัยอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสองปี บ้างก็ว่าที่เขาหนีไปเพราะเขาถูกครูผู้ชายลวนลาม แต่บ้างก็ว่าเขาหนีไปกับครู
โดยอายุ 18 โลเปซได้รับการทำมาหากินโดยการขโมยรถยนต์และขายให้ท้องถิ่นร้านค้าลับ หลังจากถูกจับกุมในข้อหาโจรกรรมรถ เขาถูกข่มขืนอย่างโหดเหี้ยมในคุก ต่อมาเขาก็ได้ตามล่าคนข่มขืนเขาและฆ่า หลังจากเขาถูกปล่อยตัวเขาย้ายไปที่เปรู และเริ่มฆาตกรรมเด็กสาว เขาอ้างว่าในปี 2,521 เขาฆ่าเด็กผู้หญิงไปกว่า 100 คน อย่างไรก็ตามเขาถูกจับกุมแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวเขาไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาเขากลับมาที่โคลอมเบียและได้ย้ายไปเอกวาดอร์ในเวลาต่อมา ในช่วงเวลานี้เขาอ้างว่าเขาฆ่าเด็กผู้หญิงสามคนต่อสัปดาห์
ภายหลังเขาถูกจับกุมตัว และเขาได้สารภาพว่าได้ฆ่าคนโดยการบีบคอไปมากกว่า 300 ราย แต่เขานั้นกลับไม่ถูกลงโทษประหารชีวิต ซึ่งหลังจากรับโทษได้ไม่นานนักเขาก็ได้รับการปล่อยตัว เนื่องด้วยเขาเป็นนักโทษชั้นดี
ปัจจุบันไม่มีใครทราบว่า Pedro López อาศัยอยู่ที่ใดหรือเป็นอย่างไรในตอนนี้ รู้เพียงแต่เขานั้นยังมีชีวิตอยู่
โฆษณา