20 ก.ค. 2022 เวลา 08:28 • หุ้น & เศรษฐกิจ
## TPIPP ##
บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)
หุ้น TPIPP บ. ทีพีไอโพลีน เพาเวอร์ เป็นบ. ลูกของเครือ ทีพีไอโพลีน ที่แยกออกมาทำส่วนของโรงไฟฟ้า ธุรกิจหลักๆ เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้งของโรงปูน TPIPL และโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิง RDF หรือก็คือขยะนั้นแหละ อีกอันคือเอาธุรกิจมาทำเป็นเชื้อเพลิง RDF ขายให้กับ บ.แม่ TPIPL เพื่อให้เอาไปใช้ผลิตไฟฟ้า ทดแทนการใช้ถ่านหิน
เพิ่งเข้าตลาดเมื่อปี 2560 ที่ราคา IPO 7 บาท หลังจากนั้นก็ราคาสาละวันเตี้ยลงมาเรื่อยๆ จนล่าสุดก็วิ่งอยู่แถว 3.5 - 3.7 บาท ครึ่งเดียวของตอนเขา IPO ราคาลงมาเยอะแล้ว แต่ก็ทำให้น่าสนใจเพราะปันผลสูงน่าสนใจ 5-9 % ต่อปี ถือว่าได้ดีเลยแหละ
✍️ Good รายได้ กำไร เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากปี 60 - 63 รายได้โต100 % อ่านรายงานแบบเร็วๆ มาจากการขยายกำลังการผลิต และมีโครงการใหม่ทำให้ขายไฟฟ้าได้มากขึ้น และเขาสามารถขายให้ บ. แม่ที่โพลีนได้ด้วย สอดคล้องกับกำไร ก็โตขึ่นเรื่อยๆ เหมือนกัน แต่สัดส่วนอาจจะไม่เป๊ะๆ
แต่ส่วนของโรงไฟฟ้า ต้องระวังว่าตัวเลขมันจะหลอกตาเนื่องจากในช่วงแรกของการขายไฟจะมี adder เพิ่มมาด้วย ทำให้หุ้นกลุ่มนี้มีความเสี่ยงเรื่อง adder จะค่อยทะยอยหมดไปเรื่อยๆ ซึ่งต้องไปดูว่าแล้วยังไงต่อ ? ซึ่งก็จะเริ่มทะยอยหมดไปแล้ว ทำให้รายได้ ปี 64 นี้เทียบกับปี 63 เริ่มไม่ค่อยจะโตแล้ว
จากรายงานปี 63 มีระบุไว้ว่า หลังปี 66 บ.จะสูญเสีย EBITDA จาก Adder ไปประมาณ 2000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่ 5,789 ล้านบาท ก็หายไปราว 1/3
ถ้าตีว่าไม่มีการเติบโตของกำไรเพิ่มแล้ว หัก adder ค่าเสื่อมไปก็จะเหลือกำไรสุทธิที่ราว 2,500 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นที่ 0.3 บาท จากราคาหุ้นที่ 4 บาทกว่า ก็เป็นกำไรที่ประมาณ 7% แต่ก็แล้วแต่ว่าจะปันผลกี่ % อีกทีนะครับ
กำไรที่ได้มาในแต่ละปี ก็เห็นว่ากันเอาส่วนหนึ่งไปลงทุนต่อ ก็น่าจะสร้างผลตอบแทนได้ต่อเนื่องไปอีก มีโครงการโรงไฟฟ้าขยะที่จะรัฐเปิดเพิ่ม ทางบ.ก็มีแผนจะไปลงทุนเพิ่มด้วย
มีโครงการใหม่แตกออกมาจากธุรกิจโรงไฟฟ้า คือทำนิคมอุตสาหกรรมที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ที่ก็ต้องใช้เงินลงทุนเยอะอยู่เหมือนกัน มีลงทุนซื้อที่ดินไปแล้ว แต่ความคืบหน้ายังต้องดูกระแสของท้องถิ่นก่อนว่าจะยอมรับ หรือต่อต้านกันขนาดไหน
✍️ Owner มีเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นกลุ่มเลี่ยวไพรัตน์ ควบคุมเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ก็มีข้อดีที่ถ้ามันดีก็จะก้าวกระโดดได้เลย ตอนนี้ยังมีผู้อาวุโสอยู่ ก็ยังพอควบคุมได้ แต่ถ้าไม่มีผู้นำหรือ Leader ดีๆ แล้วก็น่าสนใจว่าธุรกิจจะเป็นยังไงต่อไป
✍️ Professional เนื่องจากมีกลุ่มเลี่ยวไพรัตน์ควบคุมได้น่าจะทั้งหมด มันก็เลยจะออกคล้ายธุรกิจครอบครัวอยู่มากเลย กรรมการ 15 คนก็เป็นคนในครอบครัวแล้ว 10 คน ซึ่งทำให้มีคำถามเรื่องความสามารถ ลองไล่ดูประวัติ การศึกษา บางคนจบสาขาอะไร ลุงกบอ่านแล้วยังงงๆ อยู่ว่าจะเชี่ยวชาญด้านไหน หาข้อมูลในสื่อก็ไม่ค่อยมี เป็นส่วนที่ไม่ชอบที่สุดแล้วของหุ้นตัวนี้
จะมีก็แต่ข้อมูลของคุณ ภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ ที่ขยันให้ข้อมูลสื่อบ่อยหน่อย ดูแล้วก็เป็นคนรุ่นใหม่ ตั้งใจดี เข้าใจว่าน่าจะวางตัวให้มาดูแลตรงนี้เป็นหลัก
ลองเทียบกับหุ้นของครอบครัวอื่นที่ลุงว่าเจ๋งเช่น CP เขาก็จะเอาเฉพาะคนที่มีความสามารถมาบริหาร ถ้าคนในครอบครัวไม่เก่งหรือมือไม่ถึง ก็เอาคนนอกที่เป็นมืออาชีพมาทำแทน คนในก็ถือหุ้นรับผลประโยชน์กันไปดีกว่าไปนั่งกินตำแหน่งแล้วทำงานไม่ได้
✍️ Information มีข้อมูลให้เข้าถึงเยอะดี เข้าใจว่า คุณภัคพล ที่มาดูแล เขาก็เป็นคนรุ่นใหม่ ออกสื่อบ่อยได้ ไม่ได้กลัวการให้ข้อมูล Oppday ก็เข้าร่วมเรื่อยๆ
✍️ Return ในส่วนของปันผล ย้อนหลังบอกได้ว่าดีเลย แต่อนาคตมีคำถามกับผลงานหลัง Adder หมด และราคาที่ไม่รู้ว่าจะขึ้นไปตอบรับกำไรที่จะทำได้ตอนนั้น มันจะขึ้นคืนมาได้ไหม และเมื่อไร
✍️ Enjoy สำหรับลุง เป็นหุ้นที่น่าสนใจ องค์ประกอบดี - ยกเว้นบอร์ด ลุงกบเข้าใจเอาเองว่าน่าจะทำเป็นธุรกิจที่แตกออกมาให้ครอบครัวเลี่ยวไพรัตน์รุ่น 3 ทำเป็นหลัก โดยมีคนเก่าๆ เป็นพี่เลี้ยง ทำธุรกิจโรงไฟฟ้าขายให้การไฟฟ้า ความเสี่ยงก็ต่ำอยู่แล้ว ขายให้บ.แม่ก็ได้ด้วย
ลุงกบชอบที่ใช้ขยะเป็นวัตถุดิบด้วย เพราะก็ถือว่าช่วยกำจัดขยะไปในตัว ซึ่งต่อไปขยะมันก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นๆทุกวัน ทั้งปัจจุบันยังไม่ได้รวมรายได้ส่วนของค่ารับกำจัดขยะ และค่าขายคาร์บอนเครดิตอีกซึ่งน่าจะยังมีโอกาสให้เติบโต แต่ที่ต้องระวังคือส่วนของนิคมที่ภาคใต้ว่าจะทำได้ดี กำไรขาดทุนได้ขนาดไหน
ในส่วนของธุรกิจแล้ว สำหรับลุงแล้วไม่น่าห่วงเลย แต่ที่น่าห่วงคือเรื่องครอบครัวมากกว่าที่ทำให้ยังกล้าๆกลัวๆอยู่
ที่ต้องตามดู
- รายได้หลังหมด Adder
- นิคม จะนะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา