Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
รู้ไว้ก็ดี
•
ติดตาม
21 ก.ค. 2022 เวลา 07:23 • สิ่งแวดล้อม
สัตว์ป่าที่อันตรายที่สุดแห่งป่าแอมะซอน
ป่าดิบชื้นแอมะซอน เป็นป่าใบกว้างชื้นซึ่งป่าอะเมซอนผลิตออกซิเจนให้กับโลกประมาณ 20% และครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของแอ่งแอมะซอนในทวีปอเมริกาใต้ แอ่งนี้กินพื้นที่ 7 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งป่าดิบชื้นแอมะซอนกินพื้นที่ไป 5.5 ล้านตารางกิโลเมตร ภูมิภาคนี้รวมดินแดนที่เป็นของ 9 ประเทศ
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ราวร้อยละ 60 อยู่ในประเทศบราซิล รองลงมาคือประเทศเปรู ร้อยละ 13 และประเทศโคลอมเบียร้อยละ10 และมีพื้นที่เล็กน้อยในประเทศเวเนซุเอลา, ประเทศเอกวาดอร์, ประเทศโบลิเวีย, ประเทศกายอานา, ประเทศซูรินาม, และเฟรนช์เกียนา ป่าแอมะซอนเป็นเนื้อที่กว่าครึ่งของป่าดิบชื้นที่ยังเหลืออยู่บนโลก[1] และเป็นป่าดิบชื้นเขตร้อนขนาดใหญ่ที่สุดและมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก มีต้นไม้ประมาณ 390 พันล้านต้นและมีพันธุ์ไม้ประมาณ 16,000 ชนิด
และวันนี้ครับ ผมจะพาทุกคนมารู้จักกับสัตว์ป่าที่อันตรายที่สุดแห่งป่าแอมะซอน
1. ปลาไหลไฟฟ้า (Electric Eel)
ปลาไหลไฟฟ้ามีกระแสไฟประมาณ 500 โวลท์ ลักษณะของปลาไหลไฟฟ้าจะมีลำตัวที่ใหญ่กว่าปลาไหลทั่วไป ดวงตาของมันจะมีขนาดที่เล็กมาก และสีของตัวมัน จะมีสีน้ำตาลอมเขียวเข้ม ใต้ท้องจะมีสีเหลือง และจะมีขนาดหัวที่ใหญ่กว่าลำตัว ส่วนครีบท้องจะมีครีบยาวตั้งแต่ส่วนอกไปจนถึงหาง โดยปลาไหลไฟฟ้าจะใช้เซลล์พิเศษ มาสร้างประจุไฟฟ้า โดยจะอยู่ตั้งแต่โคนหางจนถึงปลายหางที่สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งมันใช้กระแสไฟฟ้านี้ในการป้องกันตัวและการหาอาหาร
พบอาศัยอยู่ทั่วไปในลุ่มน้ำอะเมซอนและโอริโนโค ในทวีปอเมริกาใต้
เป็นปลาที่ไม่ได้ใช้บริโภคกันในท้องถิ่น เนื่องจากอันตรายในการถูกช็อต ซึ่งมีรายงานการที่มีมนุษย์เสียชีวิตมาแล้วหลายรายจากการปล่อยไฟฟ้าของปลาไหลไฟฟ้า แต่ก็สามารถบริโภคได้เมื่อปลาไหลไฟฟ้าถูกฆ่าตายแล้วแตกต่างจากปลาที่มีพิษแม้ฆ่าตายแล้วพิษก็ยังอยู่
ในนิทานพื้นบ้านของชาวพื้นเมืองอเมริกาใต้ เล่าว่า ชนเผ่านักรบโบราณลืมปล่อยสายฟ้าลงบนตัวปลาจึงเกิดเป็นปลาไหลไฟฟ้า แต่นิยมเลี้ยงเป็นปลาตู้ สำหรับผู้ที่นิยมเลี้ยงสัตว์แปลก ๆ และนิยมชอบโชว์ตามพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำต่าง ๆ ทั่วโลก โดยมักมีหลอดไฟแสดงกระแสไฟฟ้าอยู่หน้าตู้ด้วย
2. แมงมุมยักษ์ทาแรนทูล่า (Tarantula)
Tarantula
แมงมุมยักษ์ทาแรนทูล่า พันธุ์กินนกโกไลแอธ ที่มีสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมันมีพิษ แต่พิษของมันไม่ค่อยจะรุนแรงสักเท่าไร ตัวของมันยาว 90 เซนติมเตร ส่วนขาของมันยาวถึง 25 เซนติเมตร น้ำหนักตัวประมาณ 100 กิโลกรัม อาหารที่มันกิน คือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และแมลงต่าง ๆ เช่น งู จิ้งจก กิ้งก่า และ นก เราสามารถพบเจ้าแมงมุมสายพันธุ์นี้ได้ในพื้นที่ที่มีอากาศดิบชื้นในป่าแอมะซอน แมงมุมชนิดนี้จะออกหากินในช่วงเวลากลางคืน
ส่วนประเภทที่อาศัยอยู่บนพื้นดินจะขุดดินเป็นรูลึกประมาณ 30-45 เซนติเมตร หรือเสาะแสวงหาโพรง ภายในรูมีใยฉาบอยู่โดยรอบเพื่อป้องกันดินรอบๆพังทลายลงมา ซึ่งใยรอบๆปากรูนี้จะไม่มีความเหนียวหรือเหมาะแก่การจับเหยื่อเลย แต่มีไว้เพื่อป้องกันการพังทลายของรูมากกว่า และช่วยป้องกันมิให้มีสัตว์หรือสิ่งใด ๆ มารบกวน ภายนอกของรูก็มักมีใยอยู่บริเวณรอบ ๆ ด้วย
บางชนิดจะสร้างใยจนล้นออกมานอกบริเวณปากรู และปากรูมักจะสะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอ หากใยขาดก็จะซ่อมแซมใหม่ทันที โดยปกติแล้ว ทารันทูล่าเป็นแมงมุมที่รักความสะอาด หากมีเศษชิ้นส่วนต่าง ๆ ตกลงไปในรู หรือเศษอาหารที่กินเหลือ ก็จะคาบมาทิ้งไว้ข้างนอกทันที
3. มดกระสุน (Bullet ant)
Bullet ant
Bullet ant (Paraponera clavata) ชื่อของมันแปลตรงตัวว่า ‘มดกระสุน’ ซึ่งการที่มันได้ชื่อมาแบบนี้เพราะมันคือแมลงที่ได้ติดยศว่า “ต่อยเจ็บที่สุดในโลก” (เพราะมันมีเหล็กใน) ด้วยความสามารถในการต่อยเจ็บราวกับถูกกระสุนปืนยิง และความเจ็บปวดของมันนั้นจะไม่ยอมจากเราไป ปล่อยให้เราทนทุกข์ทรมานอยู่ จนมันได้รับชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “Hormiga Veinticuatro” แปลว่า 24 hours ant
มดสายพันธุ์นี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นมดยักษ์ มีขนาดตัวที่ใหญ่กว่ามดแดงถึง 4 เท่า ตัวของมันยาวตั้งแต่ 18 - 20 มิลลิเมตร ซึ่งมดเป็นสัตว์ที่ขยัน
อาหารของมดสายพันธุ์นี้ คือ ผีเสื้อ และแมลงปอ
พิษของ Bullet ant ไม่สามารถฆ่าคนได้ แต่กลับให้ความทรมานที่ลืมไม่ลงชั่วชีวิตมา แต่ก็ใช่ว่ามันจะเป็นสัตว์ที่ให้แต่ผลเสียกับเรานะ ในพิษของ Bullet ant นั้นมีสารชนิดหนึ่งปนอยู่ด้วย นั่นคือ poneratoxin ซึ่งถ้าแยกออกมาใช้เปล่าๆมีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหดตัวเป็นเวลานาน และบล็อกระบบประสาท ซึ่งตอนนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังหาทางประยุกต์ไปใช้ในการแพทย์อยู่
4. ปลาปิรันย่าแดง (Red piranha)
Red piranha
ปลาปิรันยาแดง หรือ ปลาปิรันยาท้องแดง (Red piranha, Red-bellied piranha) จัดเป็นปลาปิรันยาที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดี อยู่ในวงศ์ปลาคาราซิน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pygocentrus nattereri กรามล่างยื่นยาวออกมาเห็นได้ชัด ภายในปากมีฟันแหลมคม เกล็ดมีขนาดเล็กมีสีแดงอมชมพูแวววาวดูสวยงามเหมือนกากเพชร
มีขนาดโตเต็มที่ประมาณ 33 เซนติเมตร หนักราว 3.5 กิโลกรัม ปลาปิรันยาแดงมีถิ่นกำเนิดที่ลุ่มแม่น้ำอเมซอน บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิลและปารากวัย มีพฤติกรรมอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ ว่ายน้ำและล่าเหยื่อด้วยความรวดเร็วและดุดัน จึงขึ้นชื่อว่าเป็นปลาที่ดุร้าย สามารถจู่โจมสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ แต่โดยมากหากจะโจมตีสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่าแล้ว สัตว์ตัวนั้นต้องได้รับบาดเจ็บและอ่อนแออยู่แล้ว
1
ในวัยอ่อน จะมีจุดกลมสีแดงกระจายอยู่ทั่วตัว และจุดเหล่านั้นจะเล็กลงเมื่อปลาโตขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ ปลาตัวเมียวางไข่ได้ทีละ 6,000 ฟอง และเป็นปลาที่มีความอดทนมาก สามารถมีชีวิตอยู่บนบกที่ไม่มีน้ำได้นานถึง 2 ชั่วโมง และสามารถทนอยู่ในน้ำที่มีอุณหภูมิต่ำได้ถึง 50 องศาฟาเรนไฮต์
แม้จะขึ้นชื่อในเรื่องความดุร้าย แต่ที่จริงแล้ว ปลาปิรันยาแดงเป็นปลาที่ขี้ตกใจมาก จึงต้องอยู่รวมเป็นฝูงใหญ่เพื่อที่จะโจมตีเหยื่อได้ เป็นปลาที่คนพื้นเมืองนิยมกินเป็นอาหาร และตกเป็นเหยื่อของสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่า หลายประเทศได้มีกฎหมายห้ามนำเข้าปลาที่ยังมีชีวิตหรือนำมาเลี้ยงในประเทศเพราะเกรงว่าอาจจะหลุดลงไปแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ประเทศไทย เป็นต้น
แต่ในบางประเทศอนุญาตให้เลี้ยงได้ เช่น ประเทศญี่ปุ่น แต่กระนั้นก็มียังมีลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายและเลี้ยงอยู่ ซึ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่ที่เห็น ร้านอาหารภัตตาคารหรูในประเทศไทย มีเมนู ปลาปิรันยาแดง เกิดจากการนำเข้า มาในรูปแบบอาหารแช่แข็ง ปลาปิรันยาแดงแช่แข็ง ซึ่งไม่ใช่ปลาที่ยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นจึงไม่ผิดกฎหมายไทย เป็นต้น
5. จระเข้ไคย์แมน (Caiman crocodilus)
Caiman crocodilus
จระเข้ไคย์แมน เป็นสัตว์เลื้อยคลานในอันดับจระเข้ในวงศ์ย่อย Caimaninae ในวงศ์ Alligatoridae พบกระจายพันธุ์เฉพาะในทวีปอเมริกาใต้ ตั้งแต่ตอนกลางของเม็กซิโกไปจนถึงเอกวาดอร์ และทางตะวันออกของเทือกเขาแอนดีสไปจนถึงอุรุกวัย, ปารากวัย และทางตอนเหนือของอาร์เจนตินา
เคแมน มีขนาดที่เล็กกว่าแอลลิเกเตอร์ มีกระดูกฮัยออยด์เป็นชิ้นกว้าง ช่องเปิดจมูกมีช่องเดียวขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำน้ำที่มีกระแสน้ำไม่แรง หลากหลายลักษณะ วางไข่บนกองดินและใช้หางปัดกวาดพรรณพืชต่าง ๆ มากองรวมกัน บางชนิดใช้ความร้อนจากแสงแดดหรือความร้อนจากการเน่าสลายของพรรณพืชสำหรับการฟักไข่
ขนาดเล็กที่สุด มีขนาดโตเต็มที่ 1.7 เมตร ขนาดใหญ่ที่สุดโตเต็มที่ได้ 2-5 เมตร ในสกุลที่สูญพันธุ์ไปแล้ว Purussaurus มีความยาวได้ถึง 12 เมตร และ Mourasuchus ซึ่งมีขนาดใหญ่เหมือนกัน มีจมูกกว้างเหมือนเป็ด
6. ปลาแคนดิรู
ปลาไม้จิ้มฟัน หรือ ปลาแวมไพร์ นั้นหมายความว่าปลาแคนดิรู มันมีรูปร่งเหมือนไม้จิ้มฟัน และชอบดูดเลือดด้วย จริงๆ มันเป็นเหมือนปรสิต หรือกาฝากที่คอยอาศัยดูดเลือดสัตว์อื่น เป็นปลาที่พบได้ในลุ่มน้ำอเมซอนที่มันถูกพบในประเทศโบลิเวีย, บราซิล, โคลอมเบีย, เอกวาดอร์ และเปรู
ปลาแคดิรูบางสายพันธุ์มีความยาวมากถึง 16 นิ้ว แต่นั้นคือส่วนน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กเพียง 1 นิ้ว และยิ่งตัวเล็ก ก็ยิ่งมีอันตราย
โดยปกติแล้วพวกมันมักจะเกาะอยู่ตามเหงือกของปลาขนาดใหญ่ และกินเลือดเป็นอาหาร นอกจากนี้ยังชื่นชอบสารยูเรีย และตามกลิ่นไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อมนุษย์ทำการปัสสาวะลงในน้ำ ปลาเหล่านี้ก็จะเข้ามาในบริเวณดังกล่าวอย่างรวดเร็ว นี่จึงเป็นเหตุให้ผู้คนที่ลงไปในน้ำมักจะถูกปลาตัวเล็กจิ๋วนี้เข้ามาตามท่อปัสสาวะ จนกลายเป็นปัญหาใหญ่นั่นเอง
ด้วยการกินอาหารสุดโหดของมัน ที่มักจะมุดเข้าไปในตัวเหยื่อ โดยเฉพาะปลา หรือซากสัตว์ที่ผิวหนังไม่แข็งมากนัก และกัดกินจากภายในจนกว่าจะอิ่ม และแน่นอนว่า พวกมันไม่ได้มาเพียงตัวเดียว แต่ออกหาอาหารรวมกับเป็นกลุ่มใหญ่อีกด้วย
ขอบคุณครับ :)
ที่มา :
https://intrend.trueid.net/article/6-สัตว์ป่าแอมะซอนที่อันตรายที่สุด-trueidintrend_193106
https://songsaad.com/2022/05/02/ปลาแคนดิรู-ปลาน้อยนักมุ/
ความรู้รอบตัว
สัตว์ป่า
สิ่งแวดล้อม
1 บันทึก
1
4
1
1
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย