26 ก.ค. 2022 เวลา 13:24 • ไลฟ์สไตล์
ชีวิต "พัฒนากร" ห่างหายไปค่อนข้างนาน จากการเปลี่ยนบทบาทหน้าที่การงานเป็นราชการ โดยไม่ค่อยได้เตรียมตัว และด้วยอายุ 30+ แล้ว ไม่เคยสนใจงานด้านราชการมาก่อน พอคิดว่าอายุขนาดนี้แล้ว เราน่าจะหางานที่มั่นคงไว้พึ่งพิงยามแก่ ที่จะประทังชีวิตไปได้ เลยตัดสินใจองสอบเพื่อดข้ามาในเส้นทางของราชการ
ซึ่งในตอนแรกก็ไม่ได้สนใจงานราชการ รู้แต่เรียนจบก็จะทำงานบริษัทเอกชนเงินเดือนเริ่มต้น 20,000 ขึ้นไปในสมัยนั้น มันมีโอกาสหาเงินสนองความต้องการสิ่งต่างๆได้ดีกว่า แต่พอไปทำงานใน กทม. ซักพักรู้เลยว่าค่าครองชีพมันสูงขนาดไหน หาได้เท่าไหร่ก็ใช้ไปเท่านั้น ทำได้ไม่นานก็คิดว่าถ้าเราทำงานแล้วสุดท้ายมันไม่เหลืออะไร เรากลับไปช่วยงานพ่อแม่ที่บ้าน ให้ท่านได้แบ่งเบาภาระลงบ้างมันคงคุ้มค่ากว่า
จากการกลับมาช่วยงานที่บ้าน เมื่อเวลาผ่านไป เค้ากลับคิดว่าเราไม่สามารถเอาตัวเองรอดได้ จึงกลับมาพึ่งพาอาศัยเค้า เราเองที่กลับมาด้วยความห่วงใยก็เสียความรู้สึกนั้นไป และคิดว่าเราต้องแสดงให้เห็นว่าเราเองไม่ใช่คนไร้ค่าที่ไม่มีที่ไป แต่จะออกไปทำงานเอกชนด้วยอายุขนาดนี้ก็เกินวัยที่จะไปเริ่มต้นใหม่ให้อายเด็กๆ จึงเห็นทางเดียวที่เปิดกว้างสำหรับทุกคนที่มีความสามารถ จึงเริ่มต้นการ "สอบราชการ"
ในตอนแรกหลังอายุ 25 ระหว่างบวชในช่วงพรรษาก็ไก็ตริตรองว่า เราจะไปเส้นทางไหนได้บ้าง ด้วยธรรมขัดเกลา จึงพินิจเห็นว่า เส้นทางราชการ เป็นเส้นทางที่เราฝากชีวิตไว้ได้ แม้ไม่ร่ำรวย แต่เรามีเงินเดือนที่แน่นอน และการงานที่แน่นอนไม่ตกงานจนเกษียณมีเงินบำนาญใช้ หลังจากออกพรรษา ก็ได้ลาสิกขา และเรียนปริญญาตรี รัฐศาสตร์ รามคำแหง เป็นปริญญาตรีใบที่สอง เพื่อจะได้สอบตำแหน่งปลัดอำเภอ หากเปิดสอบ และลงสมัครสอบ กพ. ก. ในปีนั้น และระหว่างเรียนใช้เวลากว่า 1 ปี ก็จบมาได้ด้วยมีปริญญาตรีก็สามารถเทียบโอนได้กว่าครึ่ง
หลังจากเตรียมตัวระหว่างทางมานี้ใช้เวลาเรียนปริญญาตรีรัฐศาสตร์ รามคำแหงจนจบ และสอบ กพ. ภาค ก. ถึง 2 ครั้ง ก็ไม่ทันการสอบปลัดอำเภอที่หวังไว้ เนื่องจากการประกาศผลสอบของ กพ. ก. ใช้เวลาเกินกว่า ช่วงเวลาที่เปิดรับสมัครไปมาก จึงพลาดโอกาสในปีนั้นไปอย่างน่าเสียดาย และในปีนั้นเองผลสอบ กพ. ก. ว่าผ่าน และต่อมามีการเปิดสอบตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฎิบัติการ หรือ อีกชื่อว่า
พัฒนากร
ของกรมการพัฒนาชุมชน ก็ชวนเพื่อนสมัยมัธยมปลาย ที่ไม่ได้เจอกันมานาน และได้เจอกันในวันที่เราไปรับปริญญาพร้อมแฟนของเพื่อนนั้น จึงได้ลงสมัครสอบตำแหน่งพัฒนากร โดยที่ไม่เคยรู้เลยว่า คืออะไร ????
จากการที่ๆได้คุยกับเพื่อน คือ ลองสอบปลัดอำเภอ จึงลงสนามสอบเพื่อลองดูว่าสนามสอบของราชการเป็นอย่างไร จึงตั้งใจในการสอบกันครั้งนี้มากเพื่อวัดระดับความสามารถของตัวเองก่อน และได้สมัครคอร์สติว ที่ไม่เคยคิดสมัคร ราคากว่า 1300 บาท ในเมื่อลงทุนแล้วเราก็ต้องทุ่มเท จึงได้ตั้งใจอ่าน และดูคลิปติวทุกคืน หลังจากเลิกงาน โดยไม่เคยเบียดบังเวลางานหลักในเวลากลางวันเลย เพื่อพิสูจน์ว่าเราจะสอบได้ เราก็สามารถติวอ่านได้ในเวลาพัก ขอแค่ตั้งใจที่จะสอบในตำแหน่งนั้นจริงๆ
เมื่อถึงวันสอบก็ชวนเพื่อนไปสอบด้วยกัน เพื่อนขับรถพาไป เราออกค่าน้ำมัน สอบแบบมึนๆ ออกจากห้องสอบกันมาคุยข้อสอบตอบไม่ตรงกันเท่าไหร่ ฟังคนที่ออกมาคุยกันเราก็จำไม่ได้เลยว่าตอบอะไรแต่ทำไมไม่เหมือนเรา ได้แต่ทำใจสงสัยเราอ่านพลาดไป เดินออกมาหน้าตาลอยนั่งรถกลับบ้าน เมื่อถึงวันประกาศผลสอบ เพื่อนรีบโทรหา มีชื่อไปสอบสัมภาษณ์ก็พากันไปสอบสัมภาษณ์อีกรอบ ลงทุนถอยสูทคนละตัวคิดว่าได้ใส่แน่ถ้าได้บรรจุเข้ารับราชการ ใจก็หวังว่าจะได้บรรจุจริงๆ
พอถึงวันประกาศผล พระเจ้าช่วย เราได้อันดับ 625 ส่วนเพื่อนได้อันดับ 1,xxx เพื่อนเศร้าเพราะอันดับอยู่ท้ายตารางเลย เราอยู่ระดับกลางๆ จากสถิติแล้ว คาดว่าเรียกถึงแน่ๆ ก่อนหมดเวลาขึ้นบัญชี 2 ปี โดยใช้เวลามากกว่า 1 ปี เพราะจากสถานการณ์ โควิด บัญชีที่เรียกเดือนละ 100 ตำแหน่ง หยุดเรียกไป 8 เดือน และแล้ว ผมก็ได้รับจดหมายเรียกเข้ารับราชการ ในรุ่น "พัฒนากร 116"
พัฒนากร 116 ในการอบรมหลักสูตรพัฒนากรก่อนประจำการ
โฆษณา