Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
SaraJipata
•
ติดตาม
23 ก.ค. 2022 เวลา 06:38 • สุขภาพ
อยากเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์การป่วยเป็น "โรคงูสวัด" Herpes Zoster ค่ะ
จริงๆแล้วเราตั้งใจจะไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด เนื่องจากก่อนหน้านี้ คุณพ่อเป็น แต่เจ้าหน้าที่บอกว่ายังไม่ต้องฉีด เนื่องจากอายุยังไม่ถึง 50 ปี โอกาสที่จะเป็นน้อย ประกอบกับวัคซีนมีราคาค่อนข้างแพง ~4,7xx บาท พอเจ้าหน้าบอกว่า ยังไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง ประกอบกับความเสียดายตังค์ของตัวเอง ก็เลยคิดว่าดีเหมือนกัน ยังไม่ฉีดก็แล้วกัน
ไม่น่าเชื่อ หลังจากนั้น 1เดือน เราก็เป็น เริ่มจาก เรากลับมาจากประเทศที่หนาวมากมีหิมะตก กลับมาเมืองไทยที่ร้อนมาก ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เริ่มมีอาการป่วยเป็นไข้หวัดปกติ แต่ไม่หายซักที จึงไปพบแพทย์ของบริษัทฯ บอกคุณหมอว่า มีอาการปวดที่ข้างในหูข้างขวามาก และมีไข้ต่ำๆ คุณหมอใช้เครื่องส่องหูและให้ยามาทาน แต่อาการไม่ดีขึ้น รู้สึกว่า ไม่ใช่ ก็เลยไปพบแพทย์ ที่โรงพยาบาลเอกชน เมื่อไปถึง พยาบาลที่เป็นคนคัดกรองโรค ได้มาสอบถามอาการ ตอนนั้น เรามีอาการปวดศีรษะมาก เหมือนจะไม่ไหว ยังคงปวดหูอยู่ และก็ปวดคอ
เจ้าหน้าที่ส่งเราไปพบ แพทย์โรคหู แพทย์เกี่ยวกับ Office Syndrome และ แพทย์เกี่ยวกับการนอนหลับ แพทย์ที่เกี่ยวกับโรคหูตรวจ ก็อธิบายให้ฟังเกี่ยวกับโครงสร้างของหู และให้ยามาทาน แพทย์เกี่ยวกับการนอนหลับ นัดให้เราทำ Sleep Test พบว่ามีภาวะตื่นขณะหลับเป็นพักๆแต่ไม่อันตราย และ แพทย์เกี่ยวกับ Office Syndrome ให้เราไปทำกายภาพบำบัด น้องเจ้าหน้าที่กายภาพบำบัดเป็นคนสังเกตเห็นว่า เรามีแผลที่ต้นคอ ซึ่งเราบอกน้องไปว่า น่าจะเกิดจากการตัดผมซึ่งเป็นแผลจากรอยกรรไกร พบแพทย์ไป 4 คน อาการยังไม่ดีขึ้น
กลับมาบ้าน นอนไม่หลับเลย อยู่ๆก็ เอ๊ะ!!! คิดได้ว่า หรือเราจะเป็น "งูสวัด" เอากระจกส่องแผลที่ต้นคอดู ก็ดูไม่ออก แต่รู้สึกว่าแผลไม่หายซักที และ ปวดแสบปวดร้อน จากที่หมอแต่ละท่านนัดมาพบดูอาการในอีก 1 อาทิตย์ วันรุ่งขึ้น เราก็ไปพบแพทย์อีกครั้ง แพทย์คนที่ 5 เราบอกเจ้าหน้าที่ว่า สงสัยจะเป็น "งูสวัด" เจ้าหน้าที่เลย ส่งไปพบ แพทย์ผิวหนัง ตอนนั้นทรมานมากไม่มีแรงเลย ปวดศรีษะ มึนไปหมด ถึงขนาดต้องนั่งรถเข็นกันเลย แพทย์ผิวหนัง ดูแผลที่ต้นคอ ก็สรุปว่า เราเป็น "งูสวัด"
ให้ยาเฉพาะโรค มาทาน 1 อาทิตย์ เพื่อระงับเชื้อ ยาทาแผล ยาบำรุงประสาท และ ยาแก้ปวดชนิดรุนแรง นัดมาพบแพทย์อีก 1อาทิตย์ เรายังปวดศรีษะรุนแรงมาก ลามมาที่แขนข้างขวา แผลที่ต้นคอ มีลามมาที่ท้ายทอย หลังใบหูขวา แนวขากรรไกรขวา คอด้านหน้าขา และ บริเวณหางตาขวา ดีที่เรานึกออกว่า อาการน่าจะเป็น โรคงูสวัด จึงได้รับการรักษาได้ตรงจุด หลังจาก 1อาทิตย์ มาพบแพทย์ผิวหนังอีกครั้ง แพทย์เห็นว่าแผลไม่ได้ขยายใหญ่ขึ้น และค่อนข้างแห้ง จึงส่งให้เราไปพบแพทย์ระบบประสาท เป็นแพทย์คนที่ 6
แพทย์ระบบประสาท ให้ยาบำรุงประสาท และยาแก้ปวดทาน พร้อมทั้งออกใบรับรองแพทย์ให้หยุดงานให้ เรามีประกันฯ ถ้าจะเบิก ก็ต้องนอน โรงพยาบาล ขอคุณหมอนอนโรงพยาบาล แต่คุณหมอก็ปฏิเสธ ให้เหตุผลว่า ทางบริษัทฯประกันค่อนข้างเข้มงวดในการทำเรื่องเบิกประกัน จึงได้แค่ใบรับรองแพทย์ และพักที่บ้าน อาการที่เป็นคือเชื้อจะลามไปตามแนวเส้นประสาทขึ้นไปที่ศรีษะและแขนข้างขวา ไม่ค่อยมีแผลให้เห็น เข้าใจว่าเชื้อหลบอยู่ข้างใน ตามแนวเส้นประสาท จะปวดศรีษะมาก ร้าวมาถึงแขนขวา ใช้งานมือขวาไม่ได้ กลางคืนนอนไม่ได้เลย ปวดมาก
น้ำหนักลดไปประมาณ 5 ก.ก. อาการปวดในระดับที่ ทำให้เรานึกถึง คนที่เสียชีวิต จากการทนพิษบาดแผลไม่ไหว เป็นแบบนี้นี่เอง บอกกับตัวเองตลอดว่า เราจะทนไหวมั้ย เราไปพบแพทย์ทีละ 2 อาทิตย์ คุณหมอก็จะแค่จ่ายยาบำรุงประสาทที่มีฤทธิ์เป็นยานอนหลับและยาแก้ปวดมาให้ พร้อมทั้งออกใบรับรองแพทย์ให้หยุดงาน ไปพบคุณหมออยู่ 3 ครั้ง ก็มาคิดได้ว่า ไปแต่ละครั้งก็แค่ให้ยามารับประทาน เป็นการรักษาตามอาการ ครั้งที่ 3 พอยาเริ่มหมด อาการยังไม่ดีขึ้น เราก็เปลี่ยนไปพบแพทย์ที่ศูนย์แพทย์ฯแทน เป็นคุณหมอท่านที่ 7
การรักษาเช่นเดียวกัน คือรักษาตามอาการ ได้ยาตัวเดียวกันมาทาน ซึ่งจะถูกกว่า โรงพยาบาลเอกชนมาก แต่ไม่ได้ออกใบรับรองแพทย์ให้หยุดยาวๆให้ ได้แค่ 3 วัน เราหยุดไปประมาณ 6 สัปดาห์ พอครบตามใบรับรองแพทย์ อาการก็ยังไม่ดีขึ้น แต่ก็ต้องไปทำงานแล้ว วันแรกที่ไป ทำงานไม่ได้เลย ยังคงปวดศรีษะกับแนวแขนข้างขวามาก ทำงานอยู่ได้ครึ่งวัน จึงขอลาพักร้อนกลับมาพักที่บ้าน และลาพักร้อนต่ออีก ~ 1อาทิตย์ จึงกลับไปทำงาน อาการค่อยๆดีขึ้นอย่างช้าๆ มือข้างขวาใช้งานไม่ได้ ไม่มีแรงเลย ต้องหัดใช้ Mouse และเขียนข้างซ้ายแทน ทรมานมาก
ขับรถไม่ได้อยู่เกือบ 2 อาทิตย์ ช่วงนั้นเห็นในเฟสฯ มีคุณหมอ ท่านนึงโฆษณาว่าสามารถรักษา อาการหลังจากเป็น "งูสวัด" เลยติดต่อคุณหมอไปทาง line ได้ยามาทาน เป็นคุณหมอท่านที่ 8 ท่านดูจะเป็นผู้เชี่ยวชาญโรคนี้โดยตรง ท่านบอกว่าเป็นยาที่ให้ทาน เป็นยาที่ใช้เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น ช่วยรักษาปลอกประสาทที่ถูกทำลาย และยาแก้ปวดที่มีคุณสมบัติระงับประสาท ทานอยู่ 4 ชุด ก็เริ่มดีขึ้น
นับจากวันแรกที่เป็น จนถึงวันที่อาการเริ่มดีขึ้น ประมาณเกือบ 2 เดือน เป็นช่วงเวลาที่ทรมานมาก และนับจากวันนั้นจนถึงตอนนี้ 2ปีครึ่งพอดี ตอนนี้ยังคงมีอาการปวดแขนข้างขวาอยู่ แต่น้อยลงไปมากแล้ว บริเวณไหล่ขวาก็ยังมีร่องรอยเหมือนไหล่จะติดๆหน่อยๆ พยายามไม่นอนตะแคงขวา (ซึ่งเป็นข้างที่ถนัด) เพราะยังคงปวดอยู่พอสมควร "อโรคยา ปรมราคา" ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐจริงๆ
ขอบคุณความเข้มแข็งของเรา และกำลังใจจากคนใกล้ตัวที่ทำให้เรารอดมาได้ การเจ็บป่วยในครั้งนี้ รวมเบ็ดเสร็จ เราพบแพทย์ทั้งหมด 8 คน เยอะมากค่ะ
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เราคิดได้ว่า "You're your best doctor" หมอที่ดีที่สุดคือตัวเราเอง
ต้องพยายามสังเกตอาการตัวเอง เพราะถ้าเราไม่รู้อาการตัวเอง เราก็ไม่สามารถอธิบายให้เจ้าหน้าที่ หรือคุณหมอทราบ เพื่อวินิจฉัยโรคได้ และต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ทางการแพทย์อยู่เสมอ "ร่างกายเรามีร่างเดียว รักษาไว้ให้ดีๆ" จากการที่เรา ประหยัดค่าฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด ราคา ~4,7xx บาท ทำให้เราต้องเสียค่ารักษาพยาบาลไปทั้งหมด ~5x,xxx บาท เสียทั้งเงิน เวลา สุขภาพ วันพักร้อน ถือว่าไม่คุ้มกันเลย
บุคคลที่มีแนวโน้มจะเป็นงูสวัด
1. คนที่เคยป่วยเป็น โรคอีสุกอีใส Chicken Pox
2. ผู้สูงอายุ ยิ่งอายุมากขึ้น มีโอกาศเป็นมากขึ้น
3. คนที่ภูมิคุ้มกันลด
วิธีสังเกตอาการที่ภูมิคุ้มกันลด
- น้ำหนักลดลงเร็ว
- นอนไม่หลับ พักผ่อนไม่พอ
- ขาดการออกกำลังกาย
- มีผื่นคัน
- เครียด
- ค่าน้ำตาลสูง
- ความดันโลหิตสูง
โดยสรุปวิธีสังเกตอาการว่าจะเป็นงูสวัด
1. มีไข้ช่วงเวลาหนึ่งแล้วไม่หาย
2. มีแผลตุ่มหนอง ปวดแสบปวดร้อนขึ้นที่ร่างกาย
ข้อปฏิบัติ
1. ห้ามแกะแผล
2. ห้ามนวดเพราะการนวดจะทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายเร็ว
3. เมื่อมีอาการ ให้รีบรักษา รับประทานยารักษาไวรัสโดยเร็ว ยิ่งรักษาเร็ว ยิ่งหายเร็ว และอาการจะไม่หนัก
ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง
สุขภาพ
ข้อคิด
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย