27 ก.ค. 2022 เวลา 04:25 • ธุรกิจ
เชนร้าน KFC ในเครือไทยเบฟฯ เตรียมฉลองครบ 430 สาขา พร้อมรุกธุรกิจกาแฟ KFC Café by SO COFFEE
บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย (QSA) ภายใต้กลุ่มธุรกิจอาหารไทยเบฟฯ ในฐานะผู้ได้รับสิทธิ์การบริหารร้าน KFC ในไทย ที่สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง
พร้อมสร้างประสบการณ์ตอบโจทย์คนยุคใหม่ จับมือพันธมิตรในเครือ เปิดตัว KFC Café by SO COFFEE เอาใจลูกค้าที่ชื่นชอบกาแฟและเครื่องดื่มที่หลากหลาย
เป็นการต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง
(ทั้งนี้ แบรนด์ KFC มีบริษัท Yum! Brands เป็นเจ้าของ
โดยมีบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล และบริหารแบรนด์ KFC ในประเทศไทย
ส่วนผู้ที่ได้สิทธิ์แฟรนไชส์ในการบริหารจัดการร้าน KFC ในไทย มีทั้งหมด 3 กลุ่มบริษัท ได้แก่
บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (QSA), บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (RD) และ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG))
คุณศสัย ตังเดชะหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (QSA) เปิดเผยว่า
ในปี 2565 QSA ตั้งเป้าผลักดันยอดขายเติบโตกว่า 20% ผ่าน 3 กลยุทธ์หลักประกอบไปด้วย
1) มัลติ สโตร์ ฟอร์แมต (Multi Store Format)
การมีฟอร์แมตของร้านที่หลากหลาย ประกอบกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ ซึ่งช่วยในเรื่องการขยายสาขาตามสภาพแวดล้อมเพื่อเข้าถึงกลุ่มบริโภคได้อย่างเหมาะสม
ครอบคลุมตั้งแต่ร้านขนาดใหญ่ในห้างสรรพสินค้า, ร้านขนาดกลางในสถานีบริการน้ำมัน และ Community mall ไปจนถึง ร้าน “Shop House” ในย่านชุมชน
รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาสร้างประสบการณ์ใช้งานในรูปแบบใหม่ นำไปสู่การบริการลูกค้าที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ร้าน KFC Digital Lifestyle Store สั่ง จ่าย แบบไร้สัมผัสที่แรกในประเทศไทย ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์
และล่าสุด ทางบริษัทฯ ได้ทำการเปิดสาขาแรกในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่อาคารผู้โดยสาร ชั้น 3 เพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยมีการอำนวยความสะดวกในการสั่งอาหารผ่านเครื่องสั่งอาหารด้วยตนเอง (Self-Ordering Kiosk) ตลอด 24 ชั่วโมง นับว่าเป็น Branded Store ให้กับ KFC ประเทศไทย ในการต้อนรับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี
2) การเข้าถึงลูกค้าจากทุกช่องทาง
นอกจากการให้บริการภายในร้านแล้ว การจัดส่งอาหาร (Delivery) ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบริการแบบซื้อกลับ การบริการในรูปแบบ self-pick up ที่ลูกค้าสามารถสั่งผ่านมือถือได้ล่วงหน้าและเลือกรับจากสาขาที่สะดวก
โดยได้ขยายการให้บริการดังกล่าวในทุกช่องทางและทุกพื้นที่ที่มีร้าน KFC
อีกทั้งทาง QSA เล็งเห็นโอกาสในการเพิ่มช่องทางส่งมอบอาหารและบริการที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย “KFC ฟู้ดทรัค” ที่มีการเสริมนวัตกรรมต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์เพื่อลดการใช้พลังงาน และการดูแลเรื่องสุขอนามัยตั้งแต่กระบวนการผลิต การดูแลเรื่องเศษอาหารและถังดักไขมันให้เป็นน้ำสะอาดเพียงพอในการระบายทิ้งตามมาตรฐานที่กำหนดเฉกเช่นเดียวกันกับร้านอาหาร
3) การขยายการเติบโตผ่านสายผลิตภัณฑ์
KFC ยังคงยึดมั่นในตัวตน ตอกย้ำความเป็นตัวจริงเรื่องไก่ทอด โดยยังคงเดินหน้าคิดค้นพัฒนาเมนูใหม่ รวมไปถึงการจัดโปรโมชันต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายออกมารองรับพฤติกรรมผู้บริโภค
อีกทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าไปอยู่ในโอกาสการรับประทานของผู้บริโภคให้มากขึ้น จึงทำให้เกิดการต่อยอดแบรนด์ KFC โดยร่วมสร้างโอกาสทางธุรกิจกับพันธมิตรในเครือ เปิดตัว “KFC Café by SO COFFEE”
สร้างสรรค์เครื่องดื่มเอาใจลูกค้าด้วยกาแฟคุณภาพดี เมล็ดกาแฟผ่านการคัดสรรสายพันธุ์คุณภาพจากที่ราบสูงโบโลเวน ประเทศลาว หนึ่งในแหล่งปลูกกาแฟที่มีชื่อเสียงระดับโลก นำมาเบลนด์ตามสูตรเฉพาะของ KFC Arabica Blend
อีกทั้งยังมีเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ เช่น ช็อกโกแลต, มัทฉะ, สตรอว์เบอร์รีพิงกี
ซึ่งจากการเปิดตัว KFC Café by SO COFFEE ไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าที่ชื่นชอบรสชาติกาแฟระดับพรีเมียม ในราคาจับต้องได้ สร้างยอดขายเติบโต โดยมีสัดส่วน 40% ของกลุ่มเครื่องดื่ม
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายการให้บริการ KFC Café by SO COFFEE ในสาขาของ QSA จำนวน 250 สาขา ภายในปี 2565
โดยเน้นทำเลสาขาที่ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตีมอลล์ และร้านไดร์ฟ ทรู ครอบคลุมกว่า 50 จังหวัดในประเทศไทย
สำหรับภาพรวมธุรกิจ KFC
QSA ตั้งเป้าสร้างยอดขายเติบโต 20% และเปิดสาขาเพิ่มเติมกว่า 30 สาขาในปี 2565 รวมเป็นจำนวนสาขากว่า 430 สาขา
หรือเติบโตกว่า 60% จากปี 2561 ที่ได้รับสิทธิ์เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ซีของ KFC ในประเทศไทย
ปัจจุบันร้าน KFC มีทั้งหมด 953 สาขาในประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานของ 3 บริษัทผู้ได้รับสิทธิ์แฟรสไชส์ (QSA, RD และ CRG)
โฆษณา