22 ก.ค. 2022 เวลา 02:38 • ธุรกิจ
วันนี้จะมารีวิวเปิดร้านกาแฟต้องทำอย่างไรไม่ให้เจ๊ง….การคำนวนธุรกิจร้านกาแฟอย่างละเอียดแบบโลกสวย 55
1
คนรุ่นใหม่ใครๆก็อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่อยากเป็นลูกน้องใครอยากเป็นเจ้านายตัวเอง ตอนนี้เห็นความฝันของหลายๆคนและเห็นคนจำนวนมากอยากเป็นเจ้าของร้านกาแฟ อาจจะเป็นเพราะลงทุนน้อย (หรือเปล่า?) หรือมองภายนอกอาชีพคนขายกาแฟหรือบาริสต้ามันดูชิค ชิค เท่ๆ คูลๆ หรือเพราะอะไรก็ตามยังไงก็ตามธุรกิจก็ตามร้านกาแฟก็เป็นหนึ่งในธุรกิจยอดนิยมที่สุดของคนสมัยนี้อย่างเป็นเอกฉันท์จากหลักฐานที่ร้านกาแฟแต่ละจังหวัดเปิดเยอะมาก
วันนี้ผมจะรีวิวเรื่องการลงทุนร้านกาแฟแบบละเอียดและวิธีการคำนวณเงินลงทุนและผลตอบแทนดูว่ามันน่าลงทุนทำหรือไม่นะครับ
บทความนี้ไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยในการทำธุรกิจร้านกาแฟนะครับ อ่านแล้วอย่าเชื่อครับ ลองพิจารณาด้วยตัวเองก่อนจะลงทุนนะครับ บางคนอาจจะไปได้ดี หรือไปได้ไม่นานก็ปิดตัว สุดท้ายมันอยู่ที่แต่ละบุคคลที่ทำการตลาด การปรับปรุง การจัดการ พัฒนารสชาติ การบริการครับ
1. สังเกตกันไหมครับ ทุกวันนี้ร้านกาแฟเปิดใหม่ในทุกๆจังหวัดเยอะมาก บางจังหวัดเฉพาะในเมืองเปิดเดือนละ 5–10 ร้าน ผมว่าทุกๆจังหวัดร้านกาแฟเปิดใหม่รวมทุกอำเภอน่าจะตก 10–30 ร้านต่อเดือน(รวมทุกขนาดไม่ว่าร้านเล็กหรือใหญ่ และซื้อแฟรนไชส์ร้านกาแฟดังๆนะครับ)
2. เคยได้ยินงานวิจัยกันไหมครับ ว่าสมมติร้านกาแฟเปิดใหม่ 10 ร้าน จะอยู่รอดเหลือ 1–3 ร้านในเวลา 2–3 ปี นั่นหมายถึง 7–9 ร้านเจ๊งต้องปิดตัว สังเกตแถวๆบ้านก็ได้ครับ
แต่ 1–3 ร้านที่รอดถ้าไปดูดีๆ ร้านนั้นมีทุนสำรอง หรือมีพ่อแม่พี่น้องคอย support ให้ จะรอดจริงๆแค่ 1 ร้านที่สร้างตัวเองจากไม่มีทุน (อาจจะไม่เหลือเก็บเยอะจนทำให้รวยแต่พอมีพอใช้ในแต่ละเดือน)
ทำไมเป็นเช่นนั้นลองมาวิเคราะห์กันดูนะครับ
3. สมมตินะครับ พ่อแม่เรามีตึกแถวหรือที่ดินหรือบ้านอะไรก็ได้ที่สามารถปรับปรุงทำเป็นร้านกาแฟได้ แต่เราไม่มีทุนเป็นเงินสด เราก็ต้องเอาตึก ที่ดิน ไปกู้มาลงทุน
สมมติลงทุนร้านกาแฟกลางๆละกันครับ ค่าเครื่องกาแฟ ค่าตกแต่งร้าน ค่าอะไรต่างๆนานา ตีคร่าวๆ 5 แสนบาท (เน้นว่าเป็นตัวเลขสมมตินะครับ ถ้าใครอยากคนวณละเอียดให้ไปสืบราคาทั้งหมดก่อนนะครับว่าตัวเลขเท่าไรกันแน่)
เราเอาตึกไปกู้ธนาคารเพื่อมาลงทุนจำนวนเงิน 5 แสน ผมลองเข้าไปคำนวนในธนาคารกรุงเทพ โดยที่กู้ 72 เดือน มีอัตรดอกเบี้ย 6% ต่อปี
สรุปแล้วต้องส่งธนาคารทั้งต้นทั้งดอกเบี้ยเดือนละ 8,286.44 บาท เป็นเวลา 6 ปี ดู link การคำนวนได้ที่ https://www.bangkokbank.com/th-TH/Form-Register/SME-Calculator
มาดูฝั่งค่าใช้จ่ายต่อเดือนหลังเปิดร้านกาแฟบ้างนะครับ
3.1. ค่าลูกน้อง สมมติลูกน้อง 2 คน ค่าจ้างเดือนละ 9000 บาทต่อคน 2 คนก็ 18000 บาท
3.2. ค่าน้ำค่าไฟ สมมติตกเดือนละ 5000 บาท
3.3. ค่าใช้จ่ายจิปาถะอีก เช่นภาษีสังคมหรืออะไรก็ตามที่มองไม่เห็นตกเดือนละ 2000 บาท
รวมค่าใช้จ่ายคร่าวๆ คือ 8286.44+18000+5000+2000 = 33286.44 บาทต่อเดือน
4. ลองหันมาคำนวนรายได้เราดีกว่า สมมติวันหนึ่งเราขายได้ 100 แก้ว ตกเฉลี่ยแก้วละ 50 บาท รายได้เราได้ 5000 บาท ต่อวัน คิดเป็น 150000 บาทต่อเดือน โดยที่เราไม่ปิดร้านเลยซักวัน
รายได้เรา 150000 บาท ตีเป็นกำไรง่ายๆว่า 40% ของรายได้ กำไรที่เราได้จะได้ 60000 บาท
กำไรทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย 60000–33286.44 = 26713.56 ที่เหลือเก็บ
จะเห็นได้ว่า เฮ้ยน่าทำจริง กำไรเดือนเดือนละสองหมื่นกว่า แต่มองให้ดีที่ต้องตีโจทย์ให้แตกนะครับ ไม่งั้นจะโดนหลอก
กำไรสองหมื่นกว่า คุณต้องขายได้เฉลี่ยวันละ 100 แก้วเป็นอย่างน้อยนะครับ เดือนนึงก็ 3000 แก้ว ข้อนี้คุณสามารถทำได้หรือไม่ อันนี้เราต้องไปตีโจทย์ให้ดีว่าทำเลเราหมาะไหม ใกล้แหล่งชุมชน โรงเรียน โรงพยาบาล โรงงาน เป็นต้น และคู่แข่งเราน้อยไหม กาแฟเราอร่อยไหม จุดขายเราเราดีกว่าร้านอื่นไหม
ถ้าสมมติคู่แข่งเยอะ เราขายเหลือวันละ 50 แก้วๆละ 50 บาท เดือนละ 1500 แก้วเราจะได้เงิน 75000 บาท กำไร 40 % จะเหลือ 30000 บาท แต่ค่าใช้จ่ายเรา 33286.44 บาทนะครับ
สรุปขาดทุน 3286.44 บาทต่อเดือน ปล่อยไปเรื่อยๆก็อาจจะเจ๊งได้
เราต้องหาขนมเบเกอรี่มาขายเสริม เมื่อยอดเป้ากาแฟไม่ถึงเพื่อเสริมรายได้ และพยายามลดรายจ่ายให้ได้ถึงจะมีกำไร
#ลงทุนร้านกาแฟ #คำนวณเปิดร้านกาแฟ
โฆษณา