25 ก.ค. 2022 เวลา 12:19 • หุ้น & เศรษฐกิจ
"USPA" บริษัทคุมท่าเรือยูเครน ผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสงคราม
ธุรกิจท่าเรือในยูเครนเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
ธุรกิจหนึ่งจากสงคราม
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะตั้งแต่ช่วงต้นของสงคราม
ทางรัสเซียได้ทำการปิดกั้นช่องทางการส่งออกทางทะเลดำ
ซึ่งเป็นพื้นที่น่านน้ำที่สำคัญของยูเครนไป
1
ทำให้ไม่มีเรือสินค้าใดสามารถเดินเรือเข้าสู่ท่าเรือของยูเครนได้
ซึ่งมันก็ทำให้เกิดผลกระทบอย่างหนักหน่วงกับบริษัทผู้ดูแลท่าเรือยูเครน
3
บริษัทนั้น ก็คือ “Ukrainian Sea Ports Authority” หรือ “USPA”
บริษัทได้สิทธิควบคุมท่าเรือของยูเครนแต่เพียงผู้เดียว
2
📌 USPA กับการส่งออกของยูเครน
USPA ถูกก่อตั้งขึ้นมาในปี 2013 มีเป้าหมายเพื่อรวบรวมการดูแลท่าเรือต่างๆ ของประเทศยูเครนให้เป็นหนึ่งเดียว
โดยผู้ที่เป็นเจ้าของ USPA ก็คือ รัฐบาลยูเครนนั่นเอง
แรกเริ่มในปี 2013 ทาง USPA มีท่าเรือทางทะเล
ที่อยู่ในการครอบครองด้วยกันถึง 18 ท่าเรือ
แต่ในปีต่อมา ก็ต้องปิดการดำเนินงานไปถึง 5 ท่าเรือ ได้แก่
ท่าเรือ Kerch, Yalta, Sevastopol, Feodosiya, and Yevpatoriy
1
เพราะว่า ท่าเรือทั้ง 5 ตั้งอยู่ในคาบสมุทรไครเมียร์
ซึ่งเป็นดินแดนข้อพิพาท ที่ถูกรัสเซียผนวกไปเมื่อปี 2014
3
ความขัดแย้งในตอนนั้น สร้างความเสียหายให้กับยูเครนพอตัวเลยทีเดียว
ทั้งท่าเรือที่สูญเสียไปและปริมาณการส่งออกที่ตกลงไปอย่างมากในปี 2015
แต่ทั้งยูเครน และบริษัท USPA ก็พยายามต่อยอดจากสิ่งที่เหลืออยู่
พยายามสร้างท่าเรือที่มีคุณภาพและก็ส่งเสริมการส่งออกมาอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2021 เป็นปีที่ยูเครนมีปริมาณการส่งออกมากที่สุด
นับตั้งแต่ปี 2012 ที่เป็นปีก่อนที่รัสเซียจะผนวกรวมไครเมียเสียอีก
โดยมีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
2
ซึ่งพอดูในรายละเอียด สินค้าประเภทหนึ่งที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
และมีสัดส่วนเป็นอันดับที่ 2 ในหมวดสินค้าใดๆ ของยูเครน
ก็คือ “ธัญพืช” ซึ่งเราจะเล่ารายละเอียดในส่วนต่อไป
1
เมื่อการส่งออกเติบโต ทาง USPA ก็กลายเป็นหนึ่งในรัฐวิสาหกิจที่ใหญ่ที่สุดของยูเครน สร้างรายได้ให้รัฐอย่างต่อเนื่อง
โดยข้อมูลล่าสุดในปี 2020 USPA รายงานตัวเลขรายได้สุทธิอยู่ที่ 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีปริมาณสินค้าเข้าออกกว่า 159 ล้านตัน
และก็ยังมีแผนที่จะพัฒนาท่าเรือของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง
โดยข้อได้เปรียบที่สำคัญของ USPA คือภูมิศาสตร์ของประเทศ
ยูเครนมีแม่น้ำที่เชื่อมตั้งแต่เมืองหลวงกรุงเคียฟลงมาสู่ท่าเรือทางทะเลได้เลยและท่าเรือทางทะเลก็ยังเป็นจุดเชื่อมต่อของทวีปยุโรปและเอเชีย
2
ทำให้พวกเขาสามารถพัฒนาการขนส่งที่มีต้นทุนถูก
และก็ส่งไปค้าขายได้กับทั้งสองภูมิภาคของโลกที่สำคัญของโลก
รัสเซียปิดกั้นท่าเรือของยูเครน
กลับมาที่เหตุการณ์ในปัจจุบัน เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลกระทบอย่างมากต่อ USPA
เพราะตั้งแต่ช่วงต้นของสงคราม ทางรัสเซียก็ได้สั่งปิดน่านน้ำห้ามเรือทั้งหมดเข้าออกท่าเรือของยูเครน
2
ซึ่งก็เป็นการปิดตาย ทำให้ทาง USPA ไม่สามารถดำเนินงานหารายได้
ผ่านทางท่าเรือทั้งหมดของตัวเองได้ทันที
ไม่เพียงเท่านั้น ทางรัสเซียก็ยังดำเนินการทางทหาร
รุกคืบเข้ามาทางภาคตะวันออกของยูเครนยึดท่าเรือของยูเครนที่เชื่อมต่อกับทะเล Azov
โดยเมืองท่าที่เราได้ยินชื่อในข่าวบ่อยครั้ง ที่ถูกรัสเซียเข้ามายึดได้ ก็คือ
เมือง Mariupol และอีกท่าเรือทะเลหนึ่งที่ถูกยึด คือ Berdiansk
1
รัสเซียผนวกดินแดนที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ท่าเรือของยูเครนเรื่อยๆ เครดิตภาพ : AFP via France24
ซึ่งท่าเรือฝั่งตะวันออกส่วนนั้น เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ
เพราะมันเชื่อมต่อกับทางออกสู่ทะเลดำของรัสเซียเช่นกัน
ทำให้ทางรัสเซียจึงตัดสินใจรุกคืบเข้ามา
2
ตั้งแต่เริ่มสงคราม เรือไม่สามารถเดินทางเข้าสู่ท่าเรือที่อยู่ในควบคุมของยูเครนได้ เครดิตภาพ : MarineTraffic.com
และก็ยังมีปฏิบัติการณ์ทางทหารรุกคืบยึดท่าเรือมาทางตะวันตกมากขึ้น
จนตอนนี้ท่าเรือทางทะเลของ USPA และยูเครน
จากที่ตอนแรกมี 18 เหลือ 13 ตอนนี้อาจจะเหลือไม่ถึง 10 ท่าเรือแล้ว
1
อย่างไรก็ดี พวกเขาก็ยังเหลือท่าเรือสำคัญ เช่น Odessa, Chornomorsk, Mykolaiv และ Yuzhne อยู่ในพื้นที่การครอบครอง รอวันที่จะได้เปิดดำเนินการอีกครั้ง
และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็มีข่าวที่เหมือนจะสร้างความหวังให้กับหลายคน
เนื้อข่าวบอกว่า รัสเซียตกลงที่จะให้ยูเครนสามารถส่งออกธัญพืชได้
โดยจะมีทางตุรกีเป็นตัวกลางช่วยตรวจสอบให้ว่า ไม่มีการขนส่งอาวุธแทน
1
ซึ่งถือเป็นข่าวดีกับการภาวะการขาดแคลนและราคาอาหารโลก
เนื่องจากยูเครนเป็นผู้ผลิตและส่งออกธัญพืชที่สำคัญของโลก
ทั้งข้าวโพด ข้าวสาลี และข้าวบาร์เลย์*
*อ้างอิงข้อมูลจาก Trademap ยูเครนส่งออกข้าวโพดมูลค่าอันดับ 3
ข้าวสาลีอันดับ 5 และข้าวบาร์เลย์อันดับ 3 ของโลกในปี 2021
และก็ยังมีสัดส่วนการส่งออกไปสู่ประเทศตะวันออกกลางจำนวนมาก
ซึ่งประเทศเหล่านี้มักจะมีกลุ่มคนที่อยู่ในสภาวะลำบากและเปราะบางจำนวนมาก
การที่ยูเครนส่งออกธัญพืชไปให้น่าจะช่วยให้สถานการณ์ของพวกเขาดีขึ้น
และทางยูเครนเอง แม้จะไม่สามารถส่งออกสินค้าได้ทั้งหมด
แต่อ้างอิงจาก USPA แล้ว สินค้าที่มีสัดส่วนการค้าสูงที่สุดที่ท่าเรือยูเครน
ก็คือ “ธัญพืช” ที่มีสัดส่วนกว่า 35%
1
การที่เปิดท่าเรือให้ธัญพืช ก็สร้างรายได้ให้กับยูเครนไม่น้อยแน่นอน
แต่หลังจากไม่กี่ชั่วโมงที่มีข่าวการตกลงกันออกมา ก็มีข่าวร้ายตามมาว่า
ทางรัสเซียได้ยิงมิสไซส์ถล่มท่าเรือ Odessa ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในยูเครน
ทางยูเครนก็ออกมาประณามการกระทำของรัสเซียทันที และบอกว่า รัสเซียเชื่อถือไม่ได้
แต่ทางรัสเซียก็ออกมาแก้ต่าง บอกว่า พวกเขาโจมตีไปที่ “เรือรบ” ของยูเครน
3
และมิสไซส์ที่พวกเขาใช้มีความแม่นยำสูงอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้น
ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อท่าเรือที่เป็นส่วนสินค้า
1
แต่พอเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมา ก็ทำให้เกิดความไม่แน่นอนแล้วว่า
สัญญาที่จะอนุญาตให้มีการส่งธัญพืชและอาหารจะเป็นอย่างไรต่อ
และท่าเรือบริเวณที่รัสเซียยึดไป จะถูกยึดไปอย่างถาวรเลยหรือไม่
ซึ่งเหตุการณ์นี้ ก็จะมีนัยยะที่สำคัญอย่างมากต่อทั้งธุรกิจท่าเรือและการส่งออกของยูเครน และภาวะการขาดแคลนอาหารของโลกต่อไป
2
ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References :
โฆษณา