26 ก.ค. 2022 เวลา 11:45 • อาหาร
สาระแนสาระกิน - ข้าวมันไก่สิงคโปร์
ใครมาสิงคโปร์ก็ต้องอยากลองชิมหนึ่งในอาหารประจำชาติข้าวมันไก่สิงคโปร์หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Hainanese chicken rice หรือภาษาไทยเรียกข้าวมันไก่สไตล์แบบนี้ว่าข้าวมันไก่ไหหลำที่อยู่คู่กับคนสิงคโปร์มาแต่ไหนแต่ไร
แรกเริ่มสิงคโปร์ได้รับการเรียกขานว่า Sea Town
เริ่มมาชาวจีนไหหลำที่เข้าในมาเลเซียตั้งแต่ตอนที่มาเลเซียเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ตอนที่สิงคโปร์แยกตัวออกมาจากมาเลยเซีย
ขอเกริ่นประวัติอย่างย่อของสิงคโปร์สมัยใหม่ได้ก่อตั้งใน ค.ศ. 1819 โดยเซอร์สแตมฟอร์ด รัฟเฟิลส์ (Stamford Raffles) เพื่อเป็นเป็นสถานีการค้าโดยการอนุญาตจากรัฐสุลต่านยะโฮร์ อังกฤษได้อธิปไตยเหนือเกาะใน ค.ศ. 1824 และสิงคโปร์กลายเป็นหนึ่งในนิคมช่องแคบอังกฤษใน ค.ศ. 1826
หลังถูกญี่ปุ่นยึดครองระหว่าง ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ต่อมาสิงคโปร์ได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรใน ค.ศ. 1963 และเข้าร่วมกับอดีตดินแดนของอังกฤษอื่นเพื่อตั้ง ประเทศมาเลเซียแต่ถูกขับอีกสองปีผ่านพระราชบัญญัติโดยเอกฉันท์ โดยประกาศอย่างเป็นทางการวันที่ 9 สิงหาคม
ฝ่ายสัมพันธมิตรยอมแพ้ต่อกองกำลังญี่ปุ่นในวันตรุษจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1942 นับเป็นการยอมแพ้ของกองกำลังที่นำโดยอังกฤษครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เกาะแห่งนี้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับสมญานามว่า “ป้อมปราการที่ไม่อาจตีฝ่าเข้าไปได้” ได้รับการเปลี่ยนชื่อเสียใหม่เป็น โชนันโตะ (Syonan-to) (หรือ “แสงแห่งเกาะใต้” ในภาษาญี่ปุ่น)
ในปี ค.ศ. 1959 พรรคกิจประชาชน (People’s Action Party - PAP) ชนะการเลือกตั้งครองเสียงข้างมากในสภาจำนวน 43 ที่นั่ง และนายลี กวน ยู ก็ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ ในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1965 สิงคโปร์ก็ได้ประกาศแยกตัวออกจากมาเลเซียและกลายเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีเอกราชและอธิปไตยอย่างสมบูรณ์
ชาวจีนไหหลำนำวัฒนธรรมข้าวมันไก่มาสู่ประเทศแถบนี้และปรับปรุงให้เข้ากับวัตถุดิบ รวมถึงเอกลักษณ์ท้องถิ่นก่อให้เกิดข้าวมันไก่ในประเทศต่างๆที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นแบบมาเลยเซีย เวียดนาม และไทย
ข้าวปั้นไก่ หรือ Chicken rice ball ที่ประเทศมาเลยเซีย
ข้าวมันไก่แบบเวียดนาม
ที่สิงคโปร์ก็เช่นกันชาวจีนไหหลำที่อพยพเข้ามาตั้งรกรากที่สิงคโปร์หลังจากแยกตัวจากมาเลยเซียได้ทำการค้าขายโดยการขายข้าวมันไก่จนกลายเป็นอาหารหลักและเรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติเลยที่เดียวจนเคยมีการทำสำรวจอาหารจานโปรดของคนสิงคโปร์ ผลคือ89% ชอบข้าวมันไก่ ที่สำคัญอาหารอื่นๆในสิงคโปร์อาจจะแพงแต่ข้าวมันไก่ราคาก็ไม่ได้สูงมากเทียบกับอาหารอย่างอื่นเพราะเหตุนี้ด้วย
ชาวจีนไหหลำที่เดินทางข้ามทะเลสู่แหลมมาลายูและตั้งถิ่นฐานในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้
ข้าวมันไก่ไหหลำจะต่างกับแบบไทยที่นำ้จิ้มและซอสที่ราดไก่ รวมถึงการเสริฟที่ไก่จะมาทั้งกระดูกไม่ได้เลาะแบบบ้านเราครับเหมือนสับไก่ทั้งตัว ข้าวมันจะคล้ายเราและมีลักษณะต่างกันตามแต่ละร้านที่สำคัญจะไม่แฉะครับ ข้าวเป็นเม็ดๆ
ไก่พันธุ์เหวินซานคือสายพันธุ์ไก่พื้นเมืองในเกาะไหหลำที่เขาว่าข้าวมันไก่อร่อยที่สุดต้องปรุงจากสายพันธุ์นี้ เพราะเอกลักษณ์กระดูกอ่อน เนื้อแน่น และหนังบาง
เกริ่นมานานผมขอแนะนำร้านโปรดของผมที่ผมคิดว่าอร่อยกว่า 2 เจ้าดังที่มาเปิดสาขาในไทยและรักษาบรรยากาศความเป็น street food ไว้ได้ดีคือร้าน Tian Tian ตั้งอยู่ที่ศูนย์อาหาร Maxwell ครับ ผมให้ 5 ดาวและดีที่สุดในตอนนี้ จากที่ตระเวนชิมมาหลายที่และหลายปี แต่พักหลังมีหลายร้านที่มีเพื่อนๆชาวสิงคโปร์แนะนำ ไว้ครั้งหน้าจะไปลองครับถ้ามีโอกาสอยู่สิงคโปร์นานกว่านี้
ศูนย์อาหาร Maxwell
หน้าร้านที่มีการจัดการชำระเงิน จัดคิวอย่างมีระบบและคนเยอะตลอดเวลา
ได้มิชลิน และคำวิจารณ์บวกคะแนนยอดเยี่ยมจากนักชิมทั่วโลก
ผมซื้อกลับมาทานที่โรงแรม เพราะเอาน้ำจิ้มข้าวมันไก่แบบไทยติดมาด้วย!!! 555 ชอบรสชาติของพริกกับขิงสดๆมากกว่าแบบสไตล์ไหหลำแท้ๆครับ
ทำไมชอบและแนะนำร้านนี้
1. ข้าวที่หุงมาอร่อยมาก คือกินเฉยๆได้เลยจนอยากจะเอากลับมาทำข้าวมันส้มตำกิน ข้าวเป็นเม็ดๆแต่นุ่มไม่แข็งครับ
ข้าวรวนแต่นุ่มไม่แข็งอร่อยมาก
2. ไก่ตอนที่อร่อยคือนุ่มและเนื้อฉ่ำๆอร่อยมาก
สั่งมากินกับน้ำจิ้มแบบไทยครึ่งตัว ไม่ราดน้ำอร่อยมากครับมาทั้งกระดูกเลย
3. น้ำราดไก่ อันนี้คือจุดเด่นของที่นี้ข้าวมันไก้จะมีน้ำราดครับ คล้ายน้ำเกรวี่ที่ทำจากน้ำเคี่ยวกระดูกไก่ผสมเหล้าจีน ถ้าใสๆน่าจะเป็นไก่แช่เหล้าได้ อันนี้แล้วแต่คนชอบ ถ้าอยากทานแบบต้นตำรับก็ราดลงบนไก่ครับ แต่ผมเวลาซื้อจะขอแยกน้ำราด ยกเว้นทานที่ร้านก็ราดมาปกติครับ อันนี้เป็นสูตรเฉพาะร้านใครร้านมัน
ในหม้อแดงคือน้ำราดที่ผมพูดถึง และจะราดลงมาบนตัวไก่เลยตามภาพครับ
4. น้ำจิ้มผมให้พอๆกับร้านอื่นครับ
ในถุงสีแดงออกส้มๆค่อน้ำจิ้มครับรสชาติเหมือนน้ำส้มพรกตำบ้านเราที่ร้านไหนๆผมก็ไม่ชอบ และในถุงน้ำราดสีตาลคือเกรวี่ไก่น้ำราดที่แยกออกมาครับ
ถ้ามาชิมแล้วอย่าลืมแวะไหว้พระวัดเขี้ยวแก้วครับอยู่ตรงข้ามศูนย์อาหาร Maxwell และเดินชมบรรยากาศ China town ไปด้วย
วัดเขี้ยวแก้วที่ผู้เขียนชอบไปยืนสงบรับบรรยากาศแบบชาวพุทธครับ ข้างในสวยมากแต่ห้ามถ่ายรูปครับ
บรรยากาศใน China town ครับ เดินเล่นสนุกแต่ไม่เสียตังครับ 555 ผู้เขียนเดินรับบรรยากาศกลางวัน ถ้ามากลางคืนจะอีกแบบครับ
เพื่อนๆละครับชอบทานข้าวมันไก่สิงคโปร์ร้านไหน
ใครที่อยากชมแบบภาพเคลื่อนไหวติดตามได้ในtiktok ผมครับ
โฆษณา