ขอเกริ่นก่อนว่า เมื่อปีที่แล้ว Meta ได้แบ่งแยกธุรกิจเป็นสองส่วนคือ Family of Apps หรือแอปในเครือ อย่าง Facebook, Instagram, Messenger และ อีกส่วนคือ Reality Labs ที่จะเน้นเรื่องของการสร้างโซเชียลมีเดียสำหรับอนาคตบน Metaverse
โดยปีนี้ทาง Zuckerberg บอกว่าเป้าหมายหลักคือ การก้าวไปเป็น “Discovery engine” ของโลก ซึ่งก็น่าจะคล้ายๆกับ Google เพียงแค่ว่าจะสามารถหาข้อมูลได้จากแอปในเครือของ Meta เท่านั้น
โดยทาง Meta วางแผนที่จะใช้โมเดลเดียวกันในการคัดเลือกเนื้อหาเพื่อไปแสดงบนแอปในเครือ ด้วยหลักการ “Don’t Think, We’ll Do That For You.” ไม่ต้องคิดเราทำให้เอง นั่นจึงทำให้เราเห็นว่าทาง Meta เองได้ลงทุนอย่างมหาศาลใน AI และ machine learning
ดังนั้นสำหรับฝั่งของแบรนด์ หรือธุรกิจต่าง ๆ อาจต้องเตรียมตัวรับมือเรียนรู้เรื่องการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มนี้อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อที่จะทำให้ performance ในการยิงโฆษณานั้นออกมาดีและคุ้มเงินที่สุด ท่ามกลางระบบของ Meta เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ซึ่งใครที่มีความกังวลว่าจะหมุนตามโลกธุรกิจไม่ทัน G-Able พร้อมเป็น Game Changer ให้กับคุณ